“หลานฉันปอดหายเกือบหมด หมอต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ” คำพูดสะเทือนใจจากย่าของเด็กหญิงวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต้องเผชิญกับวิกฤตสุขภาพหลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมมาตั้งแต่ชั้น ป.4
บุหรี่ไฟฟ้า: ของเล่นใหม่ที่กลายเป็นพิษร้าย
บุหรี่ไฟฟ้า ถูกนำเสนอว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม สารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อปอดและระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนที่ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ
สถิติที่น่าตกใจ: เด็กไทยกับบุหรี่ไฟฟ้า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบว่าเด็กไทยเริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ ซึ่งส่งผลให้โรคหืดและโรคปอดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล สสส.เคยเปิดผลสำรวจพบว่าเด็กไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงขึ้น 5.3 เท่า จาก 3.3% ในปี 58 เป็น 17.6 % ในปี 65 โดยพบว่าเด็กประถม 15 % เคยถูกคนในครอบครัวแนะนำให้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจเยาวชน กทม. 400 ตัวอย่าง พบว่าเสียเงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึงปีละ 26,944 บาท หรือเดือนละ 2,245 บาท 73% ใช้เงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้า 501-1,000 บาท/สัปดาห์
รัฐบาลและการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า: ทำเพียงพอหรือไม่?
แม้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า แต่ยังมีความขัดแย้งและข้อกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินงาน โดยมีรายงานว่ากรรมาธิการบางคนมีความสัมพันธ์กับบริษัทบุหรี่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า
ถึงเวลาที่ผู้ใหญ่ต้องลุกขึ้นมาปกป้องอนาคตของชาติ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 12 ปี เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องไกลตัว และกำลังคุกคามสุขภาพของเยาวชนไทย ผู้ปกครอง ครู และสังคมต้องร่วมมือกันให้ความรู้และเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ ตกเป็นเหยื่อของพิษภัยนี้
อย่าปล่อยให้บุหรี่ไฟฟ้าทำลายอนาคตของลูกหลานเรา ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งภัยเงียบนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป