• Urban Culture
  • Original
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Good
  • Editir pick
  • Home
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • People Voice
  • Home
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

สรุปคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด

22/05/2025

“ยิ่งลักษณ์” มาแล้วโพสต์เดือด โวยถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยุติธรรมแล้วหรือ

22/05/2025

ทนายยิ่งลักษณ์ลั่น: จะทำทุกทางให้ “ไม่ต้องจ่ายสักบาท” จ่อใช้ยอดขายข้าวรัฐบาลประยุทธ์–เศรษฐา หักลบความเสียหายคดีจำนำข้าว

22/05/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»ชาวบ้านพังทั้งชีวิต-นายกฯ พบนายทุน-วิ่งเล่นกับลูก!ปลาหมอคางดำระบาดหนัก “รัฐบาลไม่แก้”

ชาวบ้านพังทั้งชีวิต-นายกฯ พบนายทุน-วิ่งเล่นกับลูก!ปลาหมอคางดำระบาดหนัก “รัฐบาลไม่แก้”

19/03/20252 Mins Read
Facebook Twitter

“ได้ยินเสียงความทุกข์ของประชาชนไหม? หรือนายกฯ หูตึง!” เสียงของปัญญา โตกทอง ตัวแทนเครือข่ายประชาคมคนรักแม่กลอง สะท้อนความอัดอั้นที่สะสมมานาน ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” จนเป็นที่มาของการรวมตัวเครือข่ายประชาชน 19 จังหวัด เดินไปทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมเทปลาหมอคางดำ 2 ตัน และเผาพริกเผาเกลือสาบแช่งคนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ แม้จะถึงศูนย์กลางอำนาจแล้วแต่สิ่งที่พวกเขาได้รับคือ ”ความผิดหวัง“ กับการยื่นข้อร้องเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผลตอบรับที่ได้กลับเป็นความไม่จริงจัง ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐาจนถึงรัฐบาลแพทองธาร ทั้ง ๆ ที่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ไม่เพียงทำลายอาชีพของคนท้องถิ่น ยังสร้างความเสียหายมหาศาลต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติด้วย

ผิดหวัง รัฐบาลเมินความเดือดร้อน ปชช.

ปัญญา บอกว่า เครือข่ายประชาชน 19 จังหวัดผิดหวังมาก เพราะยื่นหนังสือมาตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา ตอนนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ขณะนั้น รับเรื่องและบอกว่า “ธรรมนัสเอาอยู่” ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบหายไป พอมาถึงรัฐบาลแพทองธาร ก็ไปครั้งแรก 13 ม.ค.68 ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ ฟื้นฟูเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กำจัดปลาหมอคางดำภายในหนึ่งปี ฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับคืนมาดังเดิมให้ตั้งคกก.อิสระมีความเชี่ยวชาญมาสอบสวนหาผู้กระทำผิดจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ และหน่วยงานรัฐต้องฟ้องร้องคนที่นำปลาหมอคางดำเข้ามา เพื่อเรียกค่าเสียหาย เมื่อมีการเยียวยาประชาชนอาจต้องนำเงินภาษีมาใช้ก่อน จากนั้นไปไล่เบี้ยเก็บจากคนที่ทำให้ปลาหมอคางดำแพร่ระบาด จนทำลายระบบนิเวศ สร้างความเสียหายมหาศาล

“เราไปยื่นข้อเรียกร้องทั้งสี่ข้ออีกครั้งเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.68) นายกฯไม่ออกมา แถมไปต้อนรับนายทุนรวยพันล้านในทำเนียบรับช่อดอกไม้กับประมงคนรวย ไม่เห็นหัวประชาชน มีเวลาพาลูกวิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยฯ ไม่มาหาชาวบ้านที่เดือดร้อน เอาตำรวจมากัน เอากฎหมายมาข่มขู่ นี่คือสิ่งที่ประชาชนได้รับจากนายกฯ พอนายกฯ ไม่มารับเรื่อง ฝ่ายค้านมาพวกคุณก็หาว่ามีการเมืองหนุนหลัง ทั้ง ๆ ที่นี่คือความเดือดร้อนของประชาชนเป็นม็อบธรรมชาติไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเลย” ปัญญา กล่าวอย่างคับแค้นใจ พร้อมตั้งคำถามว่าเมื่อนายกฯ อาสามาแก้ปัญหาประเทศชาติ เหตุใดไม่มารับฟังความเดือดร้อนของประชาชน และเห็นว่ารัฐบาลคือตัวปัญหาตัวแรกที่แก้ไม่ได้ในมุมมองของชาวบ้าน

คำพูดของ ปัญญา สะท้อนให้เห็นถึง ช่องว่างระหว่างรัฐบาลกับประชาชน เมื่อรัฐบาลเมินเฉยต่อความทุกข์ยากของคนหาเช้ากินค่ำ ขณะที่ “นายทุนร่ำรวยกลับมีพื้นที่ในทำเนียบเสมอ?”

