15 ม.ค. 68 – จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่าตนเองก็ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ AI ปลอมเสียงผู้นำประเทศหลอกลวง
ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยทางตำรวจไซเบอร์จะประสานงานกับทางกระทรวงดีอีอย่างใกล้ชิดเพื่อรวบรวมข้อมูลและดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มมิจฉาชีพต่อไป
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางตำรวจไซเบอร์มีข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้ AI ปลอมเสียงในการหลอกลวงประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการปลอมเสียงบุคคลที่รู้จัก หรือบุคคลสำคัญ โดยในส่วนของการดำเนินการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปลอมเสียงนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องประสานข้อมูลกับทางกระทรวงดีอี เพื่อร่วมกันวางแผนและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าทางกระทรวงดีอีจะมีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ AI รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่นี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
นายประเสริฐ กล่าวว่า ปัญหาการพนันออนไลน์ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก รัฐบาลจึงเห็นควรให้มีการแก้ไขปัญหาโดยการนำธุรกิจพนันออนไลน์ขึ้นมาอยู่บนดินให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคาดการณ์ว่ามีเงินหมุนเวียนมากกว่า 3 ล้านล้านบาท โดยกระทรวงดีอีจะทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการออกกฎหมายลำดับรอง เช่น กฎกระทรวง หรือ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพื่อควบคุมการพนันในรูปแบบดิจิทัล
นอกจากนี้ นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีการแก้ไข 11 มาตรา เพื่อเอาผิดธนาคาร ค่ายมือถือ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่ละเลยทำให้ประชาชนถูกหลอกโอนเงินให้มิจฉาชีพ โดยกฎหมายนี้จะบังคับให้ธนาคารและผู้ให้บริการต้องร่วมรับผิดชอบและชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายด้วย คาดว่าจะเข้า ครม. อีกครั้งในวันที่ 28 มกราคมนี้