• Urban Culture
  • Original
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Good
  • Editir pick
  • Home
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • People Voice
  • Home
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

นายกฯ อาจถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นตำแหน่ง แต่ไม่มีผลต่อการป้องกันประเทศเพราะมีกองทัพทำหน้าที่อยู่แล้ว

24/06/2025

วัดใจรัฐบาล 9 ก.ค.เลื่อน-ถอน ร่าง “สถานบันเทิงครบวงจร” บททดสอบแรกเสียงปริ่มน้ำ

24/06/2025

“สมชัย” ซัดตรง “ภูมิธรรม” ก่อนดุดันกัมพูชา ช่วยตอบให้ชัด! ทำไมปล่อยทหารเขมรยึดปราสาทตาเมือนธม

24/06/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»เซ็นชื่อครั้งเดียว เสียหาย 430 ล้าน: เมื่อแม่บ้านกลายเป็นแพะ…

เซ็นชื่อครั้งเดียว เสียหาย 430 ล้าน: เมื่อแม่บ้านกลายเป็นแพะ…

19/05/20251 Min Read
Facebook Twitter

“ฉันแค่แม่บ้าน เขาให้เซ็นเอกสาร ก็เซ็น…ไม่รู้ว่าเป็นกรรมการบริษัทด้วยซ้ำ”
คำให้การของหญิงวัย 54 ปีในคดีเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 180 ล้านบาท อาจฟังดูไร้เดียงสา
แต่เบื้องหลังคำพูดนั้นคือความเสียหายของรัฐรวมกว่า 430 ล้านบาท

นี่เป็นความผิดของแม่บ้านคนหนึ่ง หรือเป็นความล้มเหลวของระบบภาษีทั้งระบบ?


จากไม้กวาดถึงหมายจับ

ปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) แถลงการจับกุมหญิงวัย 54 ปี นามว่า “สมบุญ” ในข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 186 ล้านบาท

โดยตรวจพบว่าเธอมีรายชื่อเป็นกรรมการของบริษัทชิปปิ้งนำเข้าสินค้าแห่งหนึ่ง

แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น…

เมื่อเจ้าหน้าที่ขยายผล พบว่าเธอยังมีรายชื่อเป็นกรรมการใน อีก 2 บริษัท ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในลักษณะเดียวกัน คือ ปกปิดยอดขาย ไม่ออกใบกำกับภาษี และเลี่ยงการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม

รวมความเสียหายของทั้ง 3 บริษัท ที่มี “แม่บ้านคนเดียวกัน” เป็นกรรมการ = กว่า 430 ล้านบาท


ธุรกิจผี–กรรมการผี: ปัญหาเก่าที่รัฐมองข้าม

กรณีแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ธุรกิจจำนวนมาก—โดยเฉพาะในหมวดนำเข้า ส่งออก และก่อสร้าง—มีการตั้ง “บริษัทผี” ขึ้นโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องจริง เช่น แม่บ้าน คนขับรถ หรือแรงงานรายวัน เป็น “กรรมการบริษัท”

เหตุผลเดียว: เพื่อ “บังหน้า” เจ้าของตัวจริง

หากเกิดปัญหา ก็โยนความผิดให้คนที่ไม่มีทั้งความรู้และอำนาจต่อรอง


ช่องโหว่ในระบบภาษี หรือช่องโหว่ในความเป็นธรรม?

กรณีของ “สมบุญ” สะท้อนความเปราะบางของระบบจัดเก็บภาษีในประเทศไทย

บริษัทที่เธอมีชื่อเป็นกรรมการ ไม่มีเอกสารการเงิน ไม่ออกใบกำกับภาษี ไม่จ่ายภาษีจริงตามยอดขาย

แต่ที่น่ากังวลกว่าคือ ระบบภาษียังไม่สามารถตรวจสอบความผิดปกตินี้ได้ตั้งแต่ต้น

เพราะยังไม่มีการบังคับใช้ระบบตรวจสอบ เช่น e-Tax Invoice, ระบบ KYC (รู้จักลูกค้า), หรือฐานข้อมูลกรรมการที่มีการตรวจสอบความเหมาะสม

ผลคือ เจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดได้ก็ต่อเมื่อเกิดความเสียหายไปแล้วหลายร้อยล้าน และผู้รับผิด—กลับไม่ใช่เจ้าของตัวจริงของบริษัท แต่เป็น “แม่บ้าน” ที่เซ็นชื่อให้โดยไม่รู้ตัว


เสียงที่รัฐไม่เคยฟัง: คนจนมีสิทธิ์ “ไม่รู้” หรือไม่?

คำว่า “ไม่รู้” มักถูกมองเป็นข้ออ้าง แต่ในระบบที่ไม่คุ้มครองผู้ด้อยโอกาส

คำว่า “ไม่รู้” ของแม่บ้านอาจสะท้อนความเหลื่อมล้ำที่ลึกกว่าแค่เรื่องภาษี

รัฐจะยืนยันว่า “ใครเซ็นต้องรับผิด” ก็ได้

แต่คำถามคือ คนจนมีอำนาจปฏิเสธการเซ็นเอกสารไหม?

หรือระบบนี้เอื้อให้คนรวยโยนบาปได้เสมอ?


จะป้องกันได้อย่างไร?

  • ปฏิรูประบบจดทะเบียนนิติบุคคล: ตรวจสอบความเหมาะสมของกรรมการ เช่น รายได้ สถานะทางการเงิน ความเข้าใจธุรกิจ
  • บังคับใช้ e-Tax Invoice / e-Receipt อย่างจริงจัง เชื่อมโยงข้อมูลภาษีแบบเรียลไทม์
  • ให้ความรู้ประชาชนเรื่องความเสี่ยงของการให้ใช้ชื่อหรือบัตรประชาชน ในทางกฎหมาย
  • เอาผิดเจ้าของตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นกรรมการบังหน้า

คนจนติดคุก…คนรวยลอยนวล!

คดีเลี่ยงภาษีที่ดูเหมือนจะเกี่ยวกับตัวเลขและกฎหมายเศรษฐกิจ

แท้จริงแล้ว เป็นกระจกที่สะท้อนความบิดเบี้ยวของระบบทั้งระบบ

ภาษีที่หายไป ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือความยุติธรรมที่หายไปพร้อมกัน

และหากรัฐยังปล่อยให้บริษัทผีใช้ชื่อคนจนเป็นบังหน้า

สุดท้าย…คนที่ต้องจ่ายจริง อาจไม่ใช่แค่รัฐ

แต่คือ “สังคม” ที่เชื่อว่าความยุติธรรมเท่ากันสำหรับทุกคน

Writer Publisher

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

นายกฯ อาจถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นตำแหน่ง แต่ไม่มีผลต่อการป้องกันประเทศเพราะมีกองทัพทำหน้าที่อยู่แล้ว

24/06/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo