“อยากกลับไปเลี้ยงหลาน ไม่ยุ่งการเมือง”—ทักษิณ ชินวัตร 16 พ.ค.2566
เป็นคำกล่าวของทักษิณก่อนเดินทางกลับมาประเทศไทยรับโทษจำคุก 8 ปีแต่ขอพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี ก่อนเกิดข้อครหา “ไม่เคยนอนคุกแม้แต่วันเดียว” มีขบวนการเข้าด้วยช่วยเหลือสร้างอาการ “ป่วยทิพย์” พักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจยาวนานถึง 181 วัน
ทำกระบวนการยุติธรรมระส่ำ เกิด ”นักโทษเทวดา“ ที่กสม.มีมตินำร่องเป็นองค์กรแรกว่า ”ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีสิทธิพิเศษเหนือผู้ต้องขังรายอื่น ชงเรื่องไป ป.ป.ช. จนนำไปสู่การตั้งองค์คณะไต่สวน 12 เจ้าหน้าที่รัฐ จากกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และมีการยื่นร้องลามถึง พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย
แม้การไต่สวนใน ป.ป.ช.ยังดูล่าช้า แต่หลังจากนี้หลายอย่างอาจติดเทอร์โบ!
มติแพทยสภา…ติดเทอร์โบลากไส้ขบวนการชั้น 14
เพราะมีมติแพทยสภาด้วยเสียงข้างมาก ๆ ๆ ๆ ฟันแพทย์ 3 ราย เกี่ยวพันการวินิจฉัย “ทักษิณ” อาการวิกฤต ทั้งที่ไร้หลักฐานเชิงประจักษว่าวิกฤตจริง จน 2 รายถูกสั่งพักใบอนุญาตฯ อีก 1 รายถูกตักเตือน
แม้มติยังไม่ใช่ข้อยุติจนกว่าจะได้ความเห็นชอบจาก สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ซึ่งอาจใช่ฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยับยั้งก็ได้ “ถ้ากล้าพอ” โดยมีเวลาดำเนินการ 15 วัน ก่อนส่งกลับไปแพทยสภาอีกครั้ง แต่ถ้าไม่ยับยั้งมีการลงนามเห็นชอบก็จบข่าว
.
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาจริยธรรมแพทย์ แต่ยังมีคดีอาญารออยู่ และไม่ใช่แค่แพทย์เท่านั้นที่อาจเข้าปิ้ง ทั้งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไปจนถึงรมว.ยุติธรรม อาจนอนสะดุ้งหลับได้ไม่เต็มตื่นอีกต่อไป
13 มิ.ย. ศาลฎีกาฯ ไต่สวนชั้น 14 นัดแรก
อาจเรียกได้ว่าเป็น ”จังหวะนรก“ ของทักษิณ เพราะคล้อยหลังมติแพทยสภาไม่นาน ก็ถึงคิวศาลฯ เรียกไต่สวน ซึ่งคาดกันวันไม่น่าจะใช้เวลานานนัก เพราะทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จะดึงเช็งโอ้เอ้ไม่ส่งมอบข้อมูลไม่ได้ แถมยังมีมติแพทยสภาเป็นสปริงบอร์ด ก็น่าจะไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
วันเวลาดี ๆ ของทักษิณ ที่มีโอกาสเดินสาย ”สทร.“ เสือกทุกเรื่อง อาจใกล้หมดลงแล้ว
หนีอีกรอบ…หรือจนตรอก คอตกเข้าคุก?
เชื่อว่าหลังจากนี้ทั้งทักษิณและองคาพยพของเขาคงดิ้นเต็มที่ เพื่อเอาตัวรอด มีความพยายามจากทักษิณที่จะขออนุญาตศาลอาญาเดินทางไปต่างประเทศ แต่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคงไม่ง่ายแล้วที่ โมเดลแบบไปโอลิมปิค กลับประเทศอีกที 17 ปีข้างหน้าจะเกิดขึ้นอีก
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เคยฟันธงไว้ว่า “ทักษิณต้องหนีไปต่างประเทศอีกครั้ง” แม้จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่สถานการณ์ที่บีบรัดจนถึงขั้นมีสิทธิต้องกลับเข้าคุกอีกหน ไม่เพียงทำให้ทักษิณตกที่นั่งลำบาก แม้แต่รัฐบาลก็ดูเหมือนใกล้เข้าสู่เด๊ดโซน จากความไม่เอาอ่าวในการบริหารเศรษฐกิจแบบ “กู้ แจก รีดภาษี”
ขณะที่ทักษิณอาจใกล้หมดอำนาจ…รัฐบาลก็อาจใกล้หมดเวลาไม่ต่างกัน