• Urban Culture
  • Original
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Good
  • Editir pick
  • Home
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • People Voice
  • Home
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

สกัด “พิรงรอง” ส่อสำเร็จ! “จรัญ” ชี้ขาด 7–6 ใช้ ม.15 บีบออกจากห้องประชุม โหวตกลับเข้าต้องได้ 2 ใน 3 เสียง

16/05/2025

คมสัน โพธิ์คง ชี้ “อภัยโทษทักษิณ” ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากศาลเห็นว่าไม่ได้รับโทษจำคุกตามกฎหมาย

16/05/2025

เตือน รมว.สธ. ถ้าไม่อยากติดคุก หยุดแทรกแซงผลสอบแพทยสภา 

16/05/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»News»CIB รวบนายร้อยปอยเปต แก๊งคอลข้ามชาติ ทำเหยื่อสูญเงินกว่า 4 ล้านบาท
News

CIB รวบนายร้อยปอยเปต แก๊งคอลข้ามชาติ ทำเหยื่อสูญเงินกว่า 4 ล้านบาท

03/02/20251 Min Read
Facebook Twitter

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. นำทีมโดย พ.ต.ท.ภัททสักก์ ธนสุกาญจน์, พ.ต.ท.เอกพล แสงอรุณ รอง ผกก.1 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. เข้าจับกุม นายรามิลฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4557/2567 ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 (สน.พญาไท) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” จับกุมได้ที่บ้านพัก หมู่ 1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และนายธนาวุฒิฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.153/2568 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้ที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” จับกุมได้ที่บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

คดีนี้สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1 บก.ปอท. ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาข่มขู่ผู้เสียหาย โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่างๆ มาให้ผู้เสียหายดูจนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ต่อมาคนร้ายจึงได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิด ตามนโยบายเชิงรุกของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ดำเนินการกวาดล้างขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นภัยอาชญากรรมที่ก่อความเสียหายต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง และเน้นย้ำให้มีการเตือนภัยรูปแบบการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกับเปิดเผยโฉมหน้าของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่แต่งกายเลียนแบบตำรวจ ข่มขู่ประชาชนให้ได้รับความเสียหาย เผยแพร่เป็นเบาะแสให้กับประชาชนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และสื่อต่างๆ จากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์และฐานข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันนี้มากถึง 163 เคส เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งรัดดำเนินการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนภายหลังสามารถระบุตัวคนร้ายที่แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกลวงผู้เสียหาย จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายตามหมายจับดังกล่าว

ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดยนายรามิลฯ สารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นสาย 1 ในการติดต่อเหยื่อจากระบบ Sim Box ส่วนนายธนาวุฒิฯ สารภาพว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลเพื่อหลอกลวงเหยื่อจริง มีคำเตือนจากตำรวจสอบสวนกลางให้ประชาชนพึงระลึกไว้เสมอว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จะไม่ทำ 3 สิ่ง ดังนี้

  1. จะไม่ติดต่อทางไลน์ หรือวิดีโอคอล เพื่อสอบปากคำ หรือแจ้งข้อกล่าวหา
  2. ไม่มีการให้ผู้เสียหายโอนเงิน หรือทรัพย์สิน มาตรวจสอบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
  3. ไม่มีการส่งเอกสารราชการทางไลน์ เช่น หมายเรียก หมายจับ
#ThePublisher สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
Writer Publisher

Related Posts

“ปั๊มเงินเอง” ธีระชัยชี้อันตราย G-Token ส่งจดหมายเปิดผนึกเตือนเสี่ยงผิด พ.ร.บ.เงินตรา

By Writer Publisher16/05/2025

“ดี้ นิติพงษ์” สะท้อนภาพวงการผ้าเหลือง ประหลาดใจแกมเศร้า ‘ภิกษุสมัยนี้ ควรต้องเป็นอย่างไร’

By Writer Publisher16/05/2025

ศาลออกหมายจับ “เปรมชัย” กับพวก 17 คน คดีตึกก่อสร้าง สตง.ถล่ม

By Writer Publisher15/05/2025

กรณ์ สะกิดรัฐบาล “G-Token” คือพันธบัตรแปลงร่าง ชี้กฎหมายไม่รองรับตรง แต่อาจไม่ผิดหากใช้อย่างมีขอบเขต เตือนอย่าทำให้เหรียญนี้ “กลายเป็นเงิน” ถามกลับประชาชนได้ประโยชน์จริงหรือ?

By Writer Publisher15/05/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

สกัด “พิรงรอง” ส่อสำเร็จ! “จรัญ” ชี้ขาด 7–6 ใช้ ม.15 บีบออกจากห้องประชุม โหวตกลับเข้าต้องได้ 2 ใน 3 เสียง

16/05/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo