- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิหยุดพนัน กล่าวในเวทีแถลงข่าว ประชาชนเดินหน้าล่า 5 หมื่นรายชื่อ “ไม่เอากาสิโน ต้องประชามติ”ว่า กาสิโนเป็นเรื่องใหญ่ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมวงกว้าง จากนี้จะรวบรวมรายชื่อให้ได้ห้าหมื่นรายชื่อ เพื่อผลักดันให้รัฐบาลต้องทำประชามติ พร้อมให้ข้อมูลถึงอันตรายของร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรว่า กฎหมายเปิดช่องหลายเรื่อง เช่น การเปิดกาสิโนได้โดยไม่จำกัด เมื่อรัฐบาลไม่ทำประชามติ ประชาชนก็ต้องเข้าชื่อให้ได้ 5 หมื่นชื่อเสนอต่อ ครม.เพื่อให้ทำประชามติตามที่กฎหมายเปิดช่องให้เราทำได้ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันเสนอตัวเป็นผู้ริเริ่มจัดทำ เมื่อได้ 5 หมื่นชื่อส่ง กกต.ตรวจสอบเสนอรัฐบาล เขามีหน้าที่กำหนดวันว่าจะลงประชามติเมื่อไหร่ ซึ่งจะอยู่ในกรอบเวลา 3-4 เดือน หลังรัฐบาลได้รับเรื่องแล้ว “มันเป็นเรื่องของความชอบธรรม ถ้าในเมื่อประชาชนประกาศชัดเจนแล้วขอให้ทำประชามติ สำนักงานเลขาครม.จะดองเรื่องคงไม่ได้ เพราะมีการไปเร่งกฤษฎีกาให้ทำภายในห้าสิบวัน รีบเอาเข้าสภาฯ แต่ความต้องการของประชาชนกลับดองไว้ เชื่อว่ารัฐบาลจะถูกประชาชนติฉิน” นายธนากร กล่าวว่า แม้การทำประชามติจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ก็อาจใช้โอกาสนี้สอบถามความเห็นประชาชนในประเด็นสาธารณะหลายเรื่องไปพร้อม ๆ กันด้วยเลย ซึ่งในเรื่องการตั้งคำถามก็ต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดร่วมกัน ป้องกันไม่ให้รัฐบาลไปตั้งคำถามในลักษณะชี้นำ ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับเครือข่ายคนคัดค้านกาสิโน จัดแถลงข่าว ประชาชนเดินหน้าล่า 5 หมื่นรายชื่อ “ไม่เอากาสิโน ต้องทำประชามติ โดย รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชี้ถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องทำประชามติ ก่อนดำเนินการจัดตั้งกาสิโนว่า ประชามติแตกต่างจากประพิจารณ์อย่างสิ้นเชิง รัฐบาลในประเทศที่พัฒนาแล้วต้องทำประชามติในประเด็นสาธารณะที่สำคัญ เมื่อรัฐบาลบอกเป็นประชาธิปไตยต้องทำเหมือนอารยะประเทศ และต้องไม่ลืมว่าในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีการชูนโยบายว่า จะมีกาสิโน พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย การที่ท่านไม่ได้ชูนโยบายในการเลือกตั้งแต่ท่านบอกว่าเมื่อเป็นตัวแทนประชาชนแล้วจะทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกท่านมาด้วย อีกทั้งในมิติทางกฎหมาย มาตรา 57 ของกฎหมายพรรคการเมือง กำหนดให้ทุกพรรคการเมืองรายงานนโยบายที่ต้องใช้งบประมาณต่อ กกต. ซึ่งปรากฏว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ไม่มีการรายงานนโยบายทั้งสองเรื่องนี้ต่อกกต.แต่อย่างใด “การที่ครม.อนุมัติหลักการเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ให้มีกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย สะท้อนว่าไม่เคารพไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือก และนโยบายนี้เป็นนโยบายที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคม เศรษฐกิจและผิดกฎหมายด้วย เนื่องจากไม่มีการรายงานนโยบายในการหาเสียงตามที่กฎหมายกำหนด จึงต้องทำประชามติเพื่อให้ได้เสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศสิ่งที่ดำเนินการอยู่ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน” รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว หากคุณไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย สามารถลงชื่อแสดงจุดยืนว่า “เราไม่เอากาสิโน” ได้ที่ https://forms.gle/PBBBYki6Lbcb4HZh9
ผลวิจัยชี้ บริษัททั่วโลกแห่ลงทุน AI แทนจ้างเด็กจบใหม่ เหตุขาดทักษะจำเป็น แถม AI คุ้มทุนกว่า ดูเหมือนว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังจะเข้ามา Disrupt ตลาดแรงงานอย่างจริงจัง เมื่อผลการศึกษาใหม่โดย Hult International Business School และ Workplace Intelligence พบว่า บริษัทต่างๆ ทั่วโลก แม้จะขาดแคลนบุคลากรทักษะสูง แต่ก็ยังเลือกที่จะลงทุนใน AI มากกว่าจะจ้างบัณฑิตจบใหม่ งานวิจัยเผยว่า 98% ของผู้บริหารฝ่าย HR กำลังเผชิญปัญหาในการหาบุคลากรที่มีคุณภาพ แต่ถึงอย่างนั้น 89% กลับไม่ต้องการจ้างบัณฑิตจบใหม่ โดยให้เหตุผลว่าเด็กจบใหม่ขาดทักษะสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ทำงานจริง, Global mindset, ทักษะการทำงานเป็นทีม, ทักษะที่ตรงกับงาน และมารยาททางธุรกิจ ที่น่าสนใจคือ 37% ของผู้บริหาร HR ต้องการนำหุ่นยนต์หรือ AI มาทำงานแทนบัณฑิตจบใหม่ ขณะที่ 45% เลือกที่จะจ้างฟรีแลนซ์มากกว่า “เด็กจบใหม่” สู้ AI ไม่ได้?แดน ชอว์เบล จาก Workplace Intelligence ชี้ว่า ผลวิจัยสะท้อนให้เห็นว่าหลักสูตรการศึกษาแบบเดิมๆ ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีอย่าง AI เข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งไปกว่านั้น 97% ของผู้บริหาร HR ต้องการบัณฑิตจบใหม่ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี AI การวิเคราะห์ข้อมูล และ IT แต่มีบัณฑิตจบใหม่เพียง 20% เท่านั้น ที่มีทักษะเหล่านี้ (ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ)
บ่าย 2 วันนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ร่อนหนังสือเชิญสื่อมวลชนเปิดแถลงใหญ่ เพื่อชี้แจงเรื่องการจำหน่ายไฟฟ้าให้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีนายประดิษฐ์ เฟื่องฟู และนายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ตั้งโต๊ะชี้แจงเอง มีการตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะกรรมการ กฟภ.ที่มีรายงานข่าวว่าวาระสำคัญคือการยกเลิกการขายไฟฟ้าให้กับบริษัทของรัฐกะเหรี่ยง ที่มีชื่อว่า Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited หรือ SMTY ซึ่งได้รับสัมปทานจากประเทศเมียนมาหรือไม่ เพราะตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุว่าการขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลนั้นๆ รับรองเป็นคู่สัญญา ไม่ได้ขายไฟฟ้าให้บริษัทโดยตรง และการยกเลิกสัญญาต้องเป็นรัฐบาลนั้นแจ้งยกเลิกสถานะบริษัทคู่สัญญา หรือ ครม.มีมติให้ยกเลิก ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน เคยระบุว่าบริษัท SMTY มีความเชื่อมโยงกับกองกำลังรัฐกระเหรี่ยง และมีบทบาทสำคัญในการให้แก๊งคอลเซนเตอร์เช่าพื้นที่ที่ตั้งอยู่เมียวดี เป็นฐานหลอกลวงประชาชน ดังนั้นไม่ต่างกับการที่ กฟภ.ทำสัญญาขายไฟฟ้าให้โดยตรง เมื่อวานนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กฟภ. ยังคงยืนยันการขายไฟฟ้าของ กฟภ.มีการตรวจสอบ ทำตามขั้นตอนและระเบียบ ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้ขายไฟฟ้าตามอำเภอใจ หรือไม่ได้ขายตามความรู้สึก และว่าไม่มีใครบ้าจี้พอเอาไฟฟ้าไปขายให้คนทำผิดกฎหมาย และยืนยัน กฟภ.ไม่มีประชุมวาระยกเลิกขายไฟฟ้าวันนี้ด้วย ก่อนหน้านี้นายอนุทิน เคยถูกถามว่า กฟภ.ขายไฟฟ้าให้บริษัทใดบ้าง เกี่ยวกับแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ โดยบอกว่าจะไปถามลิงที่ไหน เพราะไฟฟ้าถูกขายเป็นทอดๆ พร้อมกับระบุ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพราะนี่กระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่กระทรวงมหาดพม่า”
ศ.ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษา รมว.พม. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงเทศกาลตรุษจีนว่า วันนี้เป็นวันตรุษจีน ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เทศกาลนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี นับเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ และการเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูกใหม่วันตรุษจีนมิใช่เพียงวันขึ้นปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวจีนจะได้แสดงออกถึงคุณค่าและความเชื่อที่ยึดถือ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่สืบทอดกันมา โดยมี 3 กิจกรรมหลักที่สะท้อนความหมายของวันนี้อย่างชัดเจน ได้แก่ การกลับบ้านเกิดเพื่อรวมญาติและแสดงความกตัญญู: ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ชาวจีนจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อร่วมฉลองตรุษจีนกับครอบครัว ร่วมกันกราบไหว้บรรพบุรุษ แสดงความเคารพ และรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ รักษาความสามัคคี และสืบทอดประเพณีอันดีงาม การมอบอั่งเปา: ซองแดงหรืออั่งเปา เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง โชคลาภ และคำอวยพร การมอบอั่งเปาให้แก่ลูกหลาน จึงเปรียบเสมือนการส่งต่อความปรารถนาดี และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ในครอบครัว ประเพณีเชิดสิงโตและการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดง: การเชิดสิงโต เป็นกิจกรรมที่สร้างสีสันและความสนุกสนานในวันตรุษจีน สิงโต เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความแข็งแกร่ง และความเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่าการเชิดสิงโตจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย นำมาซึ่งความโชคดี ส่วนการสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง ซึ่งเป็นสีแห่งความสุขและความโชคดี ก็เป็นการแสดงออกถึงความยินดี และพร้อมที่จะต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นใหม่ ไม่เพียงแต่ในชีวิตส่วนบุคคล แต่ยังรวมถึงครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ สะท้อนให้เห็นถึงวัฏจักรของชีวิต ดังคำกล่าวที่ว่า “ทุกการสิ้นสุด คือการเริ่มต้นใหม่” คุณค่าของวันตรุษจีน อยู่ที่การตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว ความกตัญญู และการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคม ดังนั้น ตรุษจีนจึงเป็นมากกว่าวันขึ้นปีใหม่ แต่เป็นวันแห่งการเริ่มต้น การรวมญาติ และการส่งต่อความสุขสุขสันต์วันตรุษจีน 2568ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคดีตลอดปี ตรุษจีน #ตรุษจีน2568 #วันครอบครัว #ความกตัญญู #การเริ่มต้นใหม่
ท้องฟ้าประเทศไทยอึมครึมด้วยหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2568 จนถึงปัจจุบัน หลายพื้นที่อยู่ในระดับวิกฤต โดยเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลที่บางจุดค่าฝุ่นพุ่งทะลุเกินมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน แม้ในปัจจุบันสถานการณ์จะดูคลี่คลายลงไปบ้างแต่อีกไม่นาน “ฝุ่นพิษ” กำลังจะกลับมาปกคลุมเมืองอีกครั้ง รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น ปิดโรงเรียน สนับสนุนให้ทำงานที่บ้าน (WFH) ควบคุมรถบรรทุก บังคับใช้กฎหมาย และ เปิดให้บริการรถสาธารณะฟรี พร้อมประกาศยกระดับปัญหาฝุ่นพิษเป็น “วาระแห่งชาติ” จนเกิดคำถาม “ชาตินี้หรือชาติหน้า” มีแผนแต่ไม่ทำ วาระแห่งชาติก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ฝุ่นพิษ” ถูกยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากในปี 2562 ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยประกาศมาแล้ว พร้อมแผนแม่บทระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว กำหนดไทม์ไลน์การแก้ไขระหว่างปี 2562-2567 สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น กระทั่งกลับมาปะทุหนักในรัฐบาลแพทองธาร เนื่องจากตั้งแต่ปี 2566 ที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลได้ 2 นายกฯ จากพรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศ การดำเนินการตามแผนก็ขาดความต่อเนื่อง จนทุกอย่างเลวร้ายลง มีสถิติชี้ชัดจากข้อมูลของ ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยกับ The Publisher ว่า นับตั้งแต่ปี 2563-2565 จำนวนวันที่มีปริมาณฝุ่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานดีขึ้น จุดความร้อนและผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจก็ลดลงมาโดยตลอด เช่น จุดความร้อนจาก 146,000 จุดในปี 63 เหลือแค่ 53,643 จุดในปี 65 แต่ในปี 66 เพิ่มเป็น 178,230 จุด ส่วนผู้ป่วยทางเดินหายใจจาก 1,116,000 กว่าคน ในปี 63 ลดลงเหลือแค่ 9 แสนกว่าคนในปี 65 แต่กลับพุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดอยู่ที่ 2.3 ล้านคนในปี 66 หลังเปลี่ยนรัฐบาล สะท้อนชัดมีแผนแต่ไม่ทำ คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขฝุ่นพิษที่ต้นตอได้ มาตรการใหม่ที่ไม่มีอะไร “ใหม่”หลังประกาศเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลกำหนดโรดแมปสำคัญให้หลายกระทรวงดำเนินการ แต่ดูไส้ในแล้วแทบไม่มีอะไรต่างไปจากมาตรการที่เคยกำหนดเป็นแผนในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สิ่งที่ประเทศต้องการจึงไม่ใช่มาตรการที่ออกมาซ้ำซาก…
รัฐบาล เปิดเผยว่า ระหว่างรอ พรก.ไซเบอร์ประกาศใช้ เร่งดำเนินการปราบปราบและจับกุมผู้กระทำผิด หรือ แก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ต่อเนื่อง พร้อมทั้งย้ำเตือนประชาชนให้ระวังโจรออนไลน์ ไม่ควรคลิกลิงก์ที่แนบมาพร้อมกับข้อความไร้แหล่งที่มา และไม่ควรโหลดหรือติดตั้งแอปฯ จากบุคคลที่ไม่รู้จัก เนื่องจากปัจจุบัน มิจฉาชีพมีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงเหยื่อขึ้นมาหลากหลาย ซึ่งการหลอกให้ลงทุน หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลโดยอ้างว่าเป็นการหารายได้พิเศษก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้สร้างแรงจูงใจเพื่อหลอกลวงเหยื่อ จากการตรวจสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีเว็บไซต์ปลอม 22 เว็บไซต์อันตราย ดังนี้ thaigrowthdigitalmarketing .cc www.settradethailand .com m.athur .net/trade www.ezbuy66 .com/ ftc. trade-thai .com okx. hsgi .xyz www. btscswl .com/djvjpw wap.happinessco .cc bitmart.erwz .live tokts .life/ww www. thaibet248 .com/ tiktok.thaipvz .com/ www. shopping-now-maket .com/ pi-moneyloan .com pea.bjgth .cc www. cryptoxj .com/ www. bonanza-store .net hshh-banktt .app dedifeqa-spt .top royaltrad .vip h5.jgol .live affilliiate .com/index/login ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
การเปิดเสรีธุรกิจคาสิโนในประเทศไทยเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของโอกาสในการสร้างรายได้จากการดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อย่างไรก็ตาม ข้อดีเหล่านี้ต้องถูกพิจารณาควบคู่กับคำถามสำคัญหลายประการ ที่ยังคงต้องการการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ หนึ่งในคำถามเหล่านั้นคือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในด้านสังคม เช่น ความมั่นคงของครอบครัว การเพิ่มขึ้นของปัญหาสังคม และการเสี่ยงต่อการทำลายคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว รวมถึงการกระจายผลประโยชน์จากรายได้มหาศาลนี้ ว่าจะสามารถถึงมือประชาชนได้จริงหรือไม่ และในท้ายที่สุด ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีนี้จะสามารถนำไปสู่การสร้างประโยชน์ที่ยั่งยืน หรือจะกลายเป็นปัญหาที่ต้องรับมือในอนาคต มุมมองจาก รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ The Publisher: มีความคิดเห็นอย่างไรกรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุมีการทำประชาพิจารณ์ ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรแล้ว ประชาชนเห็นด้วย 80% ? รศ.ดร.ชิดตะวัน: การทำประชาพิจารณ์คนละเรื่องกับประชามติ ซึ่งถ้าดูตามรายงานสื่อ มีประชาชนที่จะมาลงประชาพิจารณ์ประมาณ 4 ถึง 5 พันคน ซึ่งเป็นจำนวนน้อยมาก เพราะไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์ด้วย ประชาชนเข้าไม่ถึงข้อมูลและไม่ได้มีข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งในความเป็นจริงการออกนโยบายเกี่ยวกับอบายมุขต้องมีการชี้ให้เห็นผลดีผลเสียที่ชัดเจน จะพูดเพียงผลดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันคือนโยบายที่เป็นอบายมุข มีผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง ดังนั้นเมื่อประชาชนไม่ทราบ ไม่ได้เข้าไปดูการทำประชาพิจารณ์ หรือหากจะเข้าก็ไปอ่านก็จะไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายหากรัฐบาลไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เหมือนกับประชามติ ที่ให้ประชาชนทั้งประเทศได้ตัดสินใจ เพราะการจะมีคาสิโนในประเทศถือเป็นเรื่องที่ใหญ่ เพราะไม่ได้มีแค่นักพนันที่เข้าไปเล่น มีผลต่อคนอื่นเป็นวงกว้าง การจะมีหรือไม่มี โดยปกติแล้วประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะมีการอ้างอิงถึงประชาชนก่อนว่ามีความคิดเห็นอย่างไร มาลงประชามติกัน ประชาพิจารณ์คนยังไม่ค่อยมีความรู้ มันอยู่หน้าออนไลน์ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ไม่เหมือนการทำประชามติ The Publisher: สาเหตุหลักที่คิดว่ากาสิโนจะเป็นปัญหาสำหรับประเทศไทย? รศ.ดร.ชิดตะวัน: กมธ. หรือภาครัฐได้ศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสียมาแล้ว ต้องยอมรับตรง ๆ ว่า รัฐบาลก็ยังไม่ได้ศึกษาในหลากหลายมิติ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะสวัสดิภาพของประชาชน เนื่องจากเมื่อมีแหล่งกาสิโนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาคือผู้คนจะหลั่งไหลเข้ามา เพื่อแสวงโชคในการได้เงินอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งแรงจูงใจในการกระทำผิดทางอาญา เพราะฉะนั้นเมื่อมีบ่อนกาสิโนในประเทศไม่เว้นแต่ประเทศที่พัฒนาแล้ว การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดก็ตาม มันก็จะมีปัญหาเรื่องการฆาตกรรม การข่มขืนเพิ่มสูงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา เอเชียก็แม้แต่ในสิงคโปร์ แม้ว่าจะอัตราการฆาตกรรมจะต่ำ ก็มีข่าวที่มีการฆ่ากันเกี่ยวเนื่องจากการพนันหลายเคส รัฐบาลกำลังผลักดันกาสิโนรีสอร์ทระดับ 5 ดาวแล้วก็การข่มขืน อันดับแรกเมื่อมีบ่อนถูกกฎหมาย ศาลฎีกาชี้ชัดว่าจะทำให้ธุรกิจการให้บริการทางเพศจะเพิ่มสูงขึ้นมาก ในประเทศกำลังพัฒนาจะมีปัญหาในเรื่องค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน การไม่สมัครใจการค้าประเวณี หากพ่อแม่ข้องแวะกับการพนัน ไม่มีเวลาดูแลลูก จะทำให้ลูกเสี่ยงต่อการถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิด อ้างอิงจากรายงานกรมตำรวจในต่างประเทศ เคสที่เกิดปัญหาเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ 40-50%…
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (27 มกราคม 2568) กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้โอนเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ให้กลุ่มเป้าหมายจำนวนกว่า 3 ล้านราย มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 28,250 ล้านบาท ผลการโอนเงินเป็นดังนี้ โอนเงินสำเร็จ 2,825,076 ราย คิดเป็นร้อยละ 93.37 โอนเงินไม่สำเร็จ 200,520 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.63 สาเหตุหลักของการโอนเงินไม่สำเร็จ เกิดจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน นอกจากนี้ ยังพบปัญหาบัญชีธนาคารมีปัญหา เช่น บัญชีถูกปิด หรือไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน สำหรับผู้ที่โอนเงินไม่สำเร็จ กระทรวงการคลังจะโอนเงินซ้ำอีก 3 ครั้ง จึงขอให้ผู้สูงอายุรีบดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือตรวจสอบสถานะบัญชีธนาคารโดยด่วน กำหนดการโอนเงินซ้ำ ครั้งที่ 1: 28 กุมภาพันธ์ 2568 (ผูกพร้อมเพย์ภายใน 25 กุมภาพันธ์ 2568) ครั้งที่ 2: 28 มีนาคม 2568 (ผูกพร้อมเพย์ภายใน 25 มีนาคม 2568) ครั้งที่ 3: 28 เมษายน 2568 (ผูกพร้อมเพย์ภายใน 23 เมษายน 2568)หากพ้นกำหนดการโอนเงินซ้ำครั้งที่ 3 แล้ว จะถือว่าสละสิทธิ์และกระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงิน สำหรับผู้สูงอายุที่เป็นบุคคลล้มละลาย สามารถขอรับเงินได้โดยต้องกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตเปิด/ใช้บัญชีเพื่อรับเงินตามโครงการฯ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์กรมบังคับคดี) และยื่นผ่านเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะไม่สามารถขอทบทวนสิทธิได้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ขอให้รอติดตามข่าวสารจากรัฐบาลต่อไป
เพจเฟซบุ๊ก Shuba Shabu ชูบา ชาบู โพสต์ข้อความระบุว่า “16 ปีที่ผ่านมาของร้านชูบาชาบู ไม่ใช่แค่แค่การให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์ชาบูเพียงเท่านั้น แต่คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ จากทุกท่านที่ก้าวเข้ามาในร้านนี้ ทุกย่างก้าวที่เราได้อยู่เคียงข้าง ได้บริการลูกค้าทุกท่าน เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายและทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ ทุกคำพูด ทุกรอยยิ้ม ทุกการพูดคุยที่เกิดขึ้นที่นี่ มันทำให้เราเติบโตและมีความสุขมากมาย เราได้เห็นมิตรภาพที่บานสะพรั่ง จากลูกค้าที่เคยเป็นคนแปลกหน้า จนกลายเป็นเหมือนเพื่อนพี่น้อง หรือแม้แต่ความรักของบางคู่ ที่เริ่มต้นและเติบโตที่นี่ แม้บางวันจะมามาพร้อมความสุข บางวันมาพร้อมความเศร้าบ้าง หรือบางครั้งอาจมีความไม่พอใจเกิดขึ้น เราเข้าใจดีว่าไม่สามารถทำให้ทุกท่านพอใจได้ในทุกเรื่อง แต่ท่านยังคงกลับมาให้โอกาสเราอีกครั้ง หรือแม้แต่หลายครั้งหลายครา ที่เราต่างอยู่ในวิกฤต ไม่ว่าจะ น้ำท่วม, สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองต่างๆ หรือ จะโรคระบาดครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หลังจากทุกอย่างสงบ ท่านยังคงกลับมาให้การสนับสนุนเราอย่างหนาแน่น มันช่างอบอุ่นหัวใจ และ เป็นกำลังใจให้กับพวกเราร้านชาบู ตัวเล็กๆอย่างมากมายเหลือเกิน แม้ว่าวันแห่งการอำลาจะเดินทางมาถึง ร้านชูบาชาบู ต้องจะต้องปิดตัวลง ในโอกาสนี้เราจึงอยากขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมแบ่งปันความทรงจำดีๆ ในช่วงเวลาสุดท้ายร่วมกัน เพื่อให้ทุกคำอำลานี้ไม่ใช่แค่การบอกลา แต่เป็นการเก็บรักษาความรักและความผูกพันที่เรามีต่อกันตลอดไป ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางของเรา และเราจะไม่มีวันลืมคุณ ทุกๆ ท่าน ที่เคยเดินเข้ามาในชีวิตของพวกเรา” ก่อนหน้านี้ในปี 2567 มีอย่างน้อย 4 ร้านดังปิดตัวไปแล้ว คือ Texas Chicken , Hot Pot Buffet , Daidomon และ อร่อยดี ขณะที่ต้นปีที่ผ่านมา ก็มีภัตตาคารไฮ้เปียง ที่อยู่คู่เมืองหัวหินมากว่า 70 ปี ก็ประกาศปิดกิจการสิ้นเดือนนี้
