หลังพล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ส่งทนายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษฯ เพื่อให้วีโต้มติแพทยสภาที่พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเขา กรณีให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับอาการป่วยทักษิณ ทั้งที่ไม่พบหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าป่วยวิกฤต ในวันนี้แพทย์อีกคนที่แพทยสภามีมติพักใบอนุญาตฯ เช่นเดียวกัน คือ พล.ต.ท. โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ก็เข้ายื่นขอความเป็นธรรมด้วย
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เปิดเผยกับ The Publisher ว่า จนถึงขณะนี้หนังสือจากแพทยสภายังมาไม่ถึงรมว.สาธารณสุข เมื่อมีแพทย์สองท่านยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมมา ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยมีการโต้แย้งข้อสรุปของ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ที่ระบุว่า “ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีภาวะวิกฤต” จึงต้องพิจารณาข้อมูลจากทางแพทย์ประกอบด้วย
”หากหนังสือจากแพทยสภามาถึงรมว.สาธารณสุขจะมีเวลาพิจารณา 15 วัน จากนั้นจะมีความเห็นว่าเห็นชอบตามมติแพทยสภาหรือจะวีโต้ แม้ในอดีตจะไม่เคยมีการวีโต้มาก่อน แต่ก็มีข้อมูลว่ามติแพทยสภาเคยผิดพลาดจนศาลปกครองวินิจฉัยกลับมติ และต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหายมาแล้ว กลายเป็นว่าแพทยสภาก็อาจวินิจฉัยผิดพลาดจนเกิดผลกระทบต้องชดใช้เงิน ดังนั้นจึงต้องมองหลักกฎหมายเป็นตัวตั้ง ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รมว.สาธารณสุข ก็คงตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาช่วยกันดู เพราะเวลาสั้นต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เรื่องนี้เป็นเรื่องของแพทย์ไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณ“ นาย กองตรี ดร.ธนกฤต กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีนี้แม้เป็นเรื่องของแพทย์แต่เกี่ยวพันกับคดีชั้น 14 เรื่องการบังคับโทษที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน จึงน่าจะส่งผลต่อชะตากรรมของทักษิณด้วยหรือไม่ นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าข้อมูลเป็นอย่างไร ต้องดูว่าไปเกี่ยวพันไหม เพราะคำว่าข้อมูลเชิงประจักษ์ เป็นข้อมูลอะไร เพราะมีหลายประเด็น อาจไม่ใช่เรื่องการวินิจฉัยโรคก็ได้ ต้องรอข้อมูลก่อนจึงจะตอบสังคมได้อย่างชัดเจน ยำ้ว่าเราทำตามกรอบของกฎหมาย อะไรไม่ถูกต้องไม่ทำเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กดักคอว่านี่อาจเป็นการปูทางเพื่อให้นายสมศักดิ์ วีโต้มติแพทยสภา อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายหากรมว.สาธารณสุขวีโต้มติแพทยสภา ก็ต้องนำเรื่องกลับเข้าสู่การประชุมแพทยสภาอีกครั้ง ถ้าแพทยสภามีมติสองในสามยืนยันมติเดิมก็จบ แต่ถ้ามติไม่ถึงสองในสามจะถือว่ามติแพทยสภาไม่มีผล
ทั้งนี้ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ เคยตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับมติแพทยสภาว่า เป็นเสียงข้างมาก ๆ ๆ ๆ ๆ จึงต้องจับตาต่อไปว่าเรื่องราวนี้จะจบอย่างไร ซึ่งแพทยสภาจะมีการประชุมอีกครั้งวันที่ 8 มิถุนายน ขณะที่ไทม์ไลน์การไต่สวนของศาลฎีกาฯ จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน