กลายเป็นประเด็นร้อนทันทีเมื่อกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม พร้อมด้วย 4 อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ ร่วมลงชื่อคัดค้านการเมืองครอบงำแบงก์ชาติ โดยแสดงความกังวลต่อการเลือกประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดแบงก์ชาติ ที่จะคัดเลือกในวันที่ 4 พ.ย.67 เนื่องจากฝ่ายการเมืองมีความพยายามจะส่งคนของตัวเองเข้าไปเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการเมืองระยะสั้น แต่เสี่ยงกระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว ที่เมื่อเสียหายแล้วยากที่จะแก้ไข
ที่มาที่ไปเรื่องนี้เป็นอย่างไร “รายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ได้สัมภาษณ์ รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ เล่าให้ฟังถึงความกังวลของกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมว่า อำนาจของบอร์ดแบงก์ชาติที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ สามารถอนุมัติให้ใช้เงินสำรองระหว่างประเทศได้ด้วย
“มีความเป็นห่วงว่าอาจมีความพยายามผ่านฝ่ายการเมืองล้วงเงินสำรองระหว่างประเทศมาใช้ในโครงการประชานิยมของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาเห็นการส่งสัญญาณหบายครั้งจากคนในรัฐบาลที่ต้องการจะนำเงินสำรองระหว่างประเทศมาใช้”
รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ยังหวังว่าคณะกรรมการคัดเลือกจะใช้ดุลพินิจที่ถูกต้องในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ไม่ใช่คนของฝ่ายการเมือง และแนะนำให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากกระทรวงการคลัง ให้คัดเลือกเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ถอนตัวจากการเสนอชื่อเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับชวนคิดว่า น่าจะต้องมีการแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับองค์ประกอบคณะกรรมการคัดเลือก ซึ่งปัจจุบันมาจากอดีตข้าราชการระดับสูง โดยรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ โดยจะมีการเลือกคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าแบงก์ชาติด้วย กติกาที่ให้กระทรวงการคลังเสนอหนึ่งชื่อ แบงก์ชาติเสนอสองเท่า ความจริงแบงก์ชาติเสียเปรียบเพราะคะแนนเสียงอาจแตก จึงน่าจะมีการปรับปรุงกฎหมายใหม่ด้วย
ติดตามสัมภาษณ์ฉบับเต็มในรายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง