นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะเป็นประธาน กพช. ให้ยกเลิกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ โดยมีการนำโพสต์เดิมของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ซึ่งอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง มีเนื้อหาระบุถึงปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ประจานความล้มเหลวรัฐบาพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะไฟฟ้าล้นจากเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ แต่ให้ใบอนุญาตเพิ่ม 5,200 เมกะวัตต์ มั่นใจพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลลดค่าไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม พร้อมปรับโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ สะท้อนจุดยืนว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่กลับเดินหน้าซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอีก 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นแผนสืบเนื่องจากการซื้อไฟฟ้า 5,200 เมกะวัตต์ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธโดยตรง โดยกพช.เป็นผู้กำหนดวิธีรับซื้อโดยวิธีคัดเลือก การรับซื้อล็อกล่วงหน้าถึงแปดปี คือ 2565-2573 ไม่มีการแข่งขัน ทำให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงขึ้นในอีก 25 ปีข้างหน้า
“นายกฯ และรัฐบาลกำลังปัดความรับผิดชอบ อ้างว่าไม่มีอำนาจเต็มในเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่มีอำนาจสามารถยับยั้งได้ เพราะโครงการริเริ่มใน กพช.ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องยกเลิกโดยนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร ซึ่งมีเส้นตายภายในวันที่ 30 ธ.ค. 67 ถ้าไม่ยกเลิกก็จะไม่สามารถยกเลิกได้อีก เพราะตามระเบียบการรับซื้อกำหนดว่า กกพ. ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงก่อนการลงนามในสัญญา แปลว่ายกเลิกได้ตราบที่ยังไม่มีการลงนาม ดังนั้นระหว่างนี้จึงสามารถยกเลิกได้จากการเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายแห่งรัฐ ซึ่งกพช.เป็นคนกำหนดนโยบาย ถ้านายกฯ จะอ้างว่าไม่สามารถกุมสภาพเสียงข้างมากใน กพช.ได้ ก็ต้องยุบสภา เพราะ 14 ใน 19 ของกพช. คือ ครม.ที่นายกฯ ตั้ง ถ้านายกฯ ประสงค์จะยกเลิกย่อมทำได้ แต่ถ้าไม่ได้ เพราะกุมสภาพเสียงข้างมากไม่ได้ ก็แสดงว่าคุม ครม.ไม่ได้ ต้องยุบสภา“
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีทางเลือกทำให้ถูกกว่านี้ได้ แต่กลับไม่ทำ เพราะการรับซื้อไฟครั้งนี้ผูกสัญญาสัมปทานนานถึง 25 ปี ใช้วิธีคัดเลือก อาจส่งผลกระทบให้ประชาชนจ่ายค่าไฟแฟงถึงแสนล้านบาทตลอด 25 ปี ทางเลือกที่ดีกว่าคือการเพิ่มโควตาการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงที่เรียกว่า ไดเร็ก พีพีเอ จาก 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะไม่ผูกมัดที่ประชาชนต้องแบกรับภาระนี้ เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย และหากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ก็ควรเพิ่มโควตารับซื้อโซล่ารูปท็อปจากประชาชนมากขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำว่า พรรคไม่คัดค้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด แต่ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส กระจายให้ประชาชนไม่ใช่ทำให้เกิดประโยชน์กับทุนผูกขาด ทั้งนี้เห็นว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ Smart Grid เปิดให้มีการผลิตไฟฟ้าจากครัวเรือน หรือธุรกิจใดก็ได้ ผ่านกลไกการรับซื้อที่เสรี ไม่ต้องมีการผูกขาดราคาตายตัว ตนอยากได้ยินวิสัยทัศน์ของนายกฯ ในฐานะประธาน กพช. เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานในอนาคตว่า รัฐบาลเพื่อไทยเห็นด้วยหรือไม่กับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ Smart Grid และเปิดเสรีการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานสะอาดในประเทศ
“ที่ผมและประชาชนตั้งคำถามเพราะเห็นภาพนายทักษิณ พ่อนายกฯ ตีกอล์ฟกับซีอีโอธุรกิจพลังงาน เป็นสิ่งที่พวกเราอยากได้ความชัดเจน ค่าไฟแพงไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่กลไกเชื้อเพลิงต่างประเทศที่รัฐบาลคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการผูกขาด พวกเราอยากยืนยันนายกฯมีอำนาจเต็มแต่ไม่ใช้ รัฐบาลมีทางเลือกที่ดีทำให้ค่าไฟฟ้าถูกได้แต่ไม่ทำ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แต่นายกฯ กลับไม่ตอบ ผมอยากให้รัฐบาลยกเลิกการซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ทันทีและขอให้แสดงความรับผิดชอบต่อสภาฯ ในการตอบกระทู้ถามสดด้วย“ นายณัฐพงษ์ กล่าว
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://thepublisherth.com/