มาตรการ “ลิงแก้แห” รัฐบาลบอกแก้ แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน!

เขาบอกด้วยว่า ปัญหาปลาหมอคางดำยังไม่เคยได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเศรษฐาแม้ในขณะนั้นจะมีการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ แต่การแก้ปัญหาทำเหมือนลิงแก้แห กรมประมงลงพื้นที่ในเวลาราชการ ตั้งโต๊ะรับซื้อสร้างความชอบธรรมให้หน่วยงานราชการ เปิดทางบริษัทที่สร้างปัญหาทำ CSR แต่ด้อยค่าประชาชน “รัฐมนตรีมาบอกจับหมดแล้ว มาทั้งวันได้ปลาหมอคางดำตัวเดียว มันด้อยค่า ดูถูกประชาชน” เรียกว่ามาตรการที่ทำไม่ได้ผล ปัจจุบันปลาหมอคางดำยังแพร่ระบาดอยู่ เพราะรัฐบาลไม่มีความจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหา

ไม่ได้คิดร่วม-มีแต่คิดแทน

ปัญหาที่ใหญ่กว่าการระบาดของปลาหมอคางดำคือ วิธีคิดของรัฐบาล
“ที่ผ่านมารัฐบาลคิดแทนไม่ได้คิดร่วม ตั้งคณะกรรมการจากข้าราชการเต็มห้องไม่ได้คิดร่วมกับชาวบ้าน แม้แต่คณะกรรมการระดับจังหวัดก็เป็นพวกตัวเองทั้งหมดไม่เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม “ไม่ได้คิดร่วม มีแต่คิดแทน”

ปัญญา เล่าว่า ในปี 2560 เขาเคยไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพราะเห็นว่ามีการละเมิดสิทธิพร้อมชี้ทางออกให้กำจัดอย่างบ้าคลั่งในพื้นที่แพร่ระบาดหนักอย่างจังหวัดสมุทรสงครามและเพชรบุรี พร้อมทั้งยกเลิกเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย ซ้ายขวา สมุทรสาครให้ปล่อยปลานักล่า แต่ประมงปล่อยไปจับไปเหมือนเด็กเล่นขายของ ปลากระพงที่มาปล่อยก็เป็นปลาที่เหลือคัด เอาปลาดี ๆ ไป เหลือแต่ปลาที่เลี้ยงไม่โตปล่อยลงแม่น้ำ และการปล่อยปลาก็ต้องปล่อยแบบหลากหลายไม่ใช่แค่ปลากระพงอย่างเดียว เช่น ปลากุเลา ปลาดุกทะเล แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น

ในน้ำ-ในนา อาจเหลือแต่ ”ปลาหมอคางดำ“

”ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ระบบนิเวศษจะพังหมด ป่าชายเลนจะถูกยึด อาหารทะเลหมดไป การเลี้ยงกุ้งล่มสาย คำกล่าวที่ว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าวอาจใช้ไม่ได้อีก เพราะต่อไปเราอาจเหลือแค่ปลาหมอคางดำ“ ปัญญากล่าวพร้อมระบุว่า รัฐบาลชอบมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ฝ่ายค้านหนุนมา ซึ่งไม่เกี่ยวเลย เราไม่อยากยุ่งการเมือง เราเอาปลาไปเพื่อสะท้อนความเดือดร้อน “เป็นม็อบธรรมชาติที่ได้รับความเดือดร้อน ลงขันกันต่อสู้ มองปลาหมอคางดำเป็นศัตรู ไม่เหมือนรัฐบาลมองประชาชนเป็นศัตรูทำให้แก้ปัญหาไม่ได้” ปัญญา บอกว่า การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำสร้างความเสียหายมหาศาล ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ชายฝั่งป่าชายเลน น้ำกร่อยจะถูกปลาหมอยึดครองทั้งหมด ต่อไปอาหารทะเลก็ไม่เหลือ ความมั่นคงทางอาหารสูญสลาย การเลี้ยงกุ้งดั้งเดิมล่มสลาย คำกล่าวที่ว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่มีแล้ว เพราะจะเหลือแต่ปลาหมอคางดำ

นายกฯ ได้ยินความเดือดร้อนของประชาชนหรือยัง?

