ทักษิณเป็นแค่สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์”
— รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลกก ณ ภูเก็ต
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
เดินสาย–แสดงตัว–เสริมอำนาจ: เกมการเมืองที่ทักษิณยังอยากควบคุม
บทบาทของ ทักษิณ ชินวัตร บิดาของนายกรัฐมนตรีหญิงที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กำลังกลับมาเคลื่อนไหวถี่อีกครั้ง — ทั้งในรูปของการแสดงวิสัยทัศน์ผ่านเวทีต่าง ๆ และการร่วม “ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล” ที่สะท้อนความพยายามจะกุมสภาพอำนาจทางการเมืองไว้ในมือ
“การไปร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการแสดงให้เห็นว่าทักษิณต้องการยืนยันว่าตนยังคุมสถานการณ์ได้อยู่ แต่ความเป็นจริงแล้ว ผลลัพธ์อาจไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป”
รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลกก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดอย่างตรงไปตรงมา
พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มองทักษิณเหมือนเดิมอีกแล้ว — เพราะ บารมีที่ลดลง ขณะที่พรรคเล็กกลับมีอำนาจต่อรองสูงในรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ “แค่ชาติไทยพัฒนาถอนตัว รัฐบาลก็ล้มได้”
⸻
รัฐบาลเปราะบาง–เพื่อไทยเปราะตาม
ในมุมของ รศ.ดร.พิชาย การที่ทักษิณต้องลงทุนลงแรงขนาดนี้ก็เพราะรู้ว่ารัฐบาลเปราะบาง การเดินสายแสดงตนจึงเป็นเครื่องมือเรียกความมั่นใจกลับจากพรรคร่วม และฐานเสียงของเพื่อไทย แต่ก็ไม่ใช่หลักประกันว่าเขาจะคุมเกมได้จริง
“ถ้ายังต่อรองผลประโยชน์กันได้ ก็อยู่ต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าทักษิณจะกำหนดทิศทางได้อย่างที่คิด”
⸻
ใกล้ล่มสลาย: ถ้าแพทองธารหลุด–ถ้าทักษิณติดคุก
รศ.ดร.พิชาย สนับสนุนการวิเคราะห์ที่ว่า เวลาของรัฐบาลชุดนี้อาจเหลือน้อยเต็มที เร็วสุดคือ “สิงหาคม” ช้าสุด “กันยายน”
จุดตัดสำคัญคือคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดีคลิป “ฮุน เซน” ที่อาจนำไปสู่การ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของแพทองธาร ได้
“ถ้าแพทองธารหลุด ทักษิณก็จะแสดงตัวว่าเพื่อไทยยังพร้อมเป็นแกนนำ แต่ถ้าทักษิณต้องกลับเข้าเรือนจำจากคดีชั้น 14 ก่อนศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด บทบาทนำของพรรคเพื่อไทยก็จะยิ่งอ่อนลง”
ตัวแปรอีกอย่างคือคดี “ชั้น 14” ที่อาจทำให้ทักษิณอาจถูกดำเนินคดีเพิ่ม ฐานมีส่วนร่วมในการให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
“เหมือนกรณีสีกากอล์ฟที่ส่งเสริมให้พระกระทำความผิด”
⸻
ยุบสภา: กลยุทธ์สุดทาง หากผลักใครเป็นนายกฯ ไม่ได้
หนึ่งในฉากทัศน์ที่รศ.ดร.พิชาย มองว่าทักษิณอาจเลือกเดิน หากไม่สามารถผลักดันคนของเพื่อไทยขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ คือ “การยุบสภา”
“ถ้าสุดท้ายผลักดันคนของพรรคขึ้นเป็นนายกฯ ไม่ได้ ทักษิณจะยุบสภา แม้จะไม่ได้เปรียบทางการเมืองก็ตาม เพราะไม่มีทางเลือกอื่น”
และถึงแม้ แพทองธาร จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ รักษาการนายกฯ ก็สามารถยื่นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาได้ แม้ไม่เหมาะสมในทางปฏิบัติ แต่ก็ไม่มีกฎหมายห้าม
“หากเกิดภาวะจนแต้ม พรรคเพื่อไทยก็อาจเดินเกมให้รักษาการนายกฯ ยุบสภา”
ภาวะทางตันทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ จึงอาจไม่ได้จบแค่ “เลือกนายกฯ คนใหม่ไม่ได้” แต่ลามไปถึง “กลับไปตั้งหลักใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า” — ซึ่งก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน
————-
ทางตันซ้อนล็อก: ข้อเสนอทักษิณสร้างปัญหา มากกว่าคลี่คลาย
แม้ทักษิณจะเสนอแนวคิดทางเศรษฐกิจ–การเมืองในช่วงนี้บ่อยครั้ง แต่รศ.ดร.พิชายกลับมองว่า
“สิ่งที่เสนอมาเป็นแค่แนวคิดเดิม ๆ ไม่มีทางผ่าทางตันได้ เพราะการเมืองยังอยู่ภายใต้การครอบงำของนักการเมืองบ้านใหญ่ และรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ทำให้ประเทศติดล็อกซ้ำซาก อยู่ในวัฏจักรเสื่อมถดอย ภายใต้การกุมอำนาจของนักการเมืองบ้านใหญ่”
แม้แต่การเสนอแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ ๆ ก็ยังอยู่ภายใต้กรอบความคิดเก่า ไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่แท้จริง
“ต่อให้ดูหวือหวา แต่รากความคิดเป็นของเดิมหมด”
และที่สำคัญที่สุด “ทักษิณไม่สามารถคลายล็อกได้ ตรงกันข้าม ตัวเขาเองอาจติดล็อกตัวเองด้วยซ้ำ”
⸻
ล้มละลายทางการเมือง: ผลโพล–ผลเลือกตั้ง–ปลายทางแห่งความเสื่อม
รศ.ดร.พิชาย ชี้ว่า ทักษิณติดกับดักของตัวเอง
“เขาไม่ยอมวางมือ เพราะยังยึดติดกับความสำเร็จในอดีต ไม่ยอมรับว่ายุคของตัวเองจบไปแล้ว”
แม้แต่โพลบางรายการที่ถามว่า “คนไทยเชื่อใครระหว่างทักษิณกับฮุน เซน”
ผลคือ ทักษิณได้แค่ 3% เท่านั้น
“ทักษิณกลายเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือไปแล้ว”
และบททดสอบสำคัญรออยู่ข้างหน้า
10 สิงหาคมนี้ หากพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อมที่ ศรีสะเกษ
“จะยิ่งตอกย้ำว่าเพื่อไทยกำลังขาลง ถ้าตีหนูไม่สำเร็จแต่ถูกหนูกัดขึ้นมา ก็เป็นกาฬโรคได้เลย ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยก็จะบาดเจ็บหนัก”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิชายรัตนดิลกณภูเก็ต #หลงตัวเอง #ฮุนเซน #รัฐบาลแพทองธาร #ทักษิณชินวัตร #เสมียนประเทศ #พรรคเพื่อไทย #วิกฤตจริยธรรมผู้นำ

