เป็นการพาคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่อาคารรัฐสภา ที่เรียกว่า “สัปปายะสภาสถาน” ของนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.และอดีต กมธ. ป.ป.ช.จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายวิลาศเดินชี้จุดที่มีปัญหาเรื่องมาตรฐานการก่อสร้างตั้งแต่ด้านหน้า ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ปัญหาน้ำรั่วซึม เมื่อฝนตกในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะชั้น B2 คาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 จุด ซึ่งเกิดก่อนตรวจรับงาน และเคยร้อง ป.ป.ช.และรัฐสภาให้ชะลอการตรวจรับงาน เนื่องจากก่อสร้างผิดแบบ แต่กลับตรวจรับงาน
นอกจากนี้ยังใช้งบประมาณไปจ้างออกแบบทำที่จอดรถใต้ดินเพิ่มอีก 106 ล้านบาท ซึ่งเป็นคนละส่วนกับรายการก่อสร้างอาคารจอดรถที่ระบุอีก 1,500 ล้านบาท จึงเป็นที่สังเกตุว่าปัญหาเก่าได้รับการแก้ไขหรือไม่ และการประกวดราคาออกแบบใหม่นี้ อาจมีเจตนาตั้งโครงการใหม่เพื่อกลบปัญหาเดิมหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าจุดนี้มีน้ำท่วมขังเนื่องจากพื้นมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้
ส่วนศาลาแก้ว ที่ของบประมาณปรับปรุง 123 ล้านบาท จากที่นายวิลาศให้ข้อมูลหลังตรวจสอบก็พบความผิดปกติที่ทางเดินเท้าหินที่ใช้มีขนาดเล็กกว่าแบบ กระเบื้องใต้น้ำหลุดล่อน และเป็นจุดที่น้ำรั่วซึมไปยังชั้น B1 จึงสงสัยว่าการปรับปรุงศาลาแก้วด้วยการติดแอร์ อาจเป็นการใช้งบประมาณเพื่อรื้อของเก่าที่มีปัญหา แทนที่ให้บริษัทเอกชนเป็นคู่สัญญามาแก้ไขปรับปรุง รวมถึงการปรับปรุงสระมรกต มีข้อสงสัยว่าเป็นการของบฯ ที่อาจเพื่อปกปิดเรื่องที่ปูพื้นไม้ตะเคียนทองที่ไม่ได้ขนาด และมีไม้ปลอมหรือไม่
“เละเทะที่สุด สร้างผิดแบบมากที่สุด โกงมากที่สุด” นายวิลาศกล่าว
ทั้งนี้นายวิลาศบอกอาคารรัฐสภายังอยู่ในระยะประกัน หากพบจุดที่ไม่เป็นไปตามสัญญา หรือจุดบกพร่องจากการก่อสร้าง หรือสร้างไม่ตรงแบบก็ควรแจ้งผู้รับเหมาให้ทราบมากกว่า