วันที่ 9 มิถุนายน 2568 – บรรยากาศที่กรมสรรพากรร้อนระอุ เมื่อ 3 ส.ส.หญิงจากพรรคประชาชนได้แก่ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ส.ส.สมุทรปราการ ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อขอให้กรมสรรพากรตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงิน 12 ล้านบาทของนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ที่ปรึกษากรรมการ กสทช.
“วันนี้เราไม่ได้มาถามว่าเงินเป็นของใคร…แต่ถามว่าเงินนี้มาจากไหน” — น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ กล่าวอย่างเด็ดขาด เธอชี้ว่า นายทวีวัฒน์ไม่ใช่แค่บุคคลทั่วไป แต่มีบทบาทสำคัญในหลายอนุกรรมการของ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับเงินมหาศาลและผลประโยชน์สาธารณะ รวมถึงคณะอนุกรรมการที่เคยพิจารณาการควบรวมทรู–ดีแทคเมื่อปี 2565
“ในตอนนั้น นายทวีวัฒน์มีความเห็นว่า กสทช.ไม่มีสิทธิอนุญาตให้ควบรวมกิจการ มีอำนาจแค่ ‘รับทราบ’ เท่านั้น” — ภคมนเผย
ด้านน.ส.รักชนก ศรีนอกส.ส.กทม. กล่าวถึงภาพรวมของกรณีนี้ว่า คล้ายกับกรณี “ตึก สตง.ถล่ม” ที่ภายหลังพบว่ามีปัญหาการก่อสร้างและระบบตรวจสอบ
“นี่คือฝีแตกที่สะท้อนถึงความเละเทะของระบบกำกับดูแลแบบเดิม ๆ ใน กสทช. และแน่นอน เราจะกัดไม่ปล่อย” — ไอซ์ รักชนก กล่าว
เธอระบุเพิ่มเติมว่า ถ้าผู้ถือเงิน 12 ล้านนี้ไม่ยอมเปิดเผยความจริง ก็ต้อง “ลากคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงนรกไปด้วยกัน”
ขณะที่น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์สงสัยว่าเงิน 12 ล้านบาทในกล่องดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายนนี้หรือไม่
พร้อมกันนี้น.ส.ภคมนยังฝากประชาชนจับตาความเคลื่อนไหวของ “กองทุนยูโซ่” ที่บริหารเงินกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปีว่าอาจมีความพยายาม “ฮั้ว” หรือไม่โปร่งใสอยู่เบื้องหลัง
ทั้ง 3 ส.ส. ระบุว่า การยื่นเรื่องต่อกรมสรรพากรวันนี้ เป็นก้าวแรก ก่อนเดินหน้าต่อไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อผลักดันให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบและโปร่งใสต่อไป
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #เงิน12ล้าน #12ล้านกับกสทช #สสปชน #พรรคประชาชน