เมื่อถามว่า คิดว่าเสียงของเกษตรกรไปถึงนายกฯ หรือยัง? เขาบอกว่า ไม่รู้นายกฯ หูตึงหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นท่าทีในการแก้ปัญหา มีแต่คำยืนยันจากอธิบดีกรมประมงว่า “ตรวจสอบแล้วไม่พบคนกระทำผิด” ทั้งที่สามารถตรวจสอบจากกรมศุลกากรในการนำเข้าปลาหมอคางดำได้ แต่ทำหรือเปล่า

“หรือกฎหมายมีไว้ใช้กับประชาชนที่เดือดร้อนและมาร้องเรียนหน้าทำเนียบเท่านั้น ชาวบ้านเห็นเลยว่านายกฯ ไม่มีความจริงใจ เราไปออกมารับหนังสือก็จบ แต่มีเวลาต้อนรับคนรวย พาลูกไปวิ่งสนามหญ้า อาสามาแก้ปัญหาแล้ว ถ้าไม่อยากทำก็ไม่ควรอาสามาเป็นนายกฯ ถ้าพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชนจริง โปรดเข้าใจ ฟังเสียงชาวบ้านบ้าง อย่าฟังข้าราชการอย่างเดียว ฟังตาสีตาสายายมียายมาบ้างว่าเขาเดือดร้อนยังไง และอย่าคิดแทนต้องคิดร่วม เราไม่ได้ใช้อารมณ์ เราชาวบ้านจบป.4 เปรียบก็เหมือนกับลูกที่ได้รับความเดือดร้อนก็มาบอกพ่อแม่คือรัฐบาลให้ช่วยเหลือ แต่พ่อแม่นิ่งเฉย มันใช่มั้ย เป็นพ่อแม่ที่ไม่มีภาวะผู้นำดูแลลูกหรือเปล่า สิ่งที่ได้คือความไม่จริงใจในการแก้ปัญหา ประมงพาณิชย์รัฐบาลก็ดูแล ภัยธรรมชาติก็มีการเยียวยา เรื่องนี้ก็เป็นภัยพิบัติที่ถูกละเมิดยิ่งกว่าภัยธรรมชาติ ที่เราไม่ได้ก่อ แล้วทำไมไม่มีการเยียวยาให้ชาวบ้าน”

ถ้ารัฐบาลไม่จริงใจก็ต้องยกระดับการเคลื่อนไหว

สำหรับการเคลื่อนไหวต่อจากนี้หากรัฐบาลยังเพิกเฉย ก็คงจะต้องมีการยกระดับการเคลื่อนไหว “ในส่วนจังหวัดผมคงจะนำปลาและคนมากกว่านี้ ไปทวงถามความคืบหน้า และเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งมากกว่านี้ให้เหมือนฌาปณกิจหรืองานเผาศพทุกคนที่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจนำปลาหมอคางดำเข้ามาในประเทศจนเกิดการแพร่ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่มีใครสร้างเวรสร้างกรรมให้ชาวบ้านได้ใหญ่หลวงกว่านี้แล้ว ทำลายความมั่นคงทางอาหาร ทำลายระบบนิเวศ เขาต้องรับกรรม ซึ่งการไปทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งอาจเป็นอีกหนึ่งหรือสองเดือนข้างหน้าเพราะไม่ได้มีเงินทุนหรือการเมืองสนับสนุนในการเคลื่อนไหว แต่เราก็ไม่ต้องการให้เรื่องเงียบ เพราะความเดือดร้อนยังคงดำรงอยู่ เรายังต้องพยายามตะโกนให้นายกฯ ได้ยินความเดือดร้อนของพวกเรา”

นี่เป็นอีกครั้งที่ประชาชนต้องส่งเสียงตะโกนให้ผู้มีอำนาจได้ยินถึงความเดือดร้อนของพวกเขา แต่เสียงเหล่านั้นไปถึงผู้มีอำนาจหรือไม่? หรือว่าสุดท้ายแล้ว คนที่ทำลายระบบนิเวศ คนที่ทำลายชีวิตชาวบ้าน ไม่ใช่แค่ปลาหมอคางดำ แต่คือคนที่มีอำนาจแต่ไม่ทำอะไรเลย

ถ้ารัฐบาลยังเพิกเฉย ก็อย่าไปว่าชาวบ้าน หากพวกเขาต้องส่งเสียงให้ดังกว่าเดิม!

Writer Publisher

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

สรุปคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด

22/05/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo