ในรายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง คุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร ได้พูดคุยกับคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต รมว.กระทรวงวัฒนธรรม และอดีต สส.พัทลุง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงการเมืองเข้มข้น ก่อนลดบทบาททางการเมือง แต่ยังคลุกคลีกับกลุ่มคนที่ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นเดิม โดยคุณนิพิฏฐ์วิเคราะห์ถึงบทบาทในแง่มุมต่างๆ รวมถึงชะตากรรมต่อไปนี้ของคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
The Publisher: ประเด็นนักโทษชั้น 14 มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
นิพิฏฐ์ : สำหรับคดีใน ป.ป.ช. เชื่อว่าภายในกุมภาพันธ์นี้ ควรมีคืบหน้าได้แล้ว แต่ผมมีเรื่องสำคัญที่บอกในรายการนี้ และอาจเป็นประเด็นสำคัญก็คือ ก่อนหน้านี้คุณทักษิณมอบหมายให้ทนายความ ยื่นฟ้องคนๆ หนึ่งฐานคดีหมิ่นประมาทที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค ในทำนองพาดพิงถึงคุณทักษิณว่า ป่วยทิพย์ ไม่ได้ป่วยจริง อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งผมเป็นทนายความให้จำเลย และยืนยันต่อศาล ว่าสิ่งที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ว่าคุณทักษิณ ไม่ได้ป่วย เพื่อให้มีการนำหลักฐานมาแสดงต่อหน้าศาล นั้นคือการมีเวชระเบียนเท่านั้น ที่สามารถยืนยันอาการป่วยของคุณทักษิณได้ ซึ่งจะใช้คำสั่งศาลเรียกมาพิสูจน์
ผมได้ปรึกษาคนในแวดวงกฎหมายได้ข้อสรุปว่าศาลมีอำนาจในการเรียกได้ และเชื่อว่าจะเรียกเวชระเบียนมาด้วย ก็เลยจะรอดูว่าระหว่างคดีที่ผมทำอยู่นั้น กับคดีใน ป.ป.ช. ใครจะจบคดีได้ก่อนกัน
The Publisher: คดีนี้ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ?
นิพิฏฐ์ : คงจะยาวนาน แต่หากกำหนดวันพิจารณาแล้ว จะมีการขอหมายเรียกทันที และจะตรวจสอบเอกสารก่อนขึ้นศาล เพื่อดูว่าหมอคนไหน อธิบดีคนไหน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเรียกมาทันที ต้องนำหมอมาเบิกความ เอาอธิบดีกรมราชทัณฑ์มาเบิกความ นำเวชระเบียนมา ศาลก็ต้องชั่งน้ำหนักตามคำเบิกความ ตามเวชระเบียน
The Publisher: ใช้โอกาสนี้ในการคลี่คลายประเด็นดังกล่าว?
นิพิฏฐ์ : เรียกว่าเป็นการใช้สิทธิ์ดีกว่า
The Publisher: คุณทักษิณใช้วิธีขมขู่ คุกคาม เป็นการปิดปากหรือไม่?
นิพิฏฐ์ : มองว่าคุณทักษิณนั้นเป็นบุคคลสาธารณะ ที่สามารถวิจารณ์ได้มากกว่าบุคคลธรรมดา เพราะต้องตรวจสอบบุคคลสาธารณะ เพื่อให้ได้บุคคลที่สะอาดมาทำงานการเมือง หากว่าคุณทักษิณป่วยจริงก็ไม่มีอะไรก็จบไป “แต่จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่กลัวการตรวจสอบ เพราะผมไม่มีแผล” สมัยคุณทักษิณเป็นนายกฯ ก็มีการแจ้งว่าจะมีตำรวจมาค้นบ้านผม ซึ่งผมก็ไม่กลัว พร้อมให้ตรวจสอบ แต่ศาลไม่ออกหมายให้ ก็ไม่โดนตรวจ
The Publisher: บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างที่จะอึมครึมหรือไม่สำหรับรัฐบาล
นิพิฏฐ์ : คนไทยลืมง่าย บรรยากาศแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว สมัยคุณทักษิณเป็นนายก แต่สมัยนั้นมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง จึงทำให้คุณทักษิณติดคุก แต่สมัยนี้มันไม่มีแล้ว พวกผมและหลายๆคนจึงต้องออกมาตรวจสอบ แล้วการตรวจสอบมันดี ไม่ใช่การทำร้ายกัน แต่เปรียบเสมือนการซักผ้าให้สะอาด อย่ากลัวการตรวจสอบ มองว่ายิ่งตรวจสอบยิ่งบริหารได้ดียิ่งขึ้น
The Publisher: ความร่ำรวยของคุณทักษิณเป็นมาอย่างไร ?
นิพิฏฐ์ : ความเป็นมาตอนที่มาเป็นหัวหน้าพรรค คุณทักษิณกล่าวว่า “ผมรวยแล้ว ผมรวยแล้ว ผมไม่โกง” คนไทยก็แห่ไปเลือกคนรวยที่จะไม่โกง เป็นไงล่ะครับ คุณทักษิณมารวยจริง ๆ ตอนปี 2535-2536 อันนี้ไม่เถียงเพราะรวย รวยอันดับหนึ่งของประเทศ จริง เราก็เลือกคนรวยไปบริหารประเทศ แต่คนที่บอกว่ารวยแล้วไม่โกงแล้วประชาชนหลงเชื่อตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี กลับถูกศาลฎีกายึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน 47,000 ล้าน เพราะผลประโยชน์ทับซ้อน หมายความว่าใช้ตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ทุจริต 47,000 ล้าน เลยต้องติดคุก ต้องหนี ต้องยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน ผมคิดว่าเขากำลังว้าวุ่นในหลายๆเรื่อง ซึ่งอาจจะเป็นกับดักเขาในอนาคต ตอนนี้ปราศรัยก็ทำโดยไม่มีความสุข หากเปรียบเทียบกันกับเมื่อก่อนต้องหาเสียงแบบเล่นมุกตลก กลับบ้านมีความสุข แต่เดี๋ยวนี้มีแต่ด่า ผมว่าเขาไม่มีความสุข
The Publisher: ยิ่งก้าวร้าวยิ่งแสดงถึงความกดดัน?
นิพิฏฐ์ : ต้องถามจิตแพทย์กับ รพ.ตำรวจ เพราะตอนนี้หมอ รพ.ตำรวจเก่งเป็นอันดับหนึ่งของประเทศแล้วก็ต้องถามหมอ รพ.ตำรวจ ว่าพฤติกรรมแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ผมว่าเลี้ยงหลานมีความสุขมากกว่า ไม่รู้ว่ากลับบ้านมาแล้วหลานจะจำหน้าได้รึเปล่า
The Publisher: บทบาทของคุณทักษิณตอนนี้ไม่เกรงใจแม้กระทั่งลูกสาว ?
นิพิฏฐ์ : คุณทักษิณเป็นแบบนี้แหละครับที่ต้องการแสดงความมีอำนาจเหนือ ต้องเป็นเบอร์หนึ่งตลอด ต้องแสดงอำนาจเหนือลูก สุดท้ายผมทำนายแล้ว สุดท้ายคุณทักษิณต้องหนี เพราะตอนนี้ผมมีข้อมูลมากกว่าที่ประชาชนรู้ เอาแบบตรงไปตรงมาว่า ถ้าศาลต้องตัดสินแบบทุกคนต้องเสมอภาคกันตามกฎหมาย ถ้าผมเป็นทนายความคุณทักษิณ ผมโยนผ้าเลย มันฝืนความรู้สึกของประชาชน
The Publisher: ชะตากรรมของคุณยิ่งลักษณ์จะเป็นอย่างไร ?
นิพิฏฐ์ : เรื่องนี้เราอย่าพูดดีกว่า บางเรื่องมันอยู่เหนือความคาดหมาย ถ้าจะให้ทำนายทำนายไม่ได้หรอกครับ ถ้าคิดแบบตรงไปตรงมาผมว่า “ยาก”
The Publisher: สภาพการที่เป็นอยู่ขณะนี้ คาดว่าคุณทักษิณขาดมนต์ขลัง ถึงขั้นเลือกตั้งครั้งหน้านำพาพรรคเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนในอดีต
นิพิฏฐ์ : ผมไม่เชื่อ จะใช้การเลือกตั้งท้องถิ่นไปวัดการเลือกตั้งระดับประเทศไม่ได้ คนละเรื่อง เปรียบเทียบไม่ได้ เพราะการเลือกตั้ง อบจ.มันมีเงื่อนไขที่ซับซ้อนเยอะ เช่น ระบบอุปถัมป์ ระบบบ้านใหญ่ เรื่องเงิน ที่มาเกี่ยวข้อง แต่สำหรับเลือกตั้งระดับประเทศนั้นมันยาก
The Publisher: อะไรคือชัยชนะของประชาชน?
นิพิฏฐ์ : ตอนนี้ยังไม่เห็น แต่ว่าประชาชนต้องคิดว่าประชาชนเป็นอย่างไรนักการเมืองก็เป็นอย่างนั้น ประชาชนต้องทันสมัย รู้เท่าทัน ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยจริงๆ เสรีนิยมประชาธิปไตยจริงๆ ต้องไม่พึ่งรัฐ ต้องพึ่งตนเองเป็นหลัก ตราบใดที่ยังพึ่งรัฐก็จะได้นักการเมืองโง่ๆ การเมืองแบบบ้านใหญ่แบบนี้ อะไรนิดหน่อยก็ต้องพึ่งรัฐ แบบนี้ประชาชนอ่อนแอ รัฐมีอำนาจเหนือกว่า ถ้าอยากรู้จักประชาชน ก็ต้องเป็นนักการเมือง ถ้าอยากรู้จักนักการเมือง ก็ต้องมาเป็นประชาชน ผมเป็นมาหมดแล้ว ผมเลยรู้จักทั้งหมด
The Publisher: หลังจากนี้มีกิจกรรมอะไรร่วมกันอีก?
นิพิฏฐ์ : ประเด็นแรก ต้องมีวอลรูม มีฝ่ายยุทธศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลมาให้จบ และเป็นข้อมูลแท้จริง ประเด็นที่สอง ต้องมีช่องทางในการสื่อกับประชาชน เช่น อาจจะมีช่องของตนเอง และต้องหามวลชนคนรุ่นใหม่มามากกว่านี้ นี่คือสามเรื่องทื่ต้องทำ