ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทวีความรุนแรง
สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่พุ่งเป้าไปยังพลเรือนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง เมื่อหลายเหตุการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้สร้างความเศร้าโศกและความโกรธแค้นทั้งในชุมชนชาวพุทธและมุสลิม รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ
เหตุการณ์ล่าสุดที่สั่นคลอนความเชื่อมั่น
เหตุการณ์ลอบยิงและการกราดยิงได้ทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเกิดเหตุยิงพลเรือนชายเสียชีวิตอีก 1 คน ทำให้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นสั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทำให้ประชาชนทุกศาสนิกตกอยู่ในความหวาดระแวง
พรรคประชาชนเรียกร้องให้หยุดการสังหารพลเรือน
พรรคประชาชนออกมาแถลงเรียกร้องให้หยุดการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยย้ำถึงความสำคัญของการใช้กระบวนการสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ และเรียกร้องให้ขบวนการต่อสู้สำหรับพี่น้องมลายูมุสลิมหยุดการกระทำที่ขัดต่อหลักศาสนาและมนุษยธรรม ซึ่งจะสร้างความเกลียดชังและเพิ่มความขัดแย้งที่ยากจะเยียวยา
รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการสร้างสันติภาพในพื้นที่
พรรคประชาชนยังได้แสดงความกังวลถึงท่าทีของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่ไม่สามารถแสดงความชัดเจนในยุทธศาสตร์การสร้างความยุติธรรมและสันติภาพในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำให้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพหยุดชะงักมานานเกือบ 1 ปี พรรคประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลกลับมาสานต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ และให้ประชาชนทุกศาสนิกได้มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้
บทเรียนจากความรุนแรง
สุดท้าย พรรคประชาชนเตือนว่า ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ และหากไม่มีการแก้ไขด้วยกระบวนการทางการเมืองที่เหมาะสม สถานการณ์จะยิ่งทวีความรุนแรงและยากที่จะกลับสู่สันติภาพที่ยั่งยืน