ยังคงเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจกับประเด็น The Icon Group ซึ่งมีผู้เสียหายนับร้อยคนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และทาง ผบ.ตร.ก็เดินเกมเร็วสั่งให้ตำรวจรับแจ้งความกับผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงเปิดสายด่วน 1559 เป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลด้วย นอกจากนี้ยังมีการส่งหนังสือไปยัง ป.ป.ง. ดำเนินคดีกับดิไอคอนกรุ๊ป สามข้อหาหนักด้วย
The Publisher ได้สัมภาษณ์นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน หรือ สคช. เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่จะเอาผิดบริษัทฯ ท่านบอกว่าต้องพิจารณาต้องข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำผิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฉ้อโกง หรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ล้วนมีโทษทางอาญาติดคุกทั้งสิ้น พร้อมเตือนประชาชนต้องไม่อยู่ในวังวนความโลภเพราะกลายเป็นกับดักที่ทำให้เกิดความเสียหาย
“อะไรก็ตามถ้าเราไม่โลภเขาหลอกเราไม่ได้หรอกครับ ถ้าเรามีชีวิตอยู่บนพื้นฐานความจริงต้องคิดผลประโยชน์ตอบแทนสูงมีอยู่จริงหรือ บทเรียนตั้งแต่แชร์ชม้อย ทำไมไม่เอาประวัติศาสตร์คดีมาคิดมามีสติตรึกตรองว่าอยากได้เงินเขาเงินเราสูญหรือไม่ กำไรเยอะมีจริงอยู่เท่าไหร่ ถ้าเยอะเกินมันผิดกฎหมายทั้งนั้น ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย เพราะเป็นโลกการแข่งขัน สิ่งที่เรามึความสุขไม่ได้อยู่กับความหรูหรา ความสุขที่แท้จริงคือการทำประโยชน์ให้สังคม พอเพียงเราย้อนกลับมาอยู่แบบนี้จะเป็นภูมิคุ้มกันไม่ถูกหลอก”
นายโกศลวัฒน์ กล่าวด้วยว่า อย่าคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดกับเรา เวลาเจอจะได้มีสติ เงินสุจริตหายากต้องรักษาไว้ ถ้ามีความสนใจอยากลงทุนแล้วไม่แน่ใจว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ สามารถโทรสอบถามสายด่วนอัยการที่ 1157 เวลาราชการ ซึ่งตามสถิติก็มีการปรึกษาเข้ามาอยู่ตลอด รวมถึงมีดาราขอคำปรึกษาด้วยในเรื่องที่จะไปพรีเซ็นเตอร์ เป็นประเด็นที่ต้องระวังเพราะจะบอกไม่รู้ไม่ได้เมื่อมีปัญหา จึงต้องตรวจสอบสคริปต์ที่ผู้ว่าจ้างให้พูดให้ดีด้วย
ส่วนกรณีที่ทางบริษัทฯ มีการออกมาตัดตอนว่า 3 บอสดาราดัง กันต์ กันตถาวร มิน พีชญา , แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้น ไม่มีอำนาจลงนามนั้น อธิบดีอัยการ สคช. ชี้ว่ายังไม่สามารถพ้นผิด กรณีที่พบว่าผิดจริง เพราะคำเรียกว่าบอสเข้าใจกันดีว่าหมายถึงเจ้านาย นายจ้าง และเจ้าตัวก็ยอมรับคำเรียกนั้นไม่ปฏิเสธ ตามกฎหมายแพ่งมีเรื่องของตัวการและตัวแทนเชิดอยู่ด้วย ส่วนกรณีนี้จะเข้าข่ายไหนก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
สำหรับกรณีสองดาราดังคือ บอย ปกรณ์ กับโดม ปกรณ์ลัม ที่ทางบริษัทฯ ก็ออกมาปกป้องว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์สินค้าเท่านั้น ก็ยังต้องตามดูต่อด้วยว่า สคริปต์ที่พูดมีข้อความผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีผิดกฎหมายจะปฏิเสธว่าไม่รู้ เพื่อให้พ้นผิดทางกฎหมายไม่ได้