แถลงการณ์ดังกล่าวลงนามโดยนักวิชาการ 143 คนที่ร่วมลงนามถวายฎีกาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง เนื้อหาระบุว่าข้าพระพุทธเจ้า นักวิชาการ นักวิจัย และอาจารย์มหาวิทยาลัย ดังรายนาม แนบท้ายพบการกระทำอันเป็นการทรยศต่อชาติของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายหลายฉบับ ไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไป
โดยมีทั้งกรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและผู้นำประเทศกัมพูชา ที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นคนของฝั่งตรงข้าม และข้อความอีกหลายข้อความที่แสดงให้เห็นว่านางสาวแพทองธาร ยินยอมที่จะกระทำการให้ดังที่นายฮุนเซนประสงค์
นอกจากนนี้ยังละเลยต่อหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายอีกหลายประการ ได้แก่ การนิ่งเฉยกรณีนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้รับโทษจำคุก เลยแม้แต่วันเดียว กลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 เป็นเวลาถึงหกเดือน ทั้งที่ต้องรับโทษเป็น เวลา 1 ปีตามประกาศพระบรมราชโองการ
ถูกครอบงำจากนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องห้ามตาม รัฐธรรมนูญและกฎหมายไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน แต่นโยบายของรัฐบาล และบริหารงานภาครัฐกลับเป็นไปตามที่นายทักษิณกำหนด จนคล้ายกับนางสาวแพทองธารเป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น
การกระทำของนางสาวแพทองธาร เข้าข่ายการกระทำอันเป็น การฝ่าฝืนต่อ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และตามประมวลกฎหมายอาญา ขาดไร้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ขาดไร้วุฒิภาวะและ สติปัญญาที่จะบริหารประเทศ ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียเกียรติภูมิและอาจสูญเสียอธิปไตย จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกต่อไป
“ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอกราบบังคมทูลพระกรุณา เพื่ออาศัยพระราชปัญญาและพระราชบารมีทั้งในพระราชฐานะองค์พระมหากษัตริย์ องค์รัฎฐาธิปัตย์ และองค์จอมทัพไทย เพื่อพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ควรมิควรประการใดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม”