• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»สัญญาณเตือนภัย! GDP โต 3% ค่ารักษาพุ่ง 9% งบพยุงไม่ไหว! กองทุนสุขภาพเสี่ยงล้ม ประเทศไทยเอาไงต่อ?

สัญญาณเตือนภัย! GDP โต 3% ค่ารักษาพุ่ง 9% งบพยุงไม่ไหว! กองทุนสุขภาพเสี่ยงล้ม ประเทศไทยเอาไงต่อ?

14/03/20251 Min Read
Facebook Twitter

ลองจินตนาการว่าเรากำลังขับรถยนต์ที่มีความเร็วคงที่บนถนนที่มีความชันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากเราไม่เพิ่มความเร็วหรือปรับเกียร์ รถของเราก็อาจจะช้าลงหรือหยุดนิ่งไปในที่สุด สถานการณ์นี้เปรียบเสมือนระบบสาธารณสุขของประเทศไทยในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไม่สามารถตามทันได้

ในปี 2568 ประเทศไทยยังคงมีการคาดการณ์ GDP เติบโตที่ประมาณ 2.8-3.0% โดยภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาคเอกชนพยายามยื้อชีวิตเศรษฐกิจอยู่ แต่ลองคิดดู… ในขณะที่เศรษฐกิจอืดอาดแบบนี้ ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขกลับพุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ เริ่มต้นจากการที่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัว ทั้งยังต้องรับมือกับภาระจากประชากรสูงอายุที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

สภาพแบบนี้จะทำยังไงดี? บางคนบอกว่าแค่เพิ่มงบประมาณก็พอ แต่คำถามคืองบประมาณที่เพิ่มขึ้นมันจะช่วยอะไรได้ ถ้าเรายังคงไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับการรั่วไหลของเงินในระบบบัตรทอง โรงพยาบาลรัฐขาดทุนจนต้องขอรับบริจาคเพื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้แพทย์ต่อไป… ทำไปทำมาแทนที่จะใช้จ่ายในเรื่องของการพัฒนาสุขภาพ เรากลับต้องใช้เงินไปกับการพยุงระบบที่ไม่ยั่งยืนนี้

จากการคาดการณ์ล่าสุด ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น บัตรทองอาจจะต้องเผชิญกับการปรับลดสิทธิ์หรือการจำกัดจำนวนโรคที่รักษาฟรี หรืออาจจะต้องตัดสินใจว่า จะ “รักษาทุกคนจนล้มละลาย” หรือ “คัดกรองใครที่เหมาะสมจะรักษา” นั่นหมายถึงว่า “หลักประกันสุขภาพจะไม่ถ้วนหน้าอีกต่อไป”

“งบสาธารณสุขปี 2568 เพิ่มเกือบ 9 % แต่ยังไม่พอ”

จากข้อมูลของ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า งบประมาณของบัตรทองในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ถึง 8.37 % โดยเพิ่มค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายรายหัวเป็น 3,844.55 บาทต่อคน

หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป เงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีก็อาจจะ ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ขาดดุลไม่พอ สุดท้ายบัตรทองอาจต้องลดสิทธิ์”

หากไม่มีการแก้ไขปัญหา นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับระบบบัตรทอง รัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่มขึ้น เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล นำไปสู่ปัญหาหนี้สาธารณะพุ่งสูง,โรงพยาบาลรัฐอาจไม่มีเงินจ่ายหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เพราะงบประมาณที่ได้รับไม่พอ,รัฐบาลอาจต้องลดสิทธิบัตรทอง เช่น จำกัดโรคที่รักษาได้ฟรี หรือปรับให้ประชาชนต้องจ่ายร่วม คนรวยไม่เดือดร้อน แต่คนจนต้องแบกรับภาระมากขึ้น นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพที่รุนแรง

ที่แย่ที่สุด อาจเกิดภาวะล่มสลายของระบบบัตรทอง เพราะงบประมาณไม่พอรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาล และเราคงไม่อยากเห็นประเทศไทยเดินไปถึงจุดนั้น

“เราจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง?”

ทางรอดยังมี แต่ต้องรีบลงมือก่อนที่สถานการณ์จะวิกฤตเกินเยียวยา

  1. บริหารจัดการงบประมาณสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปรับโครงสร้างการจัดการงบประมาณให้ลดการรั่วไหลและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ใช้เทคโนโลยีและ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลคนไข้และบริหารค่าใช้จ่าย

  1. เพิ่มแหล่งรายได้เพื่อสนับสนุนบัตรทอง

เก็บภาษีเพิ่มจากสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีน้ำตาลสูง และปรับโครงสร้างจากรัฐรับผิดชอบทั้งหมด เป็นระบบให้ประชาชนจ่ายสมทบบางส่วน เช่น ระบบประกันสุขภาพภาคบังคับหรือสมัครใจ อาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่ารักษาพยาบาลร่วมจ่าย หรือ สร้างระบบประกันสุขภาพเสริม ให้ภาคเอกชนมีทางเลือกจ่ายเพิ่มเพื่อบริการที่ดินขึ้น แบ่งเบาภาระภาครัฐ

“บัตรทองจะอยู่หรือไป…ขึ้นอยู่กับวันนี้”

อย่าเอาแต่คิดจะเพิ่มสิทธิยังไง ในขณะที่ความจริงมันฟ้องอยู่ว่าเงินตึงตัวยอมรับความจริงว่าเงินที่มีมันจะร่อยหรอลงเรื่อย ๆ สวนทางภาระที่จะหนักจนเข่าแทบทรุด…อย่าปล่อยให้ระบบบัตรทองต้องล่มสลายเพราะความละเลยทางนโยบาย หากเรายังไม่แก้ไขโครงสร้างการเงินของระบบสาธารณสุข ประเทศไทยอาจเข้าสู่จุดที่ต้องเลือกระหว่าง “รักษาทุกคนแต่ล้มละลาย” หรือ “คัดกรองคนที่สมควรได้รับการรักษา” ซึ่งไม่มีทางเลือกไหนที่เป็นผลดีกับประชาชน

คำถามคือ “เราจะรอให้ถึงวันที่ต้องเลือก หรือจะแก้ปัญหาตั้งแต่ตอนนี้?”

#originals #ThePublisher สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo