โดย The Publisher
“ลอว์เรนซ์ หว่อง” ไม่ใช่นายกฯ ที่แซ่ลี
แต่ก็ไม่ได้มาจากนอกระบบอำนาจ
เขาคือนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์
ผู้ก้าวขึ้นจากสายราชการ–เทคนิค
ภายใต้การเลือกเฟ้นของ “ลี เซียนลุง” ผู้ที่บริหารประเทศมายาวนานถึง 20 ปี
และเป็นบุตรชายของ “ลีกวนยู” ผู้ก่อตั้งประเทศ
ก่อนหน้าหว่อง เคยมี “โก๊ะ จ๊กตง” ที่ไม่ได้มาจากตระกูลลี
แต่ก็เป็นผู้นำที่ถูกวางตัวโดยลี กวนยู
เช่นเดียวกับที่หว่องถูกวางไว้ในโครงข่ายอำนาจของลี เซียนลุง
นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว
แต่คือการส่งไม้ต่อในพรรค PAP
ที่กุมประเทศมาแล้วกว่า 60 ปี
⸻
ประเทศที่มั่งคั่งที่สุด…แต่เสียงฝ่ายค้านเบาที่สุด
สิงคโปร์คือประเทศที่สร้าง “ผลลัพธ์” ได้อย่างไร้ข้อกังขา
แต่ในขณะเดียวกันก็มีระบบการเมืองที่ประชาชนจำนวนไม่น้อย
ไม่มีสิทธิจะตั้งคำถามได้อย่างเสรี
– ฝ่ายค้านแทบไม่มีน้ำหนัก
– ประชาชนไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำ
– สื่อกระแสหลักอยู่ในกำกับ
– การเคลื่อนไหวต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้า
ประชาธิปไตยในแบบสิงคโปร์
จึงเป็นประชาธิปไตยที่ “เลือกได้ แต่เปลี่ยนอะไรไม่ได้มากนัก”
⸻
แล้วคนสิงคโปร์…ยอมรับการปกครองแบบนี้จริงหรือ?
คำตอบคือ “จำนวนมากยอมรับ” เพราะแลกมาด้วยสิ่งที่จับต้องได้:
– ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
– เมืองที่ปลอดภัย
– ระบบราชการที่ไม่คอร์รัปชัน
– สวัสดิการที่พอเพียง
– โอกาสในการเติบโตของชนชั้นกลาง
ตราบใดที่รัฐยัง “ส่งมอบผลลัพธ์” ได้
คนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะแลกเสรีภาพบางส่วนกับความมั่นคงในชีวิต
แต่เสียงใหม่ก็กำลังดังขึ้น
คนรุ่นใหม่เริ่มพูดถึงสิทธิ ความหลากหลาย ค่าครองชีพ และอนาคตที่ยืดหยุ่น
คำถามที่ไม่เคยมีคนกล้าถาม…วันนี้เริ่มมีคำกระซิบ แม้จะยังไม่ดังมากนัก
⸻
“ลอว์เรนซ์ หว่อง” กับบทพิสูจน์:
จะพาประเทศพ้นเงา “ลี” ได้จริงหรือ?
ลอว์เรนซ์ หว่องมีจุดขายของ “ผู้นำรุ่นใหม่”
– สุภาพ เป็นมิตร
– มีความเข้าใจประชาชน
– มีผลงานเด่นช่วงโควิดในฐานะ รมว.คลัง
– และไม่ได้มาจากชนชั้นนำโดยกำเนิด
แต่คำถามใหญ่ยังอยู่:
เขาจะเป็นแค่ผู้จัดการที่ดีในระบบเดิม
หรือจะกล้าขยับโครงสร้างอำนาจที่เคยปิดเสียงประชาชน ให้เปิดกว้างมากขึ้น?
⸻
โลกที่ไม่เหมือนเดิม กับสนามอำนาจที่ไม่มีตรงกลาง
ในเวทีโลก ลอว์เรนซ์ หว่อง ยังต้องเจอบททดสอบใหญ่อีกด้าน
คือการพาสิงคโปร์ผ่านสมรภูมิ สงครามการค้า–เทคโนโลยี–ภูมิรัฐศาสตร์
ประเทศเล็กที่รวยมาก แต่เปราะบางหากเลือกข้างผิด
ต้องวางสมดุลระหว่างจีน–สหรัฐ
ต้องรักษาบทบาทบนเวทีโลกโดยไม่ตกเป็นหมากของใคร
ลี เซียนลุงทำได้ดีในจุดนี้
ลอว์เรนซ์ หว่องจะรักษาสมดุลนี้ไว้ได้หรือไม่?
หรือยุคใหม่ของโลก จะไม่ยอมให้ประเทศใดอยู่นิ่งตรงกลาง?
⸻
พรรค PAP อาจยังฝังรากลึก
แต่ความพอใจในผลลัพธ์ ไม่ได้แปลว่าไม่มีคำถาม
ลอว์เรนซ์ หว่อง จึงไม่ได้รับไม้ต่อเพียงเพื่อ “บริหารประเทศ”
แต่เพื่อพิสูจน์ว่า…สิงคโปร์จะ “ก้าวหน้า” ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างเดิมไปตลอดได้หรือไม่
เพราะในยุคที่โลกเปลี่ยนทุกวัน
แม้แต่ระบอบที่เคยมั่นคงที่สุด…ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าจะอยู่รอดได้ตลอดไป
แต่ชัยชนะของ “หว่อง” ยังเป็นบทสะท้อนที่คมชัด
ไม่ว่าจะ “ประชาธิปไตย” หรือ “เผด็จการ”
ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว
คำตอบสำคัญคือ…ผู้นำต้องโปร่งใส และมีวิสัยทัศน์