ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แกะรอยรวบตัวคาหนังคาเขา หลังอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร-โครงการรัฐ หลอกเหยื่อโอนเงิน ก่อนเชิดหนี สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมใน จ.สระบุรี
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วยทีมสืบสวนจากกองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวเบญจรงค์ฯ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 คดี หลอกเหยื่อผ่านโซเชียล โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและใช้กลโกงต่างๆ ล้วงข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ ก่อนนำไปสวมรอยก่อเหตุโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง รวมมูลค่าความเสียหายกว่าสามแสนบาท
ย้อนรอยแผนฉ้อโกง ลวงเหยื่อสูญเงินนับแสน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายรายแรก เข้าแจ้งความเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 โดยเล่าว่า ในเดือนธันวาคม 2565 ผู้ต้องหาโทรศัพท์มาหาโดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรจังหวัดชัยภูมิ แจ้งว่า แอป “เป๋าตุง” ที่เปิดใช้งานไว้แต่ไม่ได้ใช้ จะถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง หากไม่ต้องการเสียภาษี ให้รีบปิดแอปฯ พร้อมกับแอดไลน์เพื่อตรวจสอบข้อมูล
หลังจากนั้น ผู้เสียหายได้แอดไลน์ตามคำแนะนำและพบลิงก์ที่ดูเหมือนเป็นเว็บไซต์กรมสรรพากร เมื่อกดเข้าไปก็พบหน้าเว็บไซต์ปรากฏเป็นสีฟ้า พร้อมข้อความว่า “อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์” ซึ่งเป็นช่วงที่ข้อมูลในโทรศัพท์ถูกแฮก เมื่อสามารถใช้โทรศัพท์ได้ตามปกติอีกครั้ง พบว่าเงินในบัญชีธนาคารถูกโอนออกไปเกือบ 100,000 บาท
รายที่สอง ซึ่งเข้าแจ้งความที่ สภ.ตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ให้การว่า ตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหาเมื่อเดือนธันวาคม 2565 เช่นกัน โดยครั้งนี้ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมาติดต่อให้ยกเลิกโครงการ “คนละครึ่ง” และให้โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์เพื่อดำเนินการ ด้วยความไม่รู้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปให้กว่า 220,000 บาท ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกหลอก
ตำรวจสืบสวนตามจับ ค้นรังซ่อนตัวที่สระบุรี
หลังจากได้รับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่า นางสาวเบญจรงค์ฯ ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวได้บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.11 ต.หนองไข่น้ำ
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าตนเองเคยสมัครกู้เงินออนไลน์และส่งเอกสารส่วนตัวไป จึงเชื่อว่าเอกสารของตนน่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ และเตรียมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม
ดำเนินคดีตามกฎหมาย ฝากเตือนประชาชนระวังภัยออนไลน์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” และ “นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ก่อนส่งตัวไปยัง สภ.ตลุกดู่ จ.อุทัยธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลางเตือนประชาชนให้ระวังกลโกงออนไลน์ โดยเฉพาะ มิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากได้รับโทรศัพท์แปลกๆ ขอให้ตรวจสอบกับหน่วยงานโดยตรง อย่าหลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านลิงก์ที่ไม่รู้จัก