“ผมไม่หนี ไม่กลัว ไม่เลิกตรวจสอบนักการเมือง” ดร.ณฐพร โตประยูร
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง”
ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
——-
“ผมไม่ฟ้องหรอก…คนอ่อนด้อยทางสติปัญญา” นี่คือคำกล่าวอันดุเดือดของ ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เปิดกลางรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ถ้า DSI ไม่จับ ดร.ณฐพร จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาจับเอง
การสัมภาษณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือถึง DSI ให้นำตัว ดร.ณฐพร ส่งฟ้องคดีฟอกเงินจากการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีที่ ดร.ณฐพร ยืนยันว่าต่อสู้มานานนับ 10 ปี และไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี
10 ปีในวังวนคดี: ความจริงที่ถูกปิดบัง
ดร.ณฐพร เริ่มต้นเล่าถึงคดีที่ยืดเยื้อมานานว่า “เป็นคดีที่ต่อสู้มานาวนานนับ 10 ปี” โดยเขายอมรับว่าเป็นหนึ่งในสิบสี่ผู้ถูกกล่าวหา แต่เน้นย้ำว่า ไม่เคยมีพฤติการณ์หลบเลี่ยงการไปพบพนักงานอัยการ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสาขาของคดีหลักที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนายศุภชัย ฐานฉ้อโกงไปแล้ว ทำให้คดีสาขาจึงชะลอรอศาลฎีกาพิจารณา รวมถึงตัวเขาเองก็ได้มีการประสานกับทั้ง DSI และอัยการมาโดยตลอด
“ล่าสุดอยู่ ๆ มีหนังสืออัยการมาซึ่งผมก็ยื่นขอความเป็นธรรมขอให้ชะลอการฟ้องไปก่อน DSI ก็ทำหน้าที่ถูกต้อง” ดร.ณฐพร กล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามีข่าวว่าจะมีการเล่นงานเขาให้อัยการฟ้องคดีโดยที่ไม่ให้ประกันตัว ซึ่งเขาไม่คิดว่าเป็นไปได้ เพราะเขาไม่ได้หนี และเป็นคดีที่มีหลักฐานว่ารับเงินมาเพราะร่วมเป็นนายหน้าขายที่ดิน มีสัญญานายหน้าชัดเจน
เมื่อ “อนุทิน” รุกคืบ: คำตอบที่เจ็บแสบ
ประเด็นร้อนที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือคำกล่าวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ระบุว่าถ้า DSI ไม่จับ ดร.ณฐพร จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาจับ ซึ่ง ดร.ณฐพร ตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่เผ็ดร้อนว่า “เป็นข่าวที่สร้างความเสื่อมเสียให้ผม ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าถูกหมายจับทั้งที่ไม่เป็นความจริง ถ้าเล่นแบบนี้ก็ไม่ว่าอะไร มีคนถามว่าจะฟ้องอนุทินมั้ย ผมไม่ฟ้องเพราะเป็นคนอ่อนด้อยทางสติปัญญา อัยการให้ DSI ออกหมายนำตัวไปให้อัยการส่งฟ้องไม่ใช่หมายจับให้ไปดำเนินคดี โต ๆ กันแล้วเอาแบบตรงไปตรงมา”
นอกจากนี้ ดร.ณฐพร ยังกล่าวต่อไปว่า “เดี๋ยวผมก็จะไปเร่งรัดคดีของอนุทินที่ค้างอยู่ใน ป.ป.ช. รวมถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่รูปการณ์ถึงขั้นยุบพรรค ในเมื่อคุณเร่งรัดคดีผม ผมก็เร่งรัดคดีคุณเหมือนกัน แต่ผมไม่ฟ้องกลับเพราะเสียเวลาศาล”
ปริศนาอายุความและแรงจูงใจเบื้องหลัง
ดร.ณฐพร ยืนยันว่าคดีของเขายังไม่หมดอายุความในวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ตามที่มีการระบุ แต่ยังเหลืออายุความอีกราว 4 ปี จึงแปลกใจว่าทำไมอัยการจึงแจ้งแบบนี้ “ผมไม่เข้าใจจะรีบร้อนเพื่ออะไร แต่ถ้าอยากทำผมก็จะสู้คดี แต่วันนี้เอาตัวผมไปฟ้องไม่ได้ เพราะต้องเตรียมโฉนดที่ดินทำราคาประเมินเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว”
เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่า คดีของเขามีผู้ต้องหารวม 14 คน แต่กลับมีเขาและลูกชายที่ถูกออกหมายเรียก ส่วนอีก 12 คนกลับไม่โดน
เดิมพันแห่งการตรวจสอบ: “หยุดผมไม่ได้หรอก”
ในท้ายที่สุด ดร.ณฐพร ยืนยันว่า ความพยายามเร่งรัดคดี หรือการฟ้องปิดปาก ไม่มีผลกับการออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบนักการเมืองที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้
“ทำแบบนี้แล้วคิดว่าผมจะกลัว เลิกคิดไปได้เลย เพราะผมไม่มีวันเลิก คดีผมไม่ใช่คดีคอขาดบาดตาย หยุดผมไม่ได้หรอก วิธีแบบนี้อาจได้ผลกับประชาชนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ แต่ผมเป็นทนายให้ตัวเองได้ เป็นนักกฎหมาย จะใช้วิธีการฟ้องปิดปาก เวลาไต่สวนผมจะขออนุญาตศาลฯ เอาสื่อมวลชนเข้าไปฟังเพื่อรับทราบข้อมูลทั้งหมดเลย ยืนยันว่าทุกอย่างที่ผมทำไม่ว่าจะเป็นเรื่องถวายฎีกา หรือร้องยุบพรรคภูมิใจไทย ทำด้วยตัวเองไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย” ดร.ณฐพร ทิ้งท้ายอย่างหนักแน่น
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #เที่ยงเปรี้ยงปร้าง #รัฐบาลแพทองธาร #กระดานอำนาจ #แพทองธาร #แพทองธารชินวัตร #ฮั้วเลือกสว #ภูมิใจไทย