น่าจะชัดเจนแล้วสำหรับการตัดสินใจของ “แพทองธาร ชินวัตร” หรืออาจจะมาจากผู้มีอำนาจเหนือกว่า ที่จะไม่เลือกทางเดียวกับสมัย ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ที่เลือกยุบสภาเมื่อเส้นทางอำนาจเข้าสู่ทางตัน
สาเหตุไม่มีอะไรมาก คำเดียวสั้น ๆ
“กลัวแพ้เลือกตั้ง”
ผลสำรวจจากนิด้าโพลล่าสุดชี้ชัดว่า “คะแนนนิยมร่วงหนัก”
เรตติี้งแพทองธารหล่นไปอยู่อันดับ 5 (9.20%)
ส่วนพรรคประชาชนที่ตีปี๊บยุบสภา…มาแรง
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคฯ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ที่ 31.48%
คำถามที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ —ที่แพทองธารไม่ยุบสภา ขณะณัฐพงษ์เรียกร้องให้ยุบสภา
เป็นการตัดสินใจเพื่อประชาชน หรือเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง?
⸻
ย้อนดู “สามยุคชินวัตร” กับการยุบสภา
ทักษิณ ชินวัตร (2549)
ยุบสภาสวนคำเรียกร้องให้ลาออก เพราะเชื่อมั่นในฐานเสียง — แล้วสุดท้ายเลือกตั้งมีปัญหา ถึงขั้นถูกศาลรธน. วินิจฉัยให้เป็นโมฆะ ก่อนเกิดการรัฐประหาร
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (2557)
ยุบสภา — หวังใช้ผลเลือกตั้งสร้างความชอบธรรมใหม่ แต่ก็มีปัญหาเลือกตั้งโมฆะอีกครั้ง ลงเอยที่รัฐประหารอีกหน
แพทองธาร ชินวัตร (2568)
อยู่ท่ามกลางสถานการณ์คล้ายกัน แต่ทางเดินแคบกว่าเพราะคะแนนนิยมแตกต่างจากยุคพ่อและอาสาวโดยสิ้นเชิง จึงได้แต่ท่องคาถา “ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก” เดินหน้าปรับครม.อิ๊งค์2 แถมเพิ่มการควบตำแหน่งรมว.วัฒนธรรม เพื่อจะได้อยู่ร่วมประชุมครม.ได้ กรณีอาจถูกศาลรธน. สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ
สะท้อนทุกการตัดสินใจคือการรักษาอำนาจ
ส่วนอีกฟากอยากให้ยุบสภา เพื่อโอกาสเข้าสู่อำนาจ
ใช่หรือไม่?
ตกลงทั้งหมดนี้เพื่อประชาชน หรือแค่ใช้ประชาชนเป็นทางผ่านสู่อำนาจ?
⸻
ใช้ประชาชนเป็นข้ออ้าง หรือยืนข้างประชาชนจริง?
ไม่ว่าจะเพื่อไทยที่ไม่ยุบ เพราะกลัวเสียอำนาจ
หรือพรรคประชาชนที่เร่งให้ยุบ เพราะกำลังได้เปรียบ
ทั้งคู่ต่างอ้างชื่อประชาชนเป็นเหตุผล
แต่ถ้ามองจากพฤติกรรม
มันดูเหมือนแค่ “การเลือกจังหวะที่ตัวเองได้ประโยชน์” มากกว่าจะเป็นการฟังเสียงของประชาชนจริง ๆ หรือเปล่า?
ยิ่งในช่วงที่เกิดคลิปเสียงสะเทือนสังคม
ที่นายกฯ ของประเทศกำลังถูกตั้งคำถามเรื่องอธิปไตย
แต่สองพรรคใหญ่ — ยังสาละวนอยู่กับการแสวงหาความได้เปรียบทางการเมือง
⸻
ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
เสียงของประชาชนไม่ใช่แค่ “เสียงเลือกตั้ง” ที่จะมาถึง
แต่คือ “เสียงตื่นรู้” ที่กำลังตั้งคำถามกลับไปยังพรรคการเมืองทั้งหมดว่า:
อย่าบอกว่าเพื่อประชาชน ถ้าสุดท้ายแค่เอาชื่อประชาชนมาบังหน้า
แต่เมื่อได้อำนาจ ทั้งชาติและประชาชนก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ประเทศนี้ไม่ใช่สนามต่อรองของแผนลับระหว่างพรรค
ไม่ใช่กระดานหมากที่นักการเมือง…แย่งกันนั่งฝั่งได้เปรียบ
ไม่อยากให้มีรัฐประหาร ไม่อยากให้ถึงทางตัน
ต้องมองทางออกทุกมิติ บนผลประโยชน์ประเทศอย่างแท้จริง
ไม่ใช่ล็อกคำตอบเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง
เพราะต้องไม่ลืมว่าอีกหนึ่งโจทย์ที่เพิ่งมีการเสนอคือ
หากเกิดสุญญากาศ สส. สว. ครม. ถูกกวาดไปหมด
จากการทำผิดรธน.มาตรา 144 การใช้รธน.มาตรา 5 จะเป็นคำตอบได้หรือไม่
การเมืองไทย…ทางหลายแพร่ง
อย่าตัดสินใจเพียงแค่ต้องการแย่งอำนาจมาไว้กับตัว
เพราะถ้าทางออกทุกเส้นมีแต่การคำนวณผลประโยชน์ของพรรค
แล้วเมื่อไหร่…ประเทศไทยจะมีทางรอดของประชาชน?
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย #อำนาจต้องชอบธรรม #หยุดปฏิบัติหน้าที่ #ลาออก #ยุบสภา #รัฐบาลแพทองธาร #รัฐธรรมนูญมาตรา5 #ศาลรัฐธรรมนูญ