
.
ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังระอุอย่างหนักและส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาทั่วโลกต่างจับจ้องไปยังความเคลื่อนไหวจากนานาชาติที่จะเข้ามามีบทบาทในการคลี่คลายวิกฤตนี้ นี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
1. ผลการประชุมฉุกเฉิน UNSC: แค่เสียงเตือนหรือมีมาตรการกดดัน?
.
ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) เวลา 02.00 (เวลาไทย) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะจัดการประชุมแบบปิดเพื่อหารือประเด็นความขัดแย้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ที่กล่าวหาว่าไทยรุกราน คำถามสำคัญคือ UNSC จะออกมาตรการที่ชัดเจน เช่น การเรียกร้องหยุดยิงทันที การส่งผู้สังเกตการณ์ หรือเพียงแค่แถลงการณ์เรียกร้องให้เจรจา สิ่งที่ออกมาจาก UNSC จะมีผลต่อท่าทีของทั้งสองฝ่ายอย่างมีนัยสำคัญ
2. บทบาทอาเซียนและ ‘คนกลาง’ ใหม่: “อันวาร์-ทักษิณ-ฮุน เซน” จะดับไฟได้จริงหรือ?
.
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน 2025 ได้เริ่มบทบาทในการไกล่เกลี่ยแล้ว โดยได้ติดต่อผู้นำทั้งสองประเทศ และหวังจะพูดคุยเป็นการส่วนตัว จุดที่น่าสนใจคือ การที่อันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุน เซน เป็นที่ปรึกษาอาเซียน ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลสูงในทั้งสองประเทศ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวและประสบการณ์ของบุคคลเหล่านี้ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดท่าทีทั้งสองฝ่าย รวมถึงความสามารถของอาเซียนในการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์
3. จุดยืนและอิทธิพลของจีน: มหาอำนาจที่ไม่เข้าข้างใคร จะเป็นตัวแปรสำคัญ?
.
กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่ง และประกาศพร้อมมีบทบาทที่ “สร้างสรรค์” ในการลดความตึงเครียด โดยยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นกลาง จีนมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งไทยและกัมพูชา การเข้ามามีบทบาทของมหาอำนาจอย่างจีนอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หากจีนตัดสินใจใช้ “อิทธิพลเงียบ” เพื่อกดดันให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน
4. สถานการณ์ภาคพื้นดิน: ความรุนแรงจะบานปลายหรือคลี่คลาย?
.
ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขเผยยอดผู้เสียชีวิตรวม 15 ราย (พลเรือน 14 ราย) และยอดอพยพทะลุ 1.3 แสนคน พร้อมกับการปิดให้บริการของโรงพยาบาลชายแดน 7 แห่ง กองทัพภาคที่ 2 ยังคงออกคำสั่งอพยพเร่งด่วนใน 5 อำเภอที่เสี่ยงภัยจากจรวดพิสัยไกล 40 กม. คำถามคือ การสู้รบจะยังคงรุนแรงต่อไป หรือความพยายามทางการทูตจะสามารถหยุดยั้งสถานการณ์นี้ได้ทันท่วงที? ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย
5. การเมืองภายในและผลกระทบระยะยาว: แรงกดดันบนเวทีโลกจะเปลี่ยนเกมอย่างไร?
.
ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลทั้งสองฝ่าย การแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวของผู้นำกัมพูชา และการตอบสนองของไทย จะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว แรงกดดันจากประชาคมโลกอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่บีบให้ทั้งสองฝ่ายต้องหาทางออกทางการเมืองมากกว่าการใช้กำลัง
ช่วงเวลาจากนี้ไปจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่ง ที่จะกำหนดทิศทางของความขัดแย้งและอนาคตของสันติภาพตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #ประเด็นน่าจับตา #ชายแดนไทยกัมพูชา #UNSC #อาเซียน #จีน #การทูต #วิกฤตชายแดน #ความมั่นคงภูมิภาค