• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»Original»“ไทยกำลังแพ้ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต” “นณริฏ” ชี้ เศรษฐกิจไทยจมน้ำ แต่รัฐบาลยังมองไม่เห็น
Original

“ไทยกำลังแพ้ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต” “นณริฏ” ชี้ เศรษฐกิจไทยจมน้ำ แต่รัฐบาลยังมองไม่เห็น

05/03/20251 Min Read
Facebook Twitter

ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก เศรษฐกิจดูไร้ทิศทาง และนักลงทุนต่างชาติเริ่มถอยห่าง “สิ่งที่อันตรายที่สุด ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจ แต่คือการที่รัฐบาลไม่เข้าใจว่ามีปัญหา” ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจาก TDRI ให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” โดยระบุว่า “วันนี้ไทยกำลังแพ้ทุกมิติทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต และสิ่งที่อันตรายที่สุดไม่ใช่วิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น แต่คือการที่รัฐบาลยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นแล้ว

ตลาดหุ้นไทย ภาพสะท้อน” อนาคตที่ไร้อนาคต”

เขาอธิบายว่า ตลาดหุ้นไทยที่ร่วงหนักไม่ใช่เพราะแค่ปัจจัยระยะสั้น แต่เกิดจากสามปัจจัยใหญ่ที่สะสมมานานและรัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขอย่างจริงจังวิกฤตที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ ไม่ใช่แค่ปัญหาระยะสั้น แต่คือผลสะสมจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงเรื่อย ๆ อุตสาหกรรมหลายอย่างกำลังเป็น” ตะวันตกดิน “โรงกลั่นน้ำมันกำลังถูกลดความสำคัญในโลกที่ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เคยเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจไทย วันนี้กำลังเผชิญคู่แข่งรายใหญ่อย่างจีน ที่สามารถผลิตได้เองในราคาถูกและมีประสิทธิภาพมากกว่า อุตสาหกรรมยานยนต์เองก็ต้องปรับตัวรับกับคลื่นของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้ชิ้นส่วนน้อยลง ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และอาจไม่ต้องพึ่งพาฐานการผลิตในไทยมากเหมือนเดิม

โลกเปลี่ยน ไทยยังติดอยู่กับโมเดลเก่า!

ไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือความหย่อนยานของธรรมาภิบาลในตลาดทุน บริษัทจดทะเบียนจำนวนมากกำลังเผชิญข้อครหาว่าผู้บริหารใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นหุ้น มากกว่าการพัฒนาองค์กร บางรายมีประวัติฉ้อโกง หรือใช้บริษัทเป็นเครื่องมือในการสร้างกำไรส่วนตัวมากกว่าการดำเนินธุรกิจที่แท้จริง เมื่อปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีการจัดการอย่างจริงจัง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็สั่นคลอน” ถ้าตลาดหุ้นไม่ใช่ที่ลงทุน แต่เป็นการเก็งกำไรอย่างฉาบฉวย ก็จะไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป มีการศึกษาของเจพีมอร์แนและกสิกรไทยที่สะท้อนภาพให้เห็นว่า เมื่อเทียบกับความเสี่ยงแล้วผลตอบแทนของไทยคุ้มหรือไม่ คำตอบออกมาว่าไม่คุ้ม ต้องดันให้หุ้นไทยน่าลงทุนเมื่อเทียบกับต่างประเทศ”

สงครามเศรษฐกิจมาแล้ว แต่ไทยยังไร้แผนรับมือ!

ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือโลกเองก็กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และไทยยังไม่มีแผนรับมืออย่างเป็นรูปธรรม การกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจหมายถึงกำแพงภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกของไทย ขณะที่จีนเองก็กำลังขยายอิทธิพลไปในหลายอุตสาหกรรม กดดันให้มาร์จิ้นของธุรกิจลดลง และทำให้การแข่งขันยิ่งดุเดือด “เหมือนเค้กในตลาดโลกลดลง หรือโตช้า การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากธุรกิจจีนเข้ามาแทรกแซงในหลายสนามแข่งขัน ซึ่งเท่ากับมาร์จิ้นจะบางลง ผลตอบแทนก็จะต่ำลง และต้องดูว่าแข่งขันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ด้วย สำคัญที่สุดคือเรื่องความเชื่อมั่น เพราะคนไม่แน่ใจว่าโลกจะเป็นอย่างไร เศรษฐกิจไทยจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ตลาดหุ้นคนก็ไม่แน่ใจว่ายังเป็นแหล่งที่สามารถลงทุนร่วมกันโดยไม่ต้องทำธุรกิจเองหรือไม่”

รัฐบาลมองอนาคตแบบไหน? แก้เศรษฐกิจหรือคิดแค่เอาตัวรอดทางการเมือง?

