เกิดปรากฎการณ์รายงานข่าวตรงกันของสื่อฯ หลายสำนักว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่มีรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นประธาน และมีกรรมการมาจาก กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รวม 7 คนรวบรวมพยานหลักฐานคดีฮั้วเลือก สว. และสอบปากคำพยาน ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบการกระทำเข้าข่ายมีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม จึงส่งหลักฐานทั้งหมดให้ กกต.แล้ว และวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค. 68) กกต.จะทยอยแจ้งข้อกล่าวหา สว. ลอตแรก 60 คน ตามความผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
ทั้งนี้ถ้าเป็นไปตามที่หลายสื่อฯ รายงานกระบวนการหลังจากนั้น สว.เหล่านี้จะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงกับ กกต.จากนั้น กกต.จะพิจารณาว่ามีพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหรือไม่ ก่อนที่จะพิจารณาให้ใบแดง และส่งเพิกถอนสิทธิ สว. ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนคดีที่อยู่ในมือของ DSI คือคดีฟอกเงิน และคดีอั้งยี่ซ่องโจรนั้น ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อส่งอัยการฟ้องศาลอาญาต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่าคดีในส่วนที่ กกต.ร่วมกับ DSI นั้น มีกรอบเวลาทำงาน ที่ต้องส่งเรื่องต่อไปยัง กกต.ชุดใหญ่ ซึ่งเบื้องต้นรู้เพียงว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พยานบุคคลอยู่แล้ว ส่วนของดีเอสไอมีคดีฟอกเงินและคดีอั้งยี่ซ่องโจร ได้ทำหนังสือขอให้ กกต. มาเป็นที่ปรึกษาด้วย ซึ่งหลักฐานที่มีเป็นเอกสาร ภาพถ่าย เสียง สถานที่อยู่ มี 10 กว่ารายการ หากรายการหนึ่งเป็นเรื่องบังเอิญได้ รายการที่สองจะไม่บังเอิญ รายการที่สามจะเป็นพฤติกรรม และถ้ามีสี่ ห้า หก เจ็ด เชื่อว่ามีการกระทำตามที่กล่าวหา ซึ่งคาดว่าไม่นานจะสรุปสำนวนคดีได้
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ว่าเตรียมเชิญ 60 สว.มารับทราบข้อกล่าวหาวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่ นายอิทธิพรบอกเรื่องนี้ยังไม่มีมูล ได้ยินแต่ข่าว