เป็นอีกแนวคิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างบรรยายที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เรื่อง “ประสบการณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน” โดยบอกว่าเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 มีโอกาสคิดกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน ก่อนบอกว่าได้คิดดังๆ ว่ารัฐบาลจะซื้อหนี้ทั้งหมด เอาหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคาร แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อนหนี้ โดยอาจไม่ต้องชำระเต็มจำนวน
แนวคิดนี้นายทักษิณระบุจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ ยกหนี้เครดิตบูโรให้หมด แล้วทำมาหากินใหม่ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐ เพราะสามารถให้เอกชนลงทุน วันนี้รัฐเป็นหนี้เยอะ จะขยับอะไรก็เป็นหนี้ทั้งหมด ฉะนั้นต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด สร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด
ทักษิณยังพาดพิงธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยว่า วันนี้โอกาสของคนไทยลดลงไปเยอะ ธนาคารพาณิชย์ขี้เกียจแต่กำไรดี เพราะมีธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นพี่เลี้ยง เมื่อเงินเหลือก็ดูดออก ธนาคารพาณิชย์ก็ได้ดอกเบี้ย ธนาคารพาณิชย์ก็ไม่ต้องขวนขวายปล่อยกู้เอสเอ็มอีและรายย่อย กลายเป็นว่าสินเชื่อรถและสินเชื่อบ้านก็ไม่ปล่อย แล้วเศรษฐกิจจะอยู่อย่างไร
พร้อมระบุรัฐบาลต้องหาทางเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ถึงจะไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล แต่จำเป็นต้องทำ จำเป็นต้องปลดภาระให้ประชาชน ให้มีโอกาสใหม่ๆ แต่จะคว้าโอกาสไม่ได้เพราะหนี้ยังเต็มหลัง จึงต้องปลดหนี้ก่อน แล้วค่อยคว้าโอกาส
นายทักษิณยังอธิบายด้วยว่าที่ผ่านมาโดนค่อนขอดว่าพูดแล้วทำไม่ได้ ทำไม่ตรงปก แต่ขอให้จดไว้เลยว่าทำได้ทุกอย่าง แต่เวลาอาจยืดออกไป เพราะเหตุการณ์เปลี่ยน เช่นดิจิทัลวอลเล็ต อีกไม่นานคนจะเข้าใจ ที่ตอนแรกวางระบบไว้อย่างดี ให้เศรษฐกินหมุนจากการใช้เงิน แต่แบงก์ชาติมาถึงเป่านกหวีดปี๊ด บอกต้องมีเงิน ต้องตั้งงบประมาณ สุดท้ายมันก็เลยผิดแผน
จากนั้นได้พยายามปรับปรุงแก้ไขจนได้ แล้วต่อไปเทคโนโลยีวอลเล็ต จะเป็นกระเป๋าตังค์ประจำตัวทุกคน จะเติมเงินผ่านกระเป๋านี้ด้วยวิธีการต่างๆ กระเป๋าเงินดิจิทัลจะอยู่กับทุกคนตลอดชีวิต วันนี้คนยังมองไม่ออกก็ปล่อยเขาไป กำลังทำเรื่องทันสมัยและก้าวหน้า เพราะแบบโบราณเอาไม่อยู่จริงๆ
“อยากบอกให้คนเสื้อแดงทั้งหลาย ไปบอกพรรคพวกว่า เรื่องปัญหาของประเทศ ผมรับไว้ และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กระบวนการแก้ปัญหาใช้เวลาและยากกว่าเดิม แต่ไม่เหนือความพยายาม ผมรับทุกข์ของประชาชนมาแบก เพราะพระเจ้าอยู่หัวเราเป็นพระผู้มีเมตตาสูงมาก ท่านทรงห่วงใยประชาชนตลอด ผมถวายงานท่านมา ตั้งแต่ยังไม่เป็นนักการเมือง ทราบดีว่าหัวใจท่านทรงเมตตากับประชาชนมาก ฉะนั้นผมจะทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง ท่านจะได้ไม่ต้องทุกข์พระทัย และต้องทำให้เข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ให้ได้” นายทักษิณกล่าว