Author: Writer Publisher

.ป.ป.ท. ร่วมกับ บก.ปปป. และตำรวจทางหลวง บุกจับกุม นาง อ. อดีตเจ้าพนักงานขนส่ง ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริตฯ.โดยช่วงปี พ.ศ. 2553 – 2556 เจ้าตัวเคยทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานขนส่ง มีหน้าที่รับชำระค่าภาษีรถยนต์ประจำปีและค่าธรรมเนียมในการดำเนินการทางทะเบียนรถ ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้มาชำระเงิน แต่ทำการยกเลิกใบเสร็จรับเงินในระบบคอมพิวเตอร์ในภายหลัง เพื่อให้กรมการขนส่งทางบก เข้าใจว่าไม่มีการเก็บเงินค่าภาษีรถยนต์ประจำปีและค่าธรรมเนียมในการดำเนินการทางทะเบียนรถจากผู้มาชำระเงิน และเบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปเป็นของตน จำนวน 339 ฉบับ เป็นเหตุให้กรมการขนส่งทางบกได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 432,632.50 บาท. .คณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้มีมติชี้มูลความผิด และพนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้อง แต่ผู้ต้องหารายนี้ไม่ไปพบพนักงานอัยการตามกำหนดจึงเป็นเหตุให้มีการออกหมายจับ และนำตัวผู้ต้องหาส่งต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ต่อต้านคนโกง #ปราบปรามทุจริต

Read More

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ “น้ำตาท่วมสภาสูง” ระหว่างการอภิปรายญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากวิกฤตอุทกภัยอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ โดยมี สว. เศรณี อนิลบล รับบทเศร้า เคล้าน้ำตา สะท้อนความทุกข์ยากของเกษตรกรจากปัญหาน้ำท่วม ฟังดูแล้วก็เหมือนกลั่นมาจากใจ ได้ฟีลตัวแทนกลุ่มอาชีพชาวสวน แต่มาช็อตฟีลจากคำอภิปรายล้อเลียนเพื่อน สว.ด้วยกัน ของ สว.อลงกต วรกี ที่ไม่ได้เศร้า ไม่ได้ทุกข์ แต่แกล้งทำเสียงสั่นเครือ ขอทิชชู ทำท่าปาดน้ำตาทั้งที่ไม่มีสักหยดเดียว เป็นอีกหนึ่ง “วุฒิภาวะต่ำ” ที่ไม่อยากจะเชื่อว่าพฤติกรรมเยี่ยงนี้ มาจากคนที่เคยเป็นข้าราชการระดับสูงถึงชั้น รองผู้ว่าฯ จ.อุทัยธานี ผ่านการเลือกกันเองจากระบบใหม่ที่ออกแบบโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ชุด มีชัย ฤชุพันธุ์ ทำคลอดระบบเลือกกันเอง แต่สุดท้ายได้ สว. จัดตั้ง-บล็อกโหวต เลือดน้ำเงินเต็มสภาสูง ในขณะนั้น กรธ. ปฏิเสธวิธีการเลือกตั้ง เพราะเกรงว่าจะถูกครอบงำโดยพรรคการเมือง เปลี่ยนสภาพี่เลี้ยง เป็นสภาที่จะรับรู้ความต้องการหรือความเดือดร้อนหรือส่วนได้เสียของคนกลุ่มต่าง ๆ เป็นที่มาของวุฒิสภาจากประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพ เพื่อรักษาประโยชน์ของคนทุกระดับชั้น เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดแบบ 360 องศา ตามที่พวกท่านคิดวางแผนจริง เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาดหวัง ไล่ตั้งแต่จะหลุดพ้นการครอบงำของพรรคการเมืองก็ได้เห็นแล้วว่า มองไปเจอแต่ “สว. สีน้ำเงิน” ที่บอกว่าจะเป็นตัวแทนเป็นปากเป็นเสียงรักษาประโยชน์คนทุกระดับชั้น อาจมีให้เห็นบ้าง แต่ที่เด่นชัดคือ สว. “วุฒิภาวะต่ำ” อย่างน่าสังเวชที่สุด เราได้ สว.บ้าดีกรี มากด้วยใบปริญญา พรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติ ที่มิอาจยืนยันได้ว่าเป็นของจริง เราได้ สว. ทำท่าร้องไห้ ล้อเลียนเพื่อน สว.ด้วยกัน ระหว่างอภิปรายตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งสุดท้ายถูกปัดตกไปด้วยคะแนนเสียง 127 ต่อ 48 เสียง ส่วนคนร่างกติกาปิดจ๊อบจบ ก็หมดความรับผิดชอบ เอวังด้วยประการฉะนี้

Read More

.นายกฯ พร้อมสามี เข้าทำเนียบแต่เช้าตรู่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนเข้าสภาสักการะพระสยามเทวาธิราชศาลตา-ศาลยาย พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประจำรัฐสภา เพื่อเป็นสิริมงคล ขณะที่พรุ่งนี้ยังทำบุญตักบาตรที่ทำเนียบตามกำหนดการ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 06.00 น. ก่อนเดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล พระพรหม ศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตาศาลยายประจำทำเนียบรัฐบาลแล้ว โดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า สร้างความตื่นเต้นให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่พบ โดยมีรายงานว่าการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี เป็นฤกษ์ที่นางสาวแพทองธารได้วางไว้ตั้งแต่ต้น เพียงแต่ไม่ได้เปิดเผย ส่วนในวันที่ 13 กันยายน จะมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ตามกำหนดการเดิม ทั้งนี้หลังจาก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบแล้วนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปนั่งยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า .ก่อนเดินทางเข้ารัฐสภา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำรัฐสภา โดยเริ่มตั้งแต่ ศาลพระสยามเทวาธิราชฯ ศาลตา ศาลยาย ประจำรัฐสภา จากนั้น สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ชั้น MB1. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ดิจิทัลวอลเล็ต #รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ #เพื่อไทย #แพทองธาร #ศิริกัญญา

Read More

“เฉลิมชัย” เปิดใจ เป็นคนไม่ใช่สัตว์ มีสำนึกไม่คิดเอา ปชป.ไปหากิน ชี้ร่วมรัฐบาล ไม่ทำ ปชป. สูญพันธุ์ แต่ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็ “สูญพันธุ์” เป็นธรรมดา เมื่อเร็วๆ นี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดใจถึงช่วงก่อนเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล ว่าการประสานงานอย่างจริงจังก่อนหน้านี้ตามที่มีข่าวต้องเรียนว่าไม่มี และตนเคยพูดย้ำหลายครั้งว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคไม่เคยมีการพูดคุยกับผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็บอกว่าไม่มีการพูดคุยกัน “ผมยืนยันมาตลอด ไม่ว่าจะอย่างไร พรรคจะต้องดำเนินการตามข้อบังคับโดยไม่มีการละเว้น สิ่งนี้เป็นหลักการสำคัญ ถึงจะไปคุยไปตกลงอะไรก็ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ เพราะเรามีข้อบังคับพรรค” นายเฉลิมชัย กล่าว นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ในวันประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) ได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุยซักถามอย่างเต็มที่ และตนได้แสดงความคิดเห็นในมุมมอง และเหตุผลของตน โดยทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าความรู้สึกกับความคิดนั้นไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด เพราะเราไม่สามารถบอกได้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการตัดสินใจในวันนี้แต่ละฝ่ายล้วนมีเหตุผลทั้งนั้น “ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านจุรินทร์ ท่านรักพรรคเหมือนที่ทุกคนรัก ไม่มีใครเอาพรรคไปหากินเด็ดขาด ด้วยสามัญสำนึกของพวกเรามันต้องมี คนมันต่างจากสัตว์ตรงที่เรามีสำนึก ผมมั่นใจว่าผมและคณะก็มีสำนึกเต็มเปี่ยม อะไรที่ไม่ถูก ผมก็ไม่ให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด” นายเฉลิมชัย กล่าว “สำหรับผม ในฐานะเป็นหัวหน้าพรรค ผมปัดความรับผิดชอบไม่ได้ ผมต้องเป็นคนนำในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ และนำพาพรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมา ผมมั่นใจว่าพรรคของเรามีวินัย เราตั้งมา 78 ปี ความมีวินัยทำให้ประชาธิปัตย์ยืนมาได้ถึงวันนี้ และด้วยหลักการของพรรค ผมก็พูดชัดเจนว่าเราไม่มีวันทิ้งและไม่มีวันทิ้งอุดมการณ์ของพรรค อยากย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ให้ใคร ไม่อยากให้ใครใช้สถานการณ์นี้มาทำร้ายพรรค มันไม่เป็นธรรม เพราะพรรคขับเคลื่อนไปด้วยกฎระเบียบ ข้อบังคับของพรรคทั้งหมด” นายเฉลิมชัย กล่าวต่อ แนวทางการฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า มี 2 ส่วน ส่วนแรกคือพัฒนาด้านยุทธศาสตร์ของพรรค วันนี้มีการจัดทำยุทธศาสตร์ และจะได้ตั้งคณะทำงาน กำหนดบทบาทคณะทำงาน เพื่อเริ่มจัดทำนโยบาย ซึ่งส่วนนี้พรรคได้ขับเคลื่อนอยู่เป็นปกติ ส่วนที่ 2 คือเมื่อพรรคได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ เราก็จะต้องบอกกับพี่น้องประชาชนว่าเราจะเข้าไปทำอะไรในนามของพรรคประชาธิปัตย์ “สิ่งที่ประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อนไปได้ และมีความเข้มแข็งที่สุดก็คือความมีเอกภาพภายในพรรค ซึ่งผมเองได้เรียกร้องมาตั้งแต่สมัยเป็นเลขาธิการพรรคว่า นี่คือจุดแข็งที่สุดของพรรค ขอให้ทุกคนตัดความรู้สึกส่วนตัวทิ้งไป มันไม่มีใครได้ 100% ไม่มีใครเสีย 100% แต่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้งว่าเราจะทำให้องค์กรของเราเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง ผมไม่อยากเอาความรู้สึก…

Read More

.หลังมีการเปิดเผยร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ที่มีนโยบายเร่งด่วนหลายด้านส่วนใหญ่ตรงกับที่นายทักษิณ ชินวัตร บิดานายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ในการแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้พูดถึงปัญหาสำคัญของชาติในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน The Publisher จึงสอบถามไปยัง ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ว่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้.ดร.มานะ แสดงความกังวลต่อคำแถลงนโยบายรับบาลต่อรัฐสภา ที่ไม่กำหนดเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันไว้ โดยเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะรัฐบาลของเครือข่ายพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ก็ไม่ให้ความสำคัญ จึงหวังว่าในการปฏิบัติจะหวนกลับมาทั้งพูดและปฏิบัติในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันมากขึ้น เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นนักการเมือง หากเอาชนะไม่ได้ ก็สร้างความเชื่อมั่นจากประชาชนไม่ได้ แม้จะอ้างได้ว่านโยบายหลายด้านอาจไปช่วยแก้ไขคอร์รัปชันได้ เช่น การปฏิรูประบบราชการ การอำนวยความสะดวกประชาชน รักษาธรรมาภิบาล แต่คำพูดเหล่านั้นอ่อนและกระจัดกระจายมากไป.“สิ่งที่เราเป็นห่วงคือว่าการที่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญหรือไม่แถลงเรื่องเหล่านี้ให้เป็นเรื่องเป็นราว อาจเป็นเพราะกลัวใกล้ตัวถึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับเรื่องคอร์รัปชันหรือพูดง่าย ๆ ก็คือทำไม่เป็น จะน่าเป็นห่วงมากถ้าไปมองว่ารัฐบาลยังคิดว่าเรื่องสีเทา ไม่ชอบมาพากลในบ้านเราเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมือง เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น วันนี้คนไทยอยากเห็นการต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวาระเร่งด่วน เรามาตั้งวอร์รูมเพื่อต่อสู้คอร์รัปชันร่วมกันดีกว่า” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ระบุ.ดร.มานะ บอกด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการผลักดันแนวคิดนี้ส่งต่อไปถึงรัฐบาลและพรรคการเมืองทั้งหมด เพราะการคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่รอไม่ได้ เนื่องจากมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นโกงกันซึ่งหน้าเอาผิดไม่ได้ การแก้ไขต้องทำงานร่วมกันไม่เช่นนั้นเอาชนะการคอร์รัปชันยาก แม้เรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องไม่มองข้ามการแก้ปัญหาทุจริต เพราะถ้าไม่แก้ทุจริตคนไทยก็ยากที่จะอยู่ดีกินดี โดยในขณะนี้มีนโยบายหลายเรื่องที่น่ากังวล เช่น สปก.ทองคำ การบุกรุกป่าจำนวนมาก เงินดิจิทัล และโครงการใหม่ที่จะผลักดันทางเศรษฐกิจ. สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ทักษิณ #เพื่อไทย #รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ #แพทองธาร

Read More

ตามคาด! “พิเชษฐ์- ภราดร” นั่งแท่นรองปธ.สภาฯ แบบไร้คู่แข่ง เหตุปชน.ไม่ขอส่งชื่อเข้าชิงเพราะต้องการตำแหน่งผู้นำค้าน “อนุทิน” ลุกขึ้นเสนอชื่อรอง 1 ด้วยตัวเอง “พิเชษฐ์” ตั้งเป้าทำรัฐสภาจังหวัด สร้างที่จอดรถเพิ่ม3 พันคัน ด้าน”ภราดร” มาซึ้ง ยกสภาเป็นบ้านหลังที่สอง ลั่นวาจา ไม่รู้ว่าปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นกลางแค่ไหน แต่จะทำดีที่สุด ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการลาออกของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน จากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง เมื่อ 10 ก.ย. เวลา 16.30 น. ทั้งนี้ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ขออภิปรายเพื่อเสนอความเห็นต่อที่ประชุม ว่า พรรคประชาชนจะรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้งนี้ขอฝากไปยังว่าที่รองประธานสภาฯ สานต่อวิสัยทัศน์นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ที่สภาโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นสภาฯของประชาชน และเป็นสภาก้าวหน้ารองรับความหลากหลายและเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชน โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะนำเข้าสู่กมธ.กิจกรสภา ที่ประกอบทุกพรรคกรรเมือง เพื่อปรับปรุงให้สภา ให้กับประชาชนและสส. ขอบคุณที่พรรคประชาชนไม่เสนอผู้เป็นรองประธานสภาฯ รักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ตนเห็นด้วยเพราะตำแหน่งดังกล่าวสำคัญ เป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสะ อยากให้ผู้นำฝ่ายค้านมาจากพรรคใหญ่ของฝ่ายค้านที่คนอื่นทำหน้าที่ไม่ได้ ตนยินดีและขอขอบคุณ จากนั้นนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย เสนอให้เปลี่ยนระเบียบวาระเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และรองประธานสภาฯ คนที่สอง ต่อจากนี้ โดยไม่มีผู้ใดที่ขัดข้อง จากนั้นได้เข้าสู่วาระการเลือกโดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อนายพิเชษฐ์ เป็นรองประธานสภาคนที่หนึ่ง โดยมีผู้รับรองครบ จากนั้นนายพิเชษฐ์ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าตนจะปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของรัฐสภาคือตรากฎหมาย ตรวจสอบ หรือยกเลิกกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร ให้ความเห็นชอบเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อประชาชน สนับสนุนให้มีการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยมีนโยบายนำสภาใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น เพื่อให้มีส่วนร่วมของประชาชนด้วยการจัดให้มีสภาประจำจังหวัด ทดลองใช้อย่างน้อย5 จังหวัด นำรัฐสภามุ่งสู่ความเป็นSmart Parliament Green Parliament Zero Carbon…

Read More

.สถานการณ์น้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลากในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังหนักหลังจากเกิดเหตุมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ล่าสุด มีผู้ประสบภัยติดอยู่ตามอาคาร บ้านเรือนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงจิตอาสาเร่งระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือ.ทั้งนี้ พบว่า มีผู้ประสบภัยติดอยู่ในบ้าน หรือต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคา เพื่อรอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่ทีมช่วยเหลือยังไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปในพื้นที่ ต้องใช้เรือ หรือเจทสกี เข้าไปนำผู้ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยยังไม่รวมถึงพื้นที่บนดอยที่อาจถูกตัดขาดเพราะกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก.อย่างไรก็ตาม ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า เฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอคือ แม่สาย ขุนตาล และพญาเม็งราย มีผู้ได้รับผลกระทบ 1,276 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 คน และระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น.ขอบคุณรูปภาพจาก FB : เชียงราย ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #เชียงราย #แม่สาย #น้ำท่วม #น้ำท่วม2567 #น้ำป่าไหลหลาก

Read More

.The Publisher สำรวจนโยบายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่จะแถลงต่อรัฐสภาตั้งแต่วันที่ 12-13 กันยายนนี้ ซึ่งเราพบว่านอกจากหลายนโยบาย ที่เน้นมิติด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 10 ประการที่เหมือนวิสัยทัศน์นายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศในงานวิชัน ฟอร์ ไทยแลนด์ 2024 หลายนโยบายกลับหายไปแบบเฉย ๆ เมื่อเทียบกับนโยบายหาเสียงพรรคเพื่อไทย และนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน.อย่างนโยบายแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่ถูกลืม นโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ นโยบายนิรโทษกรรมและสร้างความปรองดอง รวมถึงนโยบายต่างประเทศ ที่ไม่พูดถึงสถานการณ์ในเมียนมา ทั้งที่เป็นเรื่องร้อน และปัญหาอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน.อีกหนึ่งที่หายไปคือ นโยบายปฏิรูปการศึกษา การกระจายอำนาจทางการศึกษา หรือพัฒนาการเรียนการสอนเมื่อเทียบกับนโยบายเศรษฐาประกาศไว้ ยังมีปฏิรูประบบราชการ ปฏิบัติกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปกองทัพ ที่หายไปในยุครัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร.สุดท้ายเมื่อพูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็ถูกปรับเปลี่ยนจนมีคำถามว่าเรายังเรียกโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตได้อีกหรือไม่ เพราะยอดเติมเงินเหลือไม่ถึง 1 หมื่นบาทแล้วจริง ๆ. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ดิจิทัลวอลเล็ต #รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ #เพื่อไทย #แพทองธาร #เศรษฐา

Read More

. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสเข้ากระทรวงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ให้การต้อนรับ ภายหลังการเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า . “ผมขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้ง 2 ท่าน พร้อมทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ และผมก็รู้สึกดีใจ ที่ได้เข้ามาทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ และเชื่อมั่นในศักยภาพของคนกระทรวงพาณิชย์ จะช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจซึ่งทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยประสบปัญหา จากวิกฤตเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศแต่ด้วยนโยบายท่านรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ได้ช่วยวางรากฐานในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนเกิดผลเป็นรูปธรรมในหลายๆ เรื่อง ดังนั้น เมื่อผมเข้ามาอย่างแรกที่ต้องคิดคือทำอย่างไรให้สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เผชิญอยู่ต่อไปได้ ผมเชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นกลไกที่จะช่วยได้หลายเรื่องและโดยเฉพาะการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีแผนงานในการเร่งการเจรจา เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย สำหรับภารกิจเร่งด่วน ขอให้มีการแถลงนโยบายก่อน แต่เป้าหมายแรก ๆ ต้องมีมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้มีความกินอยู่ที่ดีขึ้น” . นาย พิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับปัญหาเรื่องหนี้ของ SME ต้องได้ความร่วมมือจากแบงก์ชาติ และความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้กลับมามีธุรกิจ สร้างรายได้ ประกอบกับต้องมีการบุกตลาดใหม่ ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งเพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาส ขณะนี้การลงทุนเริ่มไหลเข้ามาที่ประเทศไทยมากเพิ่มขึ้น 40 -50% ในธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจ PCB ร่วมกับสมาคม SME ผมมีการเชิญชวนผู้ลงทุนต่างประเทศเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น เราต้องมีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อให้มีความมั่นใจในการลงทุน” “ในส่วนของมาตรการดูแลสินค้าเกษตรต้องมีการดำเนินงานแบบ Proactive ต้องมีการติดตามสถานการณ์สินค้าที่จะออกและมีแนวทางที่รองรับและเตรียมพร้อมที่เหมาะสมกับสินค้าเกษตร การค้ากับตลาดอินเดีย เป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากมีกำลังการซื้อและต้องการสินค้าไทย กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งขยายตลาดอินเดียเพื่อรองรับสินค้าและบริการของไทย โดยหลังจากมีการแถลงนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ผมจะเดินหน้าเต็มที่ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผมมองเห็นอนาคตของประเทศไทยค่อนข้างชัดเจน เชื่อว่ามีการพัฒนาได้อย่างดีแน่นอน” นายพิชัย กล่าว . #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิชัยนริพทะพันธุ์ #กระทรวงพาณิชย์ #สินค้าเกษตร #หนี้SME

Read More

.นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก มีเนื้อหาระบุว่า ถกเถียงด้วยข้อกฎหมายว่า ความเป็นรัฐมนตรีในครมชุดนี้เริ่มขึ้นเมื่อใด มีการครอบงำหรือครอบครองการปฏิบัติหน้าที่จนผิดกฎหมายหรือไม่ คงต้องดู timeline กันให้ดีครับ เพราะพลาดพลั้งไปเรื่องนี้อาจถูกส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดความเป็นสสหรือรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลงหรือไม่เพราะเหตุก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่หรือยอมให้มีการแทกรกแซงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 และมาตรา 186วันที่ 4 ก.ย. 2567 โปรดเกล้า แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊ง1 แล้ว วันที่ 6 ก.ย. 2567 โปรดเกล้าให้นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญญานวันที่ 8 ก.ย. 2567 อดีตรมต. นั่งนำประชุม รมต และรมช. กับข้าราชการแก้ปัญหาน้ำที่หน่วยราชการสังกัดกรมชลประทาน ได้หรือไม่ ด้วยอ้างเหตุว่า รมต.ใหม่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่12-13 ก.ย. 2567.นายสมชาย ระบุว่า ในความเห็นทางกฎหมายส่วนตัว จะไม่ขอเสนอแนะว่า ฝ่ายใดถูกหรือผิดรัฐธรรมนูญ แต่อยากให้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกันให้ดีครับ ว่า ในวันที่ 8 ก.ย. ระหว่างที่ลงพื้นที่ดังกล่าวนั้น ใครได้ใช้อำนาจใดของแต่ละคนไปการสั่งการใดๆกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและเจ้าหน้าที่รัฐอื่นหรือไม่ เพราะจะสุ่มเสี่ยงที่จะปรากฏหลักฐานให้มีผู้ร้องนำไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า สส. อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา185 และรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน อาจถูกยื่นร้องทำนองเดียวกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา186 โดยอนุโลมด้วยเช่นกัน.“นอกจากนี้ยังมีรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ที่ระบุชัดถึงอำนาจหน้าที่ ครม.รักษาการว่าก่อนที่ครม.ใหม่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากมีกรณีที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะกระทบต่อประโยชน์สำคัญของแผ่นดินให้ ครม.ที่เข้ารับหน้าที่ดำเนินการไปพลางก่อนเพียงเท่าที่จำเป็นก็ได้ ก็ต้องดูว่าที่ท่านทำทำเท่าที่จำเป็นและเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ ด้วยความเป็นห่วงครับ ว่า ท่านทั้งหลายจะตกม้าตายเสียก่อนได้ทำงาน เพราะแค่เรื่อง ครอบงำหรือครอบครอง ก็ทำท่าว่า “ครม.ชุดนี้ก็ทำท่าจะเอาตัวไปไม่รอดตลอดฝั่งกันแล้วครับ” นายสมชาย ระบุทิ้งท้าย. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #สมชายแสวงการ #ธรรมนัส

Read More