“ดูงาน” กลายเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ของระบบราชการไทย
ไม่ว่าการใช้จ่ายจะสูงแค่ไหน หากพ่วงท้ายคำว่า “เพื่อดูงาน” ไว้ก็เหมือนมีเกราะคุ้มกันทางศีลธรรม
ล่าสุด “รัฐสภาไทย” ตกเป็นเป้าอีกครั้ง หลัง ส.ส.พรรคประชาชนออกมาเปิดเผยว่า มีการของบปรับปรุงอาคารหลายโครงการ ที่ดูไม่จำเป็น แต่ใช้งบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อโครงการ โดยหนึ่งในนั้นคือ ห้องประชุมใหม่ที่ถูกเปรียบว่าเหมือนโรงหนัง 4D — มีจอใหญ่ ทางเดินต่างระดับ และองค์ประกอบพิเศษเพื่อ “รับคณะดูงาน”
จำได้ไหม? …“โรงหนัง สตง.” ก็เพิ่งโดนด่า
ไม่กี่เดือนก่อน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็เพิ่งถูกสังคมวิจารณ์หนักจากภาพห้องประชุมสุดหรูที่ถูกเปรียบว่าเป็น “โฮมเธียเตอร์” พร้อมเก้าอี้เอนหลัง หน้าจอใหญ่ แสงไฟครบเซต
เสียงประชาชนจึงถามกลับว่า
“ใครตรวจคนตรวจงบ?”
แล้วรัฐสภา…จำเป็นแค่ไหนถึงต้องมีห้องเหมือนโรงหนัง?
ว่าที่ ร.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อธิบายว่า งบเหล่านี้ผ่านการพิจารณาร่วมของประธาน–รองประธานสภา และฝ่ายบริหาร โดยเห็นว่าอาคารบางส่วนควรปรับปรุงให้เหมาะสม เช่น เพื่อรองรับคณะดูงานในพื้นที่อย่าง “อู่ทองใน” จึงมีการออกแบบห้องประชุมที่มีจอขนาดใหญ่ ระบบเสียง และที่นั่งทางต่างระดับ
คำอธิบายดูเผิน ๆ มีเหตุผล
แต่เมื่อประชาชนยังเจอโรงเรียนหลังคารั่ว โรงพยาบาลขาดเตียง พื้นที่ชนบทไม่มีไฟฟ้า –
ห้องประชุมหลักร้อยล้านที่เสมือนโรงหนังในรัฐสภา ย่อมกลายเป็นภาพตัดแปะความเหลื่อมล้ำ
“เพื่อดูงาน” หรือ “เพื่อดูดี”?
คำถามคือ งบที่ใช้ภายใต้ชื่อว่า “เพื่อความเหมาะสม” นั้น คุ้มค่าแค่ไหนต่อภารกิจของรัฐสภาและประโยชน์ของประชาชน?
หากรัฐสภาคือเวทีของประชาชน
เราก็ไม่ควรยอมให้เวทีนั้นถูกแปลงโฉมจน กลายเป็น “โชว์รูมประชาธิปไตย” ที่หรูหราแต่ไร้เนื้อหา
⸻
ทำโครงการเพื่อ “ความเหมาะสม” หรือทำโครงการเพื่อ “เงินทอน”?
เพราะเบื้องหลังของ “รัฐสภาแห่งใหม่” ยังเต็มไปด้วย ร่องรอยการก่อสร้างที่ไม่โปร่งใส — ทั้งราคาบานปลาย งานตกหล่น วัสดุผิดสเปก ปรับแก้ซ้ำซาก — และยังมีประเด็นที่ ค้างอยู่ในมือ ป.ป.ช. รอตรวจสอบยิบย่อยหลายโครงการ
วันนี้…เรากลับได้เห็นโครงการใหม่ผุดขึ้นอีก
ภายใต้เหตุผลเดิม ๆ ว่า “เพื่อความเหมาะสม”
คำถามคือ — เหมาะสมกับใคร?
หรือทั้งหมดนี้คือ “ราคาที่เราต้องจ่าย”
เพื่อให้ ส.ส. ของเรา “ดูภูมิฐาน สมฐานะ”?
แล้วมันแพงเกินไปไหม…
เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่เขาให้ประชาชนกลับมา?
⸻