“ใช้กระสุนหรือไม่อยู่ที่คนกระทำผิดถูกจับหรือเปล่า” — วลีสั้น ๆ จากปาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ระหว่างตอบคำถามเรื่องซื้อเสียงในการเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 8 ไม่ได้แค่หลุดปากอย่างเผลอไผล หากแต่มันเผยให้เห็นบางอย่างที่สำคัญกว่านั้น — มันคือ บทสารภาพกลางแสงสว่าง ว่าในสนามเลือกตั้งไทยวันนี้ “การทำผิด” ไม่ใช่เรื่องผิดหากไม่มีใครจับได้ และกฎหมายก็เป็นได้แค่ “ตัวหนังสือ” ที่รอดูโชคชะตาจะเลือกลงโทษใคร
เมื่อนักการเมืองไม่กลัวซื้อเสียง เพราะไม่เคยถูกจับ
การซื้อเสียงไม่เคยหายไปจากการเมืองไทย — แต่ครั้งนี้ ความน่ากลัวคือ มันไม่จำเป็นต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกแล้ว
เมื่อคนในแวดวงการเมืองระดับสูงพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ไม่สะทกสะท้าน
เมื่อผู้มีหน้าที่กำกับความสุจริตของการเลือกตั้งอย่าง กกต. ยังไร้ปฏิกิริยาที่เป็นรูปธรรม…ไม่อายที่ถูกหยาม ก็ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมหลายคนประสานเสียง ”มีกกต.ไว้ทำไม?“
สนามเลือกตั้งจึงกลายเป็นพื้นที่ที่ “โกงได้ถ้าแนบเนียนพอ” — และคำว่า “การเลือกตั้งสุจริต” เหลือเพียงพิธีกรรมเพื่อเอาใจสังคม
ในบริบทเช่นนี้ ผลการเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชจึงเป็นบทสะท้อนมากกว่าการเปลี่ยนมือผู้แทน
มันสะท้อนถึงการเปลี่ยนสภาพภูมิทัศน์การเมืองในภาคใต้ที่เคยมั่นคงและหยั่งรากกับประชาธิปัตย์มายาวนาน และเคยประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่า “การซื้อเสียงเข้าถึงได้ยาก” ได้ถูกพังทลายไปแล้ว
ก้าวแรกภาคใต้ของ “ทักษิณ” ผ่านพรรคกล้าธรรม
พรรคกล้าธรรม — พรรคการเมืองเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร ที่ครั้งหนึ่งไม่อาจฝันถึงการปักธงในภาคใต้ — กลับทำได้จริง ด้วยคะแนนเสียงจากประชาชนที่ได้เดินทางออกนอกเส้นทางที่เคยเป็นไปแล้ว…และดูเหมือนยากจะหวนคืนกลับเส้นทางเดิมด้วย
ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ บิ็กโอ ลูกเขย ”ชินวรณ์ บุณยเกียรติ“ ที่คว่ำ “พ่อตา” พ่ายไปอย่างหมดรูป ได้คะแนนเพียงสี่พันกว่าคะแนนเท่านั้น ทั้งที่ “ชินวรณ์” เป็นสส.มาหลายสมัย สวมเสื้อสีฟ้า ปชป.ที่เคยครองใจคนใต้มายาวนานหลายสิบปี เป็นการพลาดท่าแบบ ”ศึกครอบครัว เดือดไปถึงการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในหลายบริบท“
24 ปีในเส้นทางการเมือง หลังไทยรักไทยชนะเลือกตั้ง “ทักษิณ” ไม่เคยได้สส.ในพื้นที่ภาคใต้เลย แต่มาคราวนี้แม้ไม่ได้สส.ในนามพรรคเพื่อไทย แต่เป็นที่รู้กันว่า “กล้าธรรม” ก็คือส่วนหนึ่งของ “เพื่อไทย“ ชัยชนะครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งบริบทที่น่าจับตา
นอกจาก “น่าจับตา” เชื่อว่า “ทักษิณ” คง “สะใจ” อย่างที่สุด
เพราะคนที่ต่อต้านระบบทักษิณเข้มแข็งที่สุดอย่าง ”ภาคใต้“
ก็ ”เปลี่ยนไปแล้ว“ เปลี่ยนไปอยู่ในกำมือที่เขามั่นใจได้มากขึ้นว่า
”สยายปีก“ ได้
ส่วน “ปชป.“ เจ็บลึก…อยู่ที่ว่าจะรอวันล่มสลายหรือจะเรียนรู้และรีบแก้ไข
แต่จะ ”ทัน“ หรือไม่ เกินกว่าจะให้ ”กำลังใจ“ ได้
เพราะที่มีวันนี้ ”โทษใครไม่ได้…นอกจากทำตัวเอง“
เลือกตั้งปี 62 เริ่มแตก…ปี 66 พังยับ
เลือกตั้งซ่อมเขต 8 เมืองคอน “หมดสภาพ”
ตอกย้ำ ”ภาคใต้คือพื้นที่ ที่ใคร ๆ ก็เข้ามาช่วงชิงได้“
———-
ตรวจสอบไม่ได้…ใช้เงินเข้าสู่อำนาจ…แล้วจะใช้อำนาจไปทำอะไร?
เมื่อกลไกตรวจสอบไร้พลัง
เมื่อคนโกงไม่กลัวกฎหมาย ท้าทายด้วยซ้ำ ”ใช้กระสุนหรือไม่ อยู่ที่คนทำผิดถูกจับหรือเปล่า?“ นั่นคือเย้ยหยันว่า ”ต่อให้ทำผิดก็จับไม่ได้ เมื่อจับไม่ได้การทำผิดก็ไม่เคยเกิดขึ้น“
เมื่อพรรคเก่าไม่สามารถสร้างความหวังใหม่
สนามการเมืองไทย — และโดยเฉพาะสนามภาคใต้ — กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ไม่มีที่ว่างสำหรับ “อดีต” อีกต่อไป
ในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อำนาจกระสุนยังมีอิทธิพล
ภาคใต้กลายเป็นสนามที่เต็มไปด้วยเงินกระสุนและความไม่โปร่งใส
และนั่นคือสัญญาณที่น่ากลัวที่สุดสำหรับ ”ปชป.“ — ไม่ใช่แค่การเสียที่นั่งในสภาฯ
แต่คือการเสียใจกลางของศรัทธา ที่อาจไม่มีวันได้กลับคืนมา
สิ่งที่อยากสะกิดไปถึงคนใต้คือ…
เมื่อเงินมีบทบาท…อำนาจที่เขาได้ไป
จะใช้เพื่อประชาชน…หรือเพื่อถอนทุนที่ลงเงินไป