เมื่อปัจจัยลบซ้อนกันหลายชั้น คำถามสำคัญคือรัฐบาลมีแผนรับมือหรือไม่ ดร.นณริฏ ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ กำลังเร่งปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลง รัฐบาลไทยกลับยังวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิม ๆ นโยบายที่ถูกนำเสนอหลายอย่างยังเป็นการพยายามแก้ไขอดีต เช่น การส่งเสริมเอสเอ็มอี ที่ควรจะต้องทำมาตั้งแต่ 20-30 ปีที่แล้ว หรือการพูดถึงการพัฒนาดิจิทัล ในขณะที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ AI ที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก

“วันนี้รัฐบาลกำลังสุมหัวคิดกันอยู่ว่าจะรับมือกับอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร แต่ไม่มีใครพูดถึงการรับมือเศรษฐกิจที่รอการแก้ไข” ดร.นณริฏ กล่าว ก่อนจะเสริมว่า ปัญหาของไทยตอนนี้คือ การที่เศรษฐกิจถูกทำให้เป็นเรื่องรอง ขณะที่การเมืองกลายเป็นเรื่องหลัก รัฐบาลพยายามสร้างมาตรการระยะสั้นที่ดูเหมือนจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการประคองสถานการณ์ เช่น การใช้กองทุนวายุภักษ์เพื่อพยุงตลาดหุ้น การดึงกองทุน LTF กลับมา ซึ่งอาจช่วยได้ระยะสั้น แต่ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง” เหมือนการฉีดสเตียรอยด์ กระตุ้นระยะสั้น แต่ไม่ได้ทำให้แข็งแรงขึ้นจริง”

เรากำลังจมน้ำ แต่รัฐบาลยังคิดว่าไหวอยู่!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ เมื่อไม่มีแผนเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม ก็ต้องหาทางรอดแบบฉาบฉวย ดร.นณริฏ มองว่า รัฐบาลกำลังเลือกนโยบายที่ง่าย และให้ผลเร็ว เช่น การเปิดกาสิโน การส่งเสริมธุรกิจสุราเสรี หรือแม้แต่การพนันออนไลน์ ซึ่งแม้ว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้จริง แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาสังคมระยะยาวที่อาจควบคุมไม่ได้” รัฐบาลเลือกทางออกที่ง่าย เร็ว แต่ไม่ยั่งยืน ได้เงิน แล้วผลกระทบทางสังคมล่ะ”

รัฐไม่เข้าใจปัญหาคืออันตรายที่สุด!

เมื่อถูกถามถึงคำสัมภาษณ์ของ รมช.คลัง ที่กล่าวว่า คนฉลาดจะมองพื้นฐานเศรษฐกิจและมองสิ่งนี้เป็นโอกาส คนไม่ฉลาดจะตื่นเต้นไปกับภาวะตลาดหุ้นตก ดร.นณริฏ ตอบทันทีว่า “นี่คือตัวอย่างของทัศนคติที่อันตรายที่สุด เพราะก่อนจะแก้ไขปัญหา เราต้องรู้ก่อนว่ามีปัญหา” เขาย้ำว่า การมองข้ามวิกฤต หรือพยายามบอกว่ามันไม่ใช่ปัญหา คือสิ่งที่อันตรายกว่าวิกฤตเสียอีก

“ถ้าคุณไม่คิดว่าป่วย คุณก็จะใช้ชีวิตแบบปกติ ทั้งที่ร่างกายกำลังแย่ลง นี่คือสิ่งที่อันตรายที่สุด”

ไทยแพ้ทุกช่วงเวลา ถ้ายังไม่มีแผนจริงจังจะจมลึกกว่าเดิม!

สุดท้าย เมื่อถูกถามว่า มองเห็นอนาคตของประเทศไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้อย่างไร คำตอบของดร.นณริฏ ชัดเจน “ไม่เห็น” เพราะเมื่อไม่เห็นอนาคต ก็ต้องเริ่มหาทางรอด เขาเปรียบเทียบว่า ตอนนี้ไทยเหมือนกำลังจะจมน้ำ แต่เรากลับเลือกที่จะคว้าอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือ แทนที่จะมองหาทางออกที่ยั่งยืน

“พายุเศรษฐกิจลูกใหญ่กำลังมา ทรัมป์กำลังกลับมา จีนกำลังบุก AI กำลังเปลี่ยนโลก แต่รัฐบาลไทยยังคิดแก้ปัญหาแบบปี 2000 และหาทางรอดแบบปี 1990”

“นี่คือสัญญาณอันตรายว่า เรากำลังแพ้ทุกช่วงเวลา ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต”

#editorpick #originals #Social #ThePublisher รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ รัฐบาลแพทองธาร สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo