เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ “น้ำตาท่วมสภาสูง” ระหว่างการอภิปรายญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากวิกฤตอุทกภัยอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ โดยมี สว. เศรณี อนิลบล รับบทเศร้า เคล้าน้ำตา สะท้อนความทุกข์ยากของเกษตรกรจากปัญหาน้ำท่วม
ฟังดูแล้วก็เหมือนกลั่นมาจากใจ ได้ฟีลตัวแทนกลุ่มอาชีพชาวสวน แต่มาช็อตฟีลจากคำอภิปรายล้อเลียนเพื่อน สว.ด้วยกัน ของ สว.อลงกต วรกี ที่ไม่ได้เศร้า ไม่ได้ทุกข์ แต่แกล้งทำเสียงสั่นเครือ ขอทิชชู ทำท่าปาดน้ำตาทั้งที่ไม่มีสักหยดเดียว
เป็นอีกหนึ่ง “วุฒิภาวะต่ำ” ที่ไม่อยากจะเชื่อว่าพฤติกรรมเยี่ยงนี้ มาจากคนที่เคยเป็นข้าราชการระดับสูงถึงชั้น รองผู้ว่าฯ จ.อุทัยธานี ผ่านการเลือกกันเองจากระบบใหม่ที่ออกแบบโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ชุด มีชัย ฤชุพันธุ์ ทำคลอดระบบเลือกกันเอง แต่สุดท้ายได้ สว. จัดตั้ง-บล็อกโหวต เลือดน้ำเงินเต็มสภาสูง

ในขณะนั้น กรธ. ปฏิเสธวิธีการเลือกตั้ง เพราะเกรงว่าจะถูกครอบงำโดยพรรคการเมือง เปลี่ยนสภาพี่เลี้ยง เป็นสภาที่จะรับรู้ความต้องการหรือความเดือดร้อนหรือส่วนได้เสียของคนกลุ่มต่าง ๆ เป็นที่มาของวุฒิสภาจากประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพ เพื่อรักษาประโยชน์ของคนทุกระดับชั้น
เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดแบบ 360 องศา ตามที่พวกท่านคิดวางแผนจริง เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาดหวัง ไล่ตั้งแต่จะหลุดพ้นการครอบงำของพรรคการเมืองก็ได้เห็นแล้วว่า มองไปเจอแต่ “สว. สีน้ำเงิน”
ที่บอกว่าจะเป็นตัวแทนเป็นปากเป็นเสียงรักษาประโยชน์คนทุกระดับชั้น อาจมีให้เห็นบ้าง แต่ที่เด่นชัดคือ สว. “วุฒิภาวะต่ำ” อย่างน่าสังเวชที่สุด
เราได้ สว.บ้าดีกรี มากด้วยใบปริญญา พรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติ ที่มิอาจยืนยันได้ว่าเป็นของจริง
เราได้ สว. ทำท่าร้องไห้ ล้อเลียนเพื่อน สว.ด้วยกัน ระหว่างอภิปรายตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งสุดท้ายถูกปัดตกไปด้วยคะแนนเสียง 127 ต่อ 48 เสียง
ส่วนคนร่างกติกาปิดจ๊อบจบ ก็หมดความรับผิดชอบ เอวังด้วยประการฉะนี้