Browsing: News

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 โดยที่ประชุมมีความกังวลต่ออัตราการเกิดของประชากรไทยที่ลดต่ำลงอย่างมากในปี 2567 ประกอบกับปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน จึงได้เห็นชอบ 3 มาตรการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ดังนี้ สั่งคณะกรรมการคุ้มครองเด็กฯ ทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายกับร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้เด็ก โดยเฉพาะร้านค้ารอบสถานศึกษา ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (10) บังคับใช้กฎหมายกับผู้ปกครองที่จงใจหรือละเลยปล่อยให้เด็กซื้อใช้หรือขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 25 (4) และมาตรา 26 (3) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มอบหมายกองทุนคุ้มครองเด็กฯ สนับสนุนงบประมาณอบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง เด็ก และเยาวชน เกี่ยวกับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้า นายวราวุธ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็ก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กผู้หญิง เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่ง ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต อนามัยเจริญพันธุ์ และการพัฒนาประเทศในระยะยาว จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถาบันยุวทัศน์ฯ ร่วมกับ สสส. ได้เสนอ 3 มาตรการนี้เพื่อให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติเห็นชอบ เนื่องจากพบว่าปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย รวมถึงมีผู้ปกครองบางส่วนที่ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า

Read More

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสรุปรายชื่อผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งประธานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ส่วนรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อนั้น ขอให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด โดยยืนยันว่า การประชุมคณะกรรมการ ธปท. ยังคงดำเนินไปตามปกติ แม้ตำแหน่งประธาน ธปท. จะว่างลง เนื่องจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธาน ธปท. สามารถรักษาการแทนได้ตามกฎหมาย“การประชุมบอร์ดแบงก์ชาติก็ยังดำเนินการไปตามปกติ ไม่ได้มีแรงกดดันอะไร แม้ว่าวาระของประธานคนเก่าจะหมดไปแล้ว ก็ถือว่าจบไปแล้ว ส่วนกระบวนการคัดเลือกก็ดำเนินต่อไป” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว

Read More

ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 คาดการณ์ว่าฝุ่นพิษจะกลับมาส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ยาวนานเกือบทั้งสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กทม.และปริมณฑล: คุณภาพอากาศปานกลางในวันที่ 30 มกราคม แต่จะเริ่มแย่ลงตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และจะกลับมาอยู่ในระดับปานกลางอีกครั้งในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก: มีแนวโน้มคุณภาพอากาศใกล้เคียงกับ กทม. และปริมณฑล ภาคเหนือ (17 จังหวัด): คุณภาพอากาศจะแย่ลงในช่วงวันที่ 30 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ แต่จะกลับมาอยู่ในระดับดีในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ส่วนภาคใต้คุณภาพอากาศยังคงอยู่ในระดับดีอย่างต่อเนื่อง คำแนะนำสำหรับประชาชน ติดตามสถานการณ์: ตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศอย่างสม่ำเสมอจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ป้องกันตนเอง: สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ลดกิจกรรมกลางแจ้ง: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 สูง ดูแลสุขภาพ: ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์

Read More

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ไปเปิด ปราศรัยหาเสียงช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครของพรรคในเชียงราย ที่สนามสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อ.เมืองเชียงราย และโรงเรียนพานพิเศษพิทยา อ.พาน จ.เชียงราย ก่อนเดินสายอีกหลายอำเภอ ของ จ.เชียงใหม่วันพรุ่งนี้ โดยมีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก คราวนี้นายทักษิณสวมเสื้อสีเหลืองขึ้นปราศรัย ทำให้ภาพเขาเด่นกว่าคนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่ใส่เสื้อแดง โดยระบุเขาไล่ไป 17 ปี กลับมานึกว่าเชียงรายมีตึกระฟ้าพัฒนาแล้ว แต่ปรากฏว่าเหมือนเก่าจึงจะกลับมาพัฒนาเชียงรายให้มีเงินใช้ มีคนสงสัยเหตุใดจึงเอาจริงจังกับ อบจ.นั่นเพราะฐานรากของบ้านเราสึกหรอไปเยอะ จึงมาฟื้นฟูแก้ไข และเห็นว่าท้องถิ่นมีความสำคัญจึงอยากมือไม้ที่เป็นท้องถิ่นช่วยงานรัฐบาลในการพัฒนา พร้อมย้ำภายในปีนี้จะจัดการปัญหายาเสพติด และแก็งคอลเซนเตอร์ให้หมดไป พร้อมขอประชาชนช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยอย่าเผา เพราะฟางข้าวทำให้เน่ากลายเป็นปุ๋ยที่ทำให้ผลผลิตปีถัดไปดีขึ้น “อยากให้ผมทำงานอีกหรือไม่ ทำงานอีกกี่ปี กรกฎาคมนี้ก็ 76 ปีแล้ว แก่มากแล้ว ถ้าเลือกนายก อบจ.และเลือกสมาชิก อบจ.เป็นของพรรคเพื่อไทย ก็จะได้ทำงานให้ไปอีก 40 ปี เพื่อให้ผมมีมือไม้ในการทำงาน” นายทักษิณ ยังพูดถึงพรรคคู่แข่งอย่างพรรคประชาชน ที่โลโก้เป็นสีส้มด้วยว่า วันนี้ตรุษจีน ตรุษจีนชอบใส่เสื้อสีแดง แล้วชอบกินส้ม ตรุษจีนนี้ต้องใส่เสื้อสีแดงแล้วกินส้มให้ได้จะได้เจริญ ๆ จากนั้นก็มีคนตะโกนว่า กินส้มแต่คายแล้ว นายทักษิณจึงตอบกลับว่า “ดี ๆ”

Read More

คมนาคมเตรียมชงของบประมาณผูกพัน 3 ปี วงเงิน 4,500 ล้านบาท สร้างอาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ ย่านสถานีกลางบางซื่อ หวังเป็นศูนย์กลางคมนาคมครบวงจร พร้อมชูคอนเซปต์ “อาคารอัจฉริยะ” นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จำนวน 4,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ ทดแทนอาคารเดิมบนถนนราชดำเนินนอก โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2569 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2571 การย้ายที่ทำการกระทรวงคมนาคมครั้งนี้ มีเหตุผลสำคัญคือ อนุรักษ์อาคารเก่า: อาคารเดิมบนถนนราชดำเนินนอกมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สมควรอนุรักษ์ไว้เป็นส่วนหนึ่งของถนนสายวัฒนธรรม รองรับการขยายตัว: รองรับหน่วยงานที่เพิ่มขึ้น เช่น กรมการขนส่งทางราง และรองรับภารกิจที่ขยายตัวขึ้นในอนาคต เสริมศักยภาพบางซื่อ: ตอกย้ำบทบาทของสถานีกลางบางซื่อในฐานะศูนย์กลางคมนาคมของประเทศ อาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ จะตั้งอยู่บนพื้นที่ย่านสถานีกลางบางซื่อ โดยชูคอนเซปต์ “อาคารอัจฉริยะ” (Smart Building) ที่ทันสมัย ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปีงบประมาณ 2569 จำนวน 900 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2570 จำนวน 1,800 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2571 จำนวน 1,800 ล้านบาท คาดว่าการก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่นี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาพื้นที่ย่านบางซื่อให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญของประเทศสำหรับงบประมาณ 4,500 ล้านบาท จะแบ่งเป็น

Read More

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกค้นร้านขายยา 12 แห่งทั่วกรุงเทพฯ จับกุมผู้แอบอ้างเป็นเภสัชกร 12 ราย พร้อมยึดของกลางยาอันตรายจำนวนมาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจค้นร้านขายยา 12 แห่งทั่วกรุงเทพฯ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาโดยบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกร การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติการณ์ใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากการจำหน่ายยาโดยบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกร อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ จากการตรวจค้นพบผู้กระทำความผิด “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” จำนวน 12 ราย โดยผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 5 ราย ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จำนวน 2 ราย และปริญญาตรีจำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมและยึดของกลางยาอันตราย ยาขึ้นทะเบียนตำรับยา และพยานหลักฐานอื่นๆ จำนวน 26 รายการพ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ. กล่าวว่า การลักลอบจำหน่ายยาโดยบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกร เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ ซึ่งจะต้องใช้อย่างระมัดระวังตามใบสั่งแพทย์เท่านั้นทั้งนี้ บก.ปคบ. ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นร้านขายยาใดมีพฤติกรรมต้องสงสัย หรือใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” ระวางโทษปรับ 1,000-5,000 บาท พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการ รวมถึงไม่ควบคุมการขายยา ควบคุมการส่งมอบยา อันตราย และควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง” ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท

Read More

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิหยุดพนัน กล่าวในเวทีแถลงข่าว ประชาชนเดินหน้าล่า 5 หมื่นรายชื่อ “ไม่เอากาสิโน ต้องประชามติ”ว่า กาสิโนเป็นเรื่องใหญ่ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมวงกว้าง จากนี้จะรวบรวมรายชื่อให้ได้ห้าหมื่นรายชื่อ เพื่อผลักดันให้รัฐบาลต้องทำประชามติ พร้อมให้ข้อมูลถึงอันตรายของร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรว่า กฎหมายเปิดช่องหลายเรื่อง เช่น การเปิดกาสิโนได้โดยไม่จำกัด เมื่อรัฐบาลไม่ทำประชามติ ประชาชนก็ต้องเข้าชื่อให้ได้ 5 หมื่นชื่อเสนอต่อ ครม.เพื่อให้ทำประชามติตามที่กฎหมายเปิดช่องให้เราทำได้ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันเสนอตัวเป็นผู้ริเริ่มจัดทำ เมื่อได้ 5 หมื่นชื่อส่ง กกต.ตรวจสอบเสนอรัฐบาล เขามีหน้าที่กำหนดวันว่าจะลงประชามติเมื่อไหร่ ซึ่งจะอยู่ในกรอบเวลา 3-4 เดือน หลังรัฐบาลได้รับเรื่องแล้ว “มันเป็นเรื่องของความชอบธรรม ถ้าในเมื่อประชาชนประกาศชัดเจนแล้วขอให้ทำประชามติ สำนักงานเลขาครม.จะดองเรื่องคงไม่ได้ เพราะมีการไปเร่งกฤษฎีกาให้ทำภายในห้าสิบวัน รีบเอาเข้าสภาฯ แต่ความต้องการของประชาชนกลับดองไว้ เชื่อว่ารัฐบาลจะถูกประชาชนติฉิน” นายธนากร กล่าวว่า แม้การทำประชามติจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ก็อาจใช้โอกาสนี้สอบถามความเห็นประชาชนในประเด็นสาธารณะหลายเรื่องไปพร้อม ๆ กันด้วยเลย ซึ่งในเรื่องการตั้งคำถามก็ต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดร่วมกัน ป้องกันไม่ให้รัฐบาลไปตั้งคำถามในลักษณะชี้นำ ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/

Read More

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับเครือข่ายคนคัดค้านกาสิโน จัดแถลงข่าว ประชาชนเดินหน้าล่า 5 หมื่นรายชื่อ “ไม่เอากาสิโน ต้องทำประชามติ โดย รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชี้ถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องทำประชามติ ก่อนดำเนินการจัดตั้งกาสิโนว่า ประชามติแตกต่างจากประพิจารณ์อย่างสิ้นเชิง รัฐบาลในประเทศที่พัฒนาแล้วต้องทำประชามติในประเด็นสาธารณะที่สำคัญ เมื่อรัฐบาลบอกเป็นประชาธิปไตยต้องทำเหมือนอารยะประเทศ และต้องไม่ลืมว่าในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีการชูนโยบายว่า จะมีกาสิโน พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย การที่ท่านไม่ได้ชูนโยบายในการเลือกตั้งแต่ท่านบอกว่าเมื่อเป็นตัวแทนประชาชนแล้วจะทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกท่านมาด้วย อีกทั้งในมิติทางกฎหมาย มาตรา 57 ของกฎหมายพรรคการเมือง กำหนดให้ทุกพรรคการเมืองรายงานนโยบายที่ต้องใช้งบประมาณต่อ กกต. ซึ่งปรากฏว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ไม่มีการรายงานนโยบายทั้งสองเรื่องนี้ต่อกกต.แต่อย่างใด “การที่ครม.อนุมัติหลักการเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ให้มีกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย สะท้อนว่าไม่เคารพไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือก และนโยบายนี้เป็นนโยบายที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคม เศรษฐกิจและผิดกฎหมายด้วย เนื่องจากไม่มีการรายงานนโยบายในการหาเสียงตามที่กฎหมายกำหนด จึงต้องทำประชามติเพื่อให้ได้เสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศสิ่งที่ดำเนินการอยู่ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน” รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว หากคุณไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย สามารถลงชื่อแสดงจุดยืนว่า “เราไม่เอากาสิโน” ได้ที่ https://forms.gle/PBBBYki6Lbcb4HZh9

