“มาตรการรัฐไม่มี มีแต่เพิ่มภาระให้ชาวนา เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยกระดับความเคลื่อนไหว ไปหน้าสภาฯ ฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจ และถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรก็ต้องขับไล่รัฐบาล”
เป็นเสียงของ ฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย แกนนำชาวนาภาคกลาง สะท้อนความเดือดร้อนที่กำลังปะทุหนักขึ้นทุกวัน เขาเปิดใจกับ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” ถึงปัญหาราคาข้า่วที่ยังตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
“ล่าสุดราคาข้าวเหลือไม่ถึงหกพันบาท บางพื้นที่ตกไปเหลือแค่ 5,300 บาทต่อตันเท่านั้น ชาวนาจะตายกันอยู่แล้ว เพราะทุนอยู่ที่ 6,500-7,000 บาท ราคาตกลงจนน่ากลัวมาก”
เขาชี้ว่า ความไม่แน่นอนของภาครัฐ และการขาดความเชื่อมั่นของโรงสี ทำให้บางแห่งหยุดซื้อ เป็นสาเหตุที่ราคาข้าวตกต่ำ ขณะที่ชาวนาต้องเผชิญปัญหาหลายด้านซ้ำซ้อน นอกจากรัฐไร้มาตรการช่วยเหลือแล้ว ยังออกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าว ทำให้มีต้องจ่ายค่าอัดฟางเพิ่มขึ้นไร่ละ 100 บาท ประจวบกับเวลากระชั้นชิด หากเตรียมที่นาไม่ทันก่อนพฤษภาคม จะปลูกข้าวรอบใหม่ไม่ได้ และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว กันยายนน้ำจากเขื่อนจะถูกปล่อยลงทุ่งเพื่อป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ
“ราคาข้าวลงรายวัน 2-300 บาท ซึ่งเราไม่ไหวแล้ว ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เราอาจนัดกันเผาตอซังข้าวพร้อมกันในวันที่ 1 เมษายน และนั่นจะยิ่งเป็นปัญหา เราก็ไม่ได้อยากให้เกิดปัญหา PM2.5 แต่เราถูกบีบจนไม่มีทางเลือก“
นายกฯ อยู่ข้างชาวนาฯ หรือ อยู่บนหัวชาวนา?
แกนนำชาวนาภาคกลาง สะท้อนปัญหาด้วยว่า เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทราบปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจต้องรอฝ่ายนโยบาย ซึ่งรัฐบาลก็ได้แต่สับขาหลอกชาวนา ไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจัง “นายกฯ บอกอยู่ข้างชาวนา ผมก็สงสัยว่าอยู่ข้างไหน ข้างหน้า ด้านข้าง ข้างหลัง หรืออยู่บนหัวชาวนา เพราะเรารู้สึกว่าถูกกดหัวอยู่ทุกวัน ไม่มีมาตรการช่วยเหลือ สนใจแต่แจกเงินดิจิทัล เราเคลื่อนมาตั้งแต่เดือนมกราคม ตอนนั้นข้าวยังไม่แต่งตัวเลย แต่รัฐบาลก็ไม่ทำอะไรเลย ทำให้ชาวนาเดือดร้อนหนัก ตอนนี้ทุกคนใกล้ระเบิด แล้ว” เขาระบายอย่างคับข้องใจ พร้อมคาดการณ์ว่า ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเมษายน ผลผลิตจะออกมามากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ราคาข้าวตกต่ำลงอีก ตัวเลขที่รัฐบาลอ้างว่าได้ 8,000 กว่าบาท ชดเชยอีกไร่ละพัน ถามว่าเอาตรงไหนมาคิด เพราะความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เนื่องจากชาวนาเกี่ยวสดความชื้นจะมากกว่า 15 % อยู่แล้ว เราขอให้แทรกแซงที่ 11,000 บาทแบบนี้เราก็จะอยู่ได้ เพราะน่าจะได้ตันละประมาณ 8 พันกว่าบาท เกินต้นทุนพอจะเลี้ยงตัวได้ ”แต่รัฐบาลนิ่งเฉย สับขาหลอก กลบเกลื่อนข่าวไปวัน ๆ ไม่พูดถึงความเดือดร้อนของชาวนา
เตรียมบุกสภาฯ ฟังศึกซักฟอก ยกระดับไล่รัฐบาล!
24 มีนาคมนี้ อาจเป็นวันเปลี่ยนเกม! ฐิติวัฒน์ ประกาศว่า “ชาวนาอาจไปฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่หน้ารัฐสภา และถ้ามีเหตุผลจริงอาจยกระดับจากการเรียกร้องเป็นขับไล่ให้รัฐบาลออกไปเลย ในเมื่อชาวนาเดือดร้อน สินค้าเกษตรไม่ได้รับการดูแล ก็ต้องไล่รัฐบาล” เขาบอกด้วยว่า ขณะนี้ชาวนากำลังคุยกันในเรื่องนี้ พร้อมระบุสาเหตุที่ทำให้ชาวนาเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรบริหารประเทศต่อไป เพราะสินค้าเกษตรเกือบทุกตัวตกต่ำ ไม่มีมาตรการรองรับ เอาเงินไปทุ่มกับเงินดิจิทัล ไม่ดูแลเกษตรกร ปล่อยตามยถากรรม ก่อนหน้านี้ชาวนาทำทุกอย่างตามกระบวนการไม่อยากลงถนน แต่เมื่อผู้มีอำนาจไม่ตอบรับเสียงเรียกร้องของพวกเราก็จำเป็นต้องยกระดับความเคลื่อนไหว
“พวกเราไม่ได้รวมตัวกันง่าย ๆ หรอก ถ้าไม่เดือดร้อนจริง ๆ ออกไปเพราะมันสุดทางแล้ว อยู่ก็จน อยู่ก็ตาย ไม่มีเงินใช้หนี้ บางคนเกี่ยวเสร็จไม่ได้เงินเลยต้องไปใช้หนี้หมด แล้วจะเอาเงินที่ไหนลงทุนใหม่ ไปคราวนี้ผมคิดว่าจำนวนจะมากกว่าที่เคยไปทำเนียบ เพราะมันอยู่กันไม่ไหวแล้ว หนักกันหมดแล้ว เครียดหนัก พูดเสียงเดียวกัน… ไปกันเถอะ!”