เสียงดังสนั่นกลางเมืองหลวงช่วงบ่ายปลายดือนมีนาคม 2568 ไม่ใช่เสียงของระเบิด แต่คือเสียง “อาคารสำนักงาน สตง. ถล่ม” — และสิ่งที่ตามมาหลังเสียงนั้น ไม่ใช่แค่เศษซากตึก แต่คือคำถามหนักหน่วง นอกจากการออกแบบและการก่อสร้าง ว่า เหล็กที่ใช้สร้างอาคารนี้…แข็งแรงจริงหรือไม่?
⸻
“ซิน เคอ หยวน” กับเหล็กที่เบากว่ามาตรฐาน
ต้นตอของคำถามนั้นพุ่งตรงไปยังชื่อบริษัท “ซิน เคอ หยวน” โรงงานผลิตเหล็กที่นำเข้าจากจีน ซึ่งพบว่า เหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มม. และ 32 มม. ที่ใช้ในโครงการนี้ “ตกค่ามวลต่อเมตร” จากการทดสอบของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยถึง 2 ครั้งซ้อน
ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันว่า เหล็กของซิน เคอ หยวนเบากว่ามาตรฐาน SD40T และผลิตด้วยเทคโนโลยี เตาหลอม IF (Induction Furnace) ซึ่งแม้จะต้นทุนต่ำ แต่ควบคุมคุณภาพได้ยาก
และนี่ไม่ใช่เคสเดียว — มีโรงงานอีกหลายแห่งที่ผลิตเหล็กจากเตา IF และพบปัญหาเช่นเดียวกัน
⸻
เมื่อเตา IF กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “เหล็กเปราะ”
ปัญหาคุณภาพเหล็กไม่ได้อยู่แค่ในห้องทดลอง แต่มันพังตึก พังชีวิต และอาจพังความเชื่อมั่นของประชาชนต่อโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ
กระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จึงเริ่ม “ทบทวนการรับรองมาตรฐาน มอก.” สำหรับเหล็กที่ผลิตจากเตา IF
โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการใช้ เตาหลอม EF (Electric Arc Furnace) ที่ปลอดภัยกว่า ควบคุมคุณภาพได้มากกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
⸻
ทุนจีนขู่จะหนี…ชีวิตกับทุน รัฐบาลต้องเลือก
แต่ทันทีที่รัฐประกาศแนวทางนี้ มีเสียงขู่จาก “โรงงานเหล็กทุนจีน” กว่า 14 แห่งในไทย ว่าอาจ “ย้ายฐานการผลิต” หากรัฐบาลไม่ยืดหยุ่น
บางแห่งยังอ้างว่าการเปลี่ยนเตาหลอมต้องใช้เงินมหาศาลและทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป
คำถามคือ:
ประเทศไทยควรกำหนดมาตรฐานของตัวเอง หรือปล่อยให้ทุนข้ามชาติกดดันได้ทุกครั้งที่กฎเข้มขึ้น?
ต้องเด็ดขาดเพื่อได้ “เหล็กมาตรฐาน“ สร้างความปลอดภัยในชีวิต
หรือจะ ”ติดกับดัก” เงินทุน รัฐบาลต้องเลือก
⸻
เหล็กจีนเคยทุบเหล็กไทยมาแล้ว…นี่อาจเป็นโอกาสฟื้นฟู
ในอดีต เหล็กจากจีนที่หลั่งไหลเข้ามาขายในราคาถูกจนโรงงานไทยจำนวนมากต้องปิดกิจการ โดยเฉพาะผู้ผลิต SME ที่ไม่สามารถแข่งราคาได้
หลายฝ่ายเรียกสิ่งนี้ว่า “การทุบตลาดจากต่างชาติ” ซึ่งไม่เพียงทำลายผู้ผลิตในประเทศ แต่ยังทำให้วัสดุไม่ได้มาตรฐานกระจายไปตามโครงการก่อสร้าง กลายเป็นภัยเงียบที่แฝงอยู่ตามอาคารสูง
วันนี้ หากโรงงานเหล่านั้นขู่จะหนี…บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจอย่างที่คิด
แต่นี่อาจเป็นโอกาสในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมเหล็กไทย
บนรากฐานที่มั่นคงกว่าเดิม
บนความปลอดภัยของประชาชน
⸻
สิ่งที่รัฐควรทำต่อจากนี้:
- เดินหน้าปรับมาตรฐาน มอก. แบบไม่ถอย เพื่อความปลอดภัยระยะยาวของประเทศ
- เยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลง และสนับสนุนโรงงานที่ปรับตัวทัน
- สร้างระบบตรวจสอบเหล็กอย่างโปร่งใส ทั้งในระดับโครงการรัฐและเอกชน
- ส่งเสริมผู้ผลิตไทยรายเล็ก–กลาง ให้กลับมาแข่งขันได้ ด้วยมาตรการทางภาษี หรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี
⸻
จากตึกที่ถล่ม…ถึงประเทศที่ควรยืนอยู่บนเหล็กที่มั่นคง
เสียงของเหล็กที่เบากว่ามาตรฐาน อาจเงียบในห้องแลป
แต่เสียงของอาคารที่ถล่ม…ดังก้องถึงจิตใจคนทั้งประเทศ
หากวันนี้เรายอมให้ทุนจีน “หนีไป” เพราะมาตรฐานที่เข้มขึ้น
บางทีมันอาจไม่ใช่การสูญเสีย
แต่คือ การปลดล็อกอนาคตที่ไทยจะไม่ต้องกลัวว่า “เหล็กจะหลอกเรา” อีกต่อไป