สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ร่วมกับคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (CCPCJ) เตรียมจัดการประชุม CCPCJ สมัยที่ 34 ระหว่างวันที่ 19–23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย
ในครั้งนี้ หนึ่งในกิจกรรมคู่ขนานสำคัญของเวทีระดับนานาชาติ คือการบรรยายพิเศษของ “นพพล ชูกลิ่น” นักธุรกิจและผู้ก่อตั้งบริษัทไนซ์คอล จำกัด (มหาชน) และบริษัทรีเทล บิซิเนส โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนภาคเอกชนจากประเทศไทยที่ได้รับเชิญให้ขึ้นเวทีนำเสนอประสบการณ์จริงในหัวข้อ
“Innovation in Criminal Justice Responses: Digitally and Socially”
นวัตกรรมสู่การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรม
เนื้อหาหลักของการนำเสนอ คือ “โมเดลให้โอกาสครั้งที่ 2” ที่เปิดรับผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงเข้าสู่ระบบการทำงานตั้งแต่ยังอยู่ในเรือนจำ ไปจนถึงการสนับสนุนต่อเนื่องหลังพ้นโทษ
โดยนพพลฯ ได้ขับเคลื่อนแนวทางนี้ในฐานะภาคธุรกิจที่มองเห็นศักยภาพในตัวมนุษย์ และอธิบายโครงการนี้ว่า “ภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคม มีงาน 2 ส่วนคือ ผู้ต้องขังชายที่ใกล้ได้รับการปล่อยตัว เรานำพวกเขามาทำงานที่โรงงานของเราภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุม ส่วนที่สองคือผู้ต้องขังหญิงที่ได้รับโทษ เราสร้างระบบการขาย Telesales ฝึกฝนพวกเขาและจ่ายเงินเดือนในแบบเดียวกับพนักงานทั่วไป ส่วนที่สำคัญคือเราต้องให้การยอมรับพวกเขา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเราได้เห็นการลดลงของการกระทำผิดซ้ำอย่างชัดเจนตั้งแต่นั้นมา”
ปัญหาเชิงระบบ ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
“สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากตัวบุคคล แต่คือ ปัญหาเชิงระบบ ที่เราทุกคนต้องร่วมกันแก้ไข เราต้อง ยุติวงจรปัญหา เหล่านี้ ไม่ใช่แค่พูดถึง แต่ต้อง เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง อย่างแท้จริง เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการคืนคนดีสู่สังคมจะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน ก็ต่อเมื่อเราได้รับ ความไว้วางใจ ความร่วมมือ และการยอมรับจากสังคม” นพพลกล่าวฯ
สร้างต้นแบบให้ทุกประเทศทั่วโลก คืนชีวิต สร้างความหวัง ไม่เพียงแค่ลงโทษ
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศไทยและ UNODC ในการส่งเสริมข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) และ Nelson Mandela Rules ที่มุ่งเน้นสิทธิมนุษยชนในเรือนจำและการพัฒนาผู้กระทำผิดอย่างยั่งยืน โดยมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมคู่ขนานอื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการตลอดช่วงสัปดาห์การประชุม
เวที CCPCJ ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยได้แสดงบทบาทเชิงรุกในเวทีโลก ผ่านการขับเคลื่อนรูปธรรม โมเดลนี้ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตของผู้ต้องขัง แต่ยังส่งผลต่อการออกแบบกระบวนการยุติธรรมให้ทันสมัย เป็นโมเดลต้นแบบให้ประเทศอื่นทั่วโลก