เป็นคำอธิบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณี สื่อเมียนมาพาดพิงประเทศเพื่อนบ้านขายไฟฟ้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยบอกว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านจะต้องทำสัญญาซื้อขาย กับบริษัทที่ประเทศเพื่อนบ้านรับรอง จากนั้นสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกระทรวงการต่างประเทศ จะตรวจสอบคุณสมบัติและยืนยันให้ กฟภ. ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ ซึ่งก็คือการไฟฟ้าไทยขายให้กับการไฟฟ้าเมียนมา แต่ไปส่งใคร มันเกินอำนาจอธิปไตยไทย แต่มีเงื่อนไขในสัญญาว่าต้องนำไปใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์
ส่วนที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการขายไฟให้กับบริษัทที่ทำคอลเซ็นเตอร์ นายอนุทินตอบโต้ว่าจะได้เป็นข่าว ไม่ทำงานก็แค่นั้นเอง ส่วนเราก็ชี้แจงไปเท่านั้นตอบไป 3 รอบแล้ว ถ้าขายให้คอลเซ็นเตอร์ คนที่ขายก็ไม่ใช่ กฟภ. จึงไม่ใช่หน้าที่ตน หรือหน้าที่ ของ กฟภ. ที่จะต้องไปตรวจสอบ เพราะมันเกิดขึ้นในประเทศของเพื่อนบ้าน
และพอถามว่านายรังสิมันต์ บอกทางการไทยไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทคู่สัญญา นายอนุทิน ก็บอกว่าจะไปตรวจสอบลิงที่ไหน รัฐบาลเมียนมายืนยันมาแล้ว ต้องเชื่อการรับรองจากรัฐบาลเมียนมา ถ้าทุกอย่างมีมาครบ เพราะฉะนั้นเรื่องตรวจสอบ ผู้มีหน้าที่ก็ตรวจสอบ ถ้าพบกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องแจ้งกลับไปว่า บริษัทที่รับรอง ทำสแกมเมอร์ ให้กลับไปดูแลเท่านั้น ส่วนเรื่องที่บอกว่า สมช.ยอมารับกิจการตามแนวชายแดนเป็นภัยความมั่นคงนั้น ก็เป็นเรื่อง สมช.ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพราะได้ขายไฟฟ้าผ่านรัฐบาลเมียนมา
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพราะนี่กระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่กระทรวงมหาดพม่า”