.
กรณีนี้เกิดจาก กกต.ยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายสมชาย เล่งหลัก กรณีรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลจัดเตรียมเงินเพื่อให้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จูงใจให้ลงคะแนนเสียง ขณะลงสมัครรับเลือกตั้งสส.สงขลา ในนามพรรคภูมิใจไทย โดยศาลฎีกา พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสมชายเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา
ปัจจุบันนายสมชาย เป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ (กลุ่ม 19) ซึ่งนายมงคล สุรัจสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยังไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ บอกต้องรอคำสั่งศาลอย่างเป็นทางการก่อน
.
ต้องติดตามว่าผลจากคำพิพากษาของศาลฎีกาจะกระทบต่อตำแหน่งวุฒิสภาของนายสมชายหรือไม่
.
ด้านนายสมชายกล่า ว่า ได้รับทราบคำสั่งศาลฎีกาแล้ว เนื่องจากฝ่ายทนายได้แจ้งมาแล้ว โดยตนจะชี้แจงและส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.หรือไม่ และภายหลังจากคัดคำสั่งศาลแล้ว ทางทนายจะดำเนินการต่อไป
.
สำหรับแนวทางที่จะใช้ต่อสู้นั้น นายสมชาย ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องตนโดยไม่ชอบ วันที่กล่าวหาตน พยานหลักฐานของกกต. ก็ไม่ได้นำแสดงว่าเป็นของกลาง ส่วนขั้นตอนการรับทราบข้อกล่าวหา ตนได้เดินทางไปที่ศาล และจากคำให้การพยานของกกต. ก็เป็นที่ทราบกันอยู่ว่ามีลักษณะเหมือนกับจัดฉากหรือเป็นคู่แข่งทางการเมืองซึ่งเราต้องต่อสู้คดีในส่วนนี้
.
“การยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นด่านสุดท้ายในการสู้คดีนี้ และมีความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากกกต. ฟ้องร้องผมโดยไม่ชอบ” นายสมชายกล่าว