Browsing: News

จีนขยับปรับหลักสูตร ไทยเริ่มได้หรือยัง? สำนักข่าวซินหัว รายงานการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ด้านการศึกษา ของประเทศมหาอำนาจอย่างจีน โดยระบุกระทรวงการศึกษาของจีน เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา จึงปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับ เศรษฐกิจและสังคม รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยช่วง 12 ปีที่ผ่านมามีการเปิดหลักสูตรใหม่ถึง 21,000 หลักสูตร และยกเลิกหลักสูตรไป 12,000 หลักสูตร เฉพาะในปี 2024 เพียงปีเดียวได้จัดตั้งหลักสูตรไปแล้ว 1,673 หลักสูตร และ ปิดไป 1,670 หลักสูตร มหาอำนาจเคลื่อนไหวแบบนี้ แล้วประเทศไทยมีมุมมองและ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างไร โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กพฐ. ได้ปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2551 ส่วนกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ปรับมาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา ตั้งแต่ปี 2558 ให้มีความยืดหยุ่น รองรับการเปลี่ยนแปลง ล่าสุด กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ผลักดันใช้ Artificial Intelligence (AI) ให้พร้อมรับมือกับการเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงมีแผนแม่บทนำ AI University มาใช้โดยตั้งเป้าเบื้องต้น 3 ปี ผลิตนักศึกษา 30,000 คน แบ่งเป็นสามระดับ คือ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้สร้าง และผู้ใช้งานเบื้องต้น ดังนั้นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทุกคนชั้นปีที่ 1 จะต้องใช้เป็นผู้สร้าง และประยุกต์ใช้สร้างนวัตกรรม กำหนดหลักสูตรต่างๆ ในมหาวิทยาลัยให้มีศักยภาพมากขึ้นต่อไป ทั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ เด็กและเยาวชนจะสามารถเข้าถึงการศึกษา อย่างเท่าเทียมพร้อมแข่งขันสู่เวลาเวทีระดับโลกอย่างไรต้องคอยติดตามกันต่อไป

Read More

.เป็นผลจากที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ โดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่ามีข้อสั่งการให้งดการทัศนศึกษาทันที แต่หากจำเป็น ต้องพิจารณามาตรการรักษาความปลอดภัยของรถ และเด็กที่ไปคือนักเรียนระดับใด รวมถึงอาจให้ผู้ปกครองเดินทางไปด้วย และจะหลีกเลี่ยงให้เด็กเล็กออกนอกพื้นที่จังหวัด.ทั้งนี้ ถึงจะยอมรับว่าการทัศนศึกษาเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อการเรียนรู้ แต่พลตำรวจเอกเพิ่มพูนบอกเรื่องยานพาหนะที่ใช้ในการทัศนศึกษา ต้องประสานกรมขนส่งทางบก เพื่อตรวจสภาพรถให้มีความพร้อม สำหรับกำหนดระยะเวลาอาจต้องงดไประยะยาว และเล็งเห็นว่า และหากจำเป็นในการเดินทางทัศนศึกษา ขอให้พิจารณาเรื่องความเหมาะสมทั้งระยะทาง และจำนวนเด็กนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความสุข และไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง

Read More

เป็นการมอบหมายภารกิจด่วนของนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ ระหว่างประชุม Morning Brief ในเรื่องการเยียวยาผู้ประสบเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ ซึ่งเป็นนักเรียนและคุณครูจากวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เช่นการเยียวยาแผลไฟไหม้ การดูแลสุขภาพจิตของผู้ป่วยหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรง พร้อมประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีรองอธิบดีกรมการแพทย์ คณะผู้บริหารกรมการแพทย์ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมรับทราบนโยบาย.ทั้งนี้ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีเจ้าหน้าที่ MCATT หรือ ทีมเยียวยาจิตใจ กรมสุขภาพจิตดูแลสภาพจิตใจญาติครอบครัวผู้เสียชีวิต จะเดินทางมารอฟังผลการตรวจ DNA และรับศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล โดยประสานรถพยาบาลกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเตรียมรถรับส่งศพไปยัง จ.อุทัยธานี 23 คัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย.นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม พร้อมประสานเรื่องการรับเงินช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

Read More

.นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ประชุมผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือและมอบนโยบายแนวทางในการทำงาน โดยมีผู้บริหารระดับสูงทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ซึ่งต้องจับตาว่าจะหารือนโยบายปรับอัตราค่าจ้างแรงงานเป็น 400 บาททั่วประเทศ ที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันเดินหน้าเรื่องนี้ต่อเพื่อให้ทันขึ้นค่าแรงภายในปีนี้หรือไม่.โดยนายพิพัฒน์ บอกก่อนหน้านี้ว่า สำหรับปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ จะเป็นกรรมการไตรภาคีโดยตำแหน่ง ขณะที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานคนใหม่ ต้องรอเสนอรายชื่อให้ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า ซึ่งเมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการไตรภาคีอย่างเป็นทางการแล้ว จึงเหลือกรรมการจากตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ว่าจะใช้คนเดิม ที่ยังมีสิทธิจนถึงเดือนมีนาคม 2568 หรือไม่ ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ประสานกับ ธปท..ทั้งนี้ นายพิพัฒน์บอกจะหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันการเดินหน้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทให้ได้ และให้ทันภายในปีนี้

Read More

.เป็นเหตุโศกนาฏกรรม และสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนทั้งประเทศ จากเหตุเพลิงไหม้รถบัสนำนักเรียนจากโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี มาทัศนศึกษา จนมีนักเรียน และครูเสียชีวิตจำนวนมาก หลายฝ่ายเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.ใน TikTok มีผู้วาดการ์ตูนเด็กนักเรียนเดินจูงมือกัน พร้อมกับข้อความ ”เดินทางโดยปลอดภัยนะลูกๆ จับมือกันอย่าปล่อยมือกันนะ เป็นนางฟ้า เป็นเทวดาบนสวรรค์นะ” ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง.เช่นเดียวกับฝั่งรัฐบาล อย่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ถึงกับร่ำไห้ทันทีที่ทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนยกเลิกภารกิจทั้งหมด สั่งรัฐมนตรีมหาดไทยลงพื้นที่ และรุดไปเยี่ยมเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล.ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ สส.ในพื้นที่ถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หลังเข้าเยี่ยมนักเรียน และครูที่บาดเจ็บ.รวมถึงที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้ ก่อนการประชุมประจำสัปดาห์ ทั้งหมดลุกขึ้นยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตเหตุเพลิงไหม้รถบัสดังกล่าวด้วย.เช่นเดียวกับ The Publisher ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกท่าน

Read More

.เป็นการเปิดเผยจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม หลังลงพื้นที่เหตุเพลิงไหม้รถบัส 2 ชั้น โดยระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างหนึ่งคือรถบัสคันดังเกล่าวใช้เชื้อเพลิงชนิดแก๊ส CNG ซึ่งจะพิจารณาว่าหากเกิดอันตรายจะมีคำสั่งให้เลิกใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้

Read More

.จากเหตุรถบัสทัศนศึกษานักเรียนพุ่งชนแบริเอร์จนเกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณถนนวิภาวดี หน้าเซียร์รังสิต เป็นผลให้เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 13 ราย โดยเบื้องต้นบนรถบัสคันเกิดเหตุ มีเด็กจำนวนทั้งสิ้น 38 คน ครูทั้งหมด 6 ท่าน โดยแบ่งเป็น เด็กอนุบาล 2 จำนวน 2 คน อยู่ครบปลอดภัย , เด็กอนุบาล 3 จำนวน 4 คน อยู่ครบปลอดภัย , เด็ก ป.1 จำนวน 7 คน อยู่ 3 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 1 คน และยังคงสูญหาย 3 คน , เด็กชั้น ป.2 จำนวน 7 คน อยู่ครบปลอดภัย , เด็กชั้น ป. 3 จำนวน 7 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 1 คน และยังคงสูญหาย 6 คน , เด็กชั้น ป.4 จำนวนทั้งหมด 6 คน ยังคงสูญหาย , เด็กชั้น ม.2 จำนวนทั้งหมด 2 คน ยังคงสูญหาย , เด็กชั้น ม.3 จำนวน 4 คน เบื้องต้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 1 คน และยังคงสูญหายอีก 3 ราย ส่วนคุณครูทั้ง 6 ท่าน พบว่า 3 ท่านยังคงสูญหาย.

Read More

.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังทราบเหตุรถโรงเรียนไฟไหม้เป็นเหตุให้มีนักเรียนเสียชีวิตหลายรายว่าได้สั่งให้ รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แล้ว ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงนางสาวซาบิดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคนจังหวัดอุทัยธานีบ้านเดียวกับเด็กนักเรียนบนรถคันดังกล่า โดยผู้ข่าวพยายามสอบถามว่าได้ทราบถึงสถานการณ์อย่างไรบ้างแต่นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถาม ก่อนจะเดินเลี่ยงสื่อมวลชนโดยไม่พูดอะไร.ทั้งนี้มีรายงานว่าก่อนจะลงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ได้รายงานสถานการณ์ต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งทันทีที่ทราบนายกรัฐทนตรีได้ปล่อยโฮให้ทันที เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว เพราะเด็กนักเรียนในวัยนี้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงรู้สึกเศร้ากับเหตุการณ์นี้มาก ๆ

Read More

.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่ยืนยันว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 จะเป็นการแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เมื่อไหร่ และเต็มจำนวนหรือไม่ หรือจะเหลือเพียง 5 พันบาท โดยบอกต้องรอการประชุมของคณะทำงานที่จะสรุปสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ จำนวนงบประมาณ และเสนอที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาก่อน.ทั้งนี้มั่นใจไม่ว่าจะแจกเงินครบ 1 หมื่นบาทได้ตามเป้าหรือไม่ แต่ก็ไม่ทำให้เป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจหลุดเป้า เพราะเม็ดเงินยังหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นจากนี้จะหาจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการเติมเม็ดเงินเพื่อเพิ่มแรงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสมต่อไป รวมถึงพิจารณาว่าจะแบ่งจ่ายเม็ดเงิน 4.5 แสน บาทที่ใช้สำหรับโครงการนี้ตามความเหมาะสมด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพิ่มการบริโภค และการผลิตตามมา.สำหรับการแจกเงินหมื่นบาทในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการนั้น หลังผ่านรอบจ่ายครบแล้ว ปรากฎว่ามีตกค้างอยู่เกือบ 4 แสนราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้พิการคงค้าง 8 พันกว่ารายเท่านั้นหลังเคลียร์จำนวนที่ซ้ำซ้อนกับผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่ได้เงินนั้นมี 3 แสน 5 หมื่นกว่ารายไม่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ และอีก 2 หมื่นราย เนื่องจากบัญชีไม่เคลื่อนไหว ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนดำเนินการผูกพร้อมเพย์ และทำให้บัญชีเคลื่อนไหวเพื่อรับเงินโอนในรอบต่อไปคือ 22 ตุลาคมนี้

Read More

.เป็นคำประกาศของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.67) ผ่านช่องยูทูบชื่อ Sondhitalk มีความยาว 4.53 นาที ชื่อ สามเงื่อนไขของสนธิ ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเวทีงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 3” โดยประกาศถึงกิจกรรมที่จะทำในต้นปีหน้าสามเรื่อง ประกอบด้วย. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ติดตามเรื่องที่ถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 ที่ยังหาคนร้ายไม่ได้ มีแต่หมายจับ และคาดเดาได้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเป็นใคร ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ทำไมจึงมีชาวเมียนมาเต็มเมืองมาอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย และยืนยันค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต้องสำหรับแรงงานไทยเท่านั้น ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า หากรัฐบาลทำอะไรไม่เข้าที่เข้าทาง ผิดจริยธรรม จะรวบรวมว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ควรอยู่ต่อไป.“เรื่องที่ 1-2 คือการซ้อมเดิน เรื่องที่ 3 คือการเดินจริง ผมบอกแล้วว่าปลายทางเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่จะทิ้งไว้ให้สังคมไทย แต่การจัดการเดินนั้นจะเป็นการเดินครั้งสุดท้ายในชีวิตของผม”

Read More