Read More

บ่าย 2 วันนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ร่อนหนังสือเชิญสื่อมวลชนเปิดแถลงใหญ่ เพื่อชี้แจงเรื่องการจำหน่ายไฟฟ้าให้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีนายประดิษฐ์ เฟื่องฟู และนายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ตั้งโต๊ะชี้แจงเอง มีการตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะกรรมการ กฟภ.ที่มีรายงานข่าวว่าวาระสำคัญคือการยกเลิกการขายไฟฟ้าให้กับบริษัทของรัฐกะเหรี่ยง ที่มีชื่อว่า Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited หรือ SMTY ซึ่งได้รับสัมปทานจากประเทศเมียนมาหรือไม่ เพราะตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุว่าการขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลนั้นๆ รับรองเป็นคู่สัญญา ไม่ได้ขายไฟฟ้าให้บริษัทโดยตรง และการยกเลิกสัญญาต้องเป็นรัฐบาลนั้นแจ้งยกเลิกสถานะบริษัทคู่สัญญา หรือ ครม.มีมติให้ยกเลิก ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน เคยระบุว่าบริษัท SMTY มีความเชื่อมโยงกับกองกำลังรัฐกระเหรี่ยง และมีบทบาทสำคัญในการให้แก๊งคอลเซนเตอร์เช่าพื้นที่ที่ตั้งอยู่เมียวดี เป็นฐานหลอกลวงประชาชน ดังนั้นไม่ต่างกับการที่ กฟภ.ทำสัญญาขายไฟฟ้าให้โดยตรง เมื่อวานนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กฟภ. ยังคงยืนยันการขายไฟฟ้าของ กฟภ.มีการตรวจสอบ ทำตามขั้นตอนและระเบียบ ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้ขายไฟฟ้าตามอำเภอใจ หรือไม่ได้ขายตามความรู้สึก และว่าไม่มีใครบ้าจี้พอเอาไฟฟ้าไปขายให้คนทำผิดกฎหมาย และยืนยัน กฟภ.ไม่มีประชุมวาระยกเลิกขายไฟฟ้าวันนี้ด้วย ก่อนหน้านี้นายอนุทิน เคยถูกถามว่า กฟภ.ขายไฟฟ้าให้บริษัทใดบ้าง เกี่ยวกับแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ โดยบอกว่าจะไปถามลิงที่ไหน เพราะไฟฟ้าถูกขายเป็นทอดๆ พร้อมกับระบุ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพราะนี่กระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่กระทรวงมหาดพม่า”

Read More

ศ.ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษา รมว.พม. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงเทศกาลตรุษจีนว่า วันนี้เป็นวันตรุษจีน ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เทศกาลนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี นับเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ และการเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูกใหม่วันตรุษจีนมิใช่เพียงวันขึ้นปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวจีนจะได้แสดงออกถึงคุณค่าและความเชื่อที่ยึดถือ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่สืบทอดกันมา โดยมี 3 กิจกรรมหลักที่สะท้อนความหมายของวันนี้อย่างชัดเจน ได้แก่ การกลับบ้านเกิดเพื่อรวมญาติและแสดงความกตัญญู: ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ชาวจีนจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อร่วมฉลองตรุษจีนกับครอบครัว ร่วมกันกราบไหว้บรรพบุรุษ แสดงความเคารพ และรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ รักษาความสามัคคี และสืบทอดประเพณีอันดีงาม การมอบอั่งเปา: ซองแดงหรืออั่งเปา เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง โชคลาภ และคำอวยพร การมอบอั่งเปาให้แก่ลูกหลาน จึงเปรียบเสมือนการส่งต่อความปรารถนาดี และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ในครอบครัว ประเพณีเชิดสิงโตและการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดง: การเชิดสิงโต เป็นกิจกรรมที่สร้างสีสันและความสนุกสนานในวันตรุษจีน สิงโต เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความแข็งแกร่ง และความเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่าการเชิดสิงโตจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย นำมาซึ่งความโชคดี ส่วนการสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง ซึ่งเป็นสีแห่งความสุขและความโชคดี ก็เป็นการแสดงออกถึงความยินดี และพร้อมที่จะต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นใหม่ ไม่เพียงแต่ในชีวิตส่วนบุคคล แต่ยังรวมถึงครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ สะท้อนให้เห็นถึงวัฏจักรของชีวิต ดังคำกล่าวที่ว่า “ทุกการสิ้นสุด คือการเริ่มต้นใหม่” คุณค่าของวันตรุษจีน อยู่ที่การตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว ความกตัญญู และการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคม ดังนั้น ตรุษจีนจึงเป็นมากกว่าวันขึ้นปีใหม่ แต่เป็นวันแห่งการเริ่มต้น การรวมญาติ และการส่งต่อความสุขสุขสันต์วันตรุษจีน 2568ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคดีตลอดปี ตรุษจีน #ตรุษจีน2568 #วันครอบครัว #ความกตัญญู #การเริ่มต้นใหม่

Read More