นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อตรวจราชการและประชุมติดตามการปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด และแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากการตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อวานนี้ โดยให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ว่า เราเพิ่งตัดไฟฟ้า ยังสรุปอะไรไม่ได้ แต่พิจารณาแล้วชายแดนไทยไม่น่ามีปัญหาอะไร สิ่งที่กระทบกับชายแดนมากน้อยแค่ไหนจะต้องประเมิน
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ยอมรับว่าการตัดไฟอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนบ้าง แต่ได้มีการประเมินผลกระทบในเบื้องต้นแล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ โดยแหล่งกำเนิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ใกล้กับเรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้น
“วันนี้เราร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา มีคำถามมีอะไรก็ได้ แต่อย่าพยายามทำให้เป็นประเด็น บางคนบอกว่ายังไฟใช้ได้อยู่เลย เราทำในประเทศเรา” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันแรกที่ตัดไฟ อาจจะยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก แต่ที่ชเวก๊กโก พบว่ากิจกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงไปถึง 40% ซึ่งต้องรอการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการประเมินตลอดการลงพื้นที่วันนี้ เพื่อให้เห็นผลกระทบที่แท้จริง หลังจากนี้จะต้องดูว่าคดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่ กระบวนการมีปัญหามากหรือไม่ และมีคนออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาวนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของลาวเช่นเดียวกับอธิปไตยในประเทศของตนเอง และไทยไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามปราม “เพราะลาวก็คุยกับผมมาครั้งหนึ่งว่าต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ตอนนี้เขาอุดตรงนั้นตรงนี้ เขาก็พร้อมซีลชายแดนด้านเขาเหมือนกัน เพื่อแก้ปัญหาแต่เรายังไม่คุยไปถึงว่าวันนี้เราต้องทำอะไร การที่เขาต้องวิ่งไปหาฝ่ายที่อื่นเขาแสดงว่าเขามีปัญหา” นายภูมิธรรม กล่าว
รมว.กลาโหม กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นการลักลอบต่างๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ แต่หากพบช่องทางที่มีปัญหา ก็จะดำเนินการสกัดกั้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกล่าวถึงกระแสข่าวว่าอินเทอร์เน็ตยังไม่สามารถตัดได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ผมตัดไฟครั้งนี้ก็รู้อยู่ว่าเศรษฐกิจกระทบบ้าง แต่ก็ต้องเลือกเอา ตอนที่เราจะทำเราไม่ได้ใช้อารมณ์ตัด เราดูผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ไทย-เมียนมา ไทย-จีน เราคำนึงถึงความสัมพันธ์ด้านมนุษยธรรม อย่าง กฟภ.บอกว่าหายไป 600 ล้าน ก็แค่ 0.1% อยากให้มองให้รอบด้านว่าเราพยายามแก้ไขปัญหา ต้องให้ความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาด้วยไม่งั้นจะทำให้ยากลำบากมากขึ้น” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามถึงกรอบเวลาในการประเมินผล นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประกาศกรอบเวลาก็ทำได้ แต่เวลานี้ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด จึงขอประเมินผลกระทบไปพร้อมกับการดำเนินการแก้ไขปัญหา “อย่าขอกรอบเวลามากเพราะเราทำแล้วทำต่อถ้าไม่ดีที่สุด” นายภูมิธรรม กล่าว