• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»News»มนุษยธรรมค้ำคอ! รพ.ชายแดนระส่ำ งบดูแลผู้ลี้ภัย 200 ล้านต่อปี “หมอธวัชชัย” ชี้ เรื่องระดับชาติ รัฐต้องเร่งแก้
News

มนุษยธรรมค้ำคอ! รพ.ชายแดนระส่ำ งบดูแลผู้ลี้ภัย 200 ล้านต่อปี “หมอธวัชชัย” ชี้ เรื่องระดับชาติ รัฐต้องเร่งแก้

05/02/20252 Mins Read
Facebook Twitter

หลังเกิดไวรัลแชร์ต่อโพสต์ของ “หมอเบียร์” พญ.ณัฐกานต์ ชื่นชม อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.แม่สอด ความว่า “ผู้บริหารบอกว่าให้หมอเบียร์รับตรวจเคสวัณโรคกับเอชไอวีในศูนย์อพยพ เพราะ รพช. ไม่สามารถดูแลได้ จะให้รถโรงพยาบาลไปรับคนไข้เอามาให้ตรวจที่แม่สอด โดยไม่ดูภาระงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลย ไม่ผิดคาดนะ ที่จะเป็นแบบนี้ เบียร์คิดมาหลายวันแล้ว… ให้เวลาอีกครึ่งวัน ถ้าผู้บริหารยังไม่เปลี่ยนแนวคิด จะไปเขียนใบลาออกราชการวันนี้แหละ อายุราชการ 20 ปีก็อุทิศตนมามากพอละ ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ไม่ทำเพื่อผู้อื่น บอกอยู่ตลอดว่าศูนย์อพยพเป็นเรื่องของประเทศไทย ไม่ใช่สาธารณสุขท้องถิ่น คนไทยชายแดนเสียประโยชน์มาเยอะแล้ว ได้รับบริการช้า เสียเวลารอนาน ยังต้องแบ่งหมอของพวกเขาไปให้คนอื่นอีกหรอ ส่วนกลางโน่นต้องมาจัดการ”

เธอย้ำด้วยว่า “เรื่องของการจัดการค่ายผู้อพยพไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขท้องถิ่น แต่เป็นเรื่องระดับชาติ เป็นเรื่องการจัดการของรัฐบาล การแก้ไขกฎหมาย การผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศเดิม”

ทำเอาชาวเน็ตว้าวุ่นแสดงความเห็นกันจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เห็นใจหมอชายแดนที่ต้องรับภาระหนัก และตั้งคำถามว่า ประเทศไทยจะทำตัวเป็น “ม้าอารี” ที่สุดท้ายอาจลำบากเพราะกลายเป็น “เตี้ยอุ้มค่อม” ไปถึงเมื่อไหร่ ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการจัดการอย่างไร รัฐบาลมีมาตรการอะไรมารองรับ หลัง “ทรัมป์” ประกาศนโยบายไม่ให้เงินช่วยเหลืออีกต่อไป จนต้องปิดรพ.สนามค่ายผู้ลี้ภัย และเปิดระบบดูแลผู้ป่วยในส่วนโรงพยาบาลของไทย 5 แห่งไปทดแทน ประกอบด้วย รพ.อุ้มผาง ดูแลศูนย์พักพิงนุโพ รพ.พบพระ ดูแลศูนย์พักพิงอุ้มเปี้ยม รพ.ท่าสองยาง รพ.แม่ระมาด และรพ.แม่สอด ดูแลศูนย์พักพิงแม่หละ โดยรพ.แม่สอด จะเป็นฝ่ายสนับสนุนให้กับทุกโรงพยาบาล

The Publisher ได้พูดคุยกับ คุณหมอธวัชชัย ยิ่งทวีศักดิ์ ผอ.รพ.ท่าสองยาง หนึ่งในห้าโรงพยาบาล ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในที่มีอาการทั่วไป รวมถึงการทำคลอดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุถึงปัญหาภาระงานที่ล้นเกินในบางโรงพยาบาลว่า อาจแก้ปัญหาด้วยการที่จะมีระบบคัดกรองบางโรคอาจไม่ต้องให้แพทย์ตรวจเอง ซึ่งจะต้องมีการส่งต่อที่เหมาะสม และกระจายงานอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้มีการส่งต่อผิด เว้นแต่มีเคสหนักจึงจะส่งมาที่โรงพยาบาลท่าสองยาง ปัจจุบันมีเคสที่ต้องแอดมิทโรงพยาบาล 10 กว่าราย เมื่ออาการดีขึ้นก็ส่งกลับ สถานการณ์ก็ยังไม่ถือว่าตึงตัวมาก ประเทศไทยคงต้องมาดูแลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงชายแดนเกี่ยวกับสุขภาพที่อาจกระทบกับคนไทยด้วย ถ้าจะแก้คงต้องให้บุคลากรทางการแพทย์ของเมียนมาดูแลคนของเขาเอง และเราก็สนับสนุนในส่วนที่เขาขาด เช่น ยา เวชภัณฑ์ งบประมาณบางส่วน เพราะลำพังบุคลากรของเราก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว ตอนนี้เราก็ต้องแบกรับทั้งคนไข้ที่มาคลอด คนไข้หนัก และคนไข้ที่ต้องรับยาวัณโรค ยาต้านไวรัส HIV ซึ่งรพ.ฯ มีผู้ต้องรับยาวัณโรค 10 กว่าราย ยาต้านไวรัส HIV ประมาณ 140 รายที่น่ากังวลคือถ้าเราไม่ดูแลเขา เชื้อพวกนี้อาจดื้อยา เช่นวัณโรคจากค่ารักษาสามพันจะเพิ่มไปเป็นหลักแสน หรือหลักล้าน และหากดูแลไม่ดีเชื้อแพร่ไปที่คนไทย ผมว่าเราจะเปลืองทรัพยากรมากกว่าเดิม เรื่องพวกนี้ต้องดูแลด้วยแต่ถ้าเราต้องดูแลทั้งหมดคงทำไม่ไหว เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน

“ที่บอกว่าเราเตี้ยอุ้มค่อม ยังดูแลคนไทยไม่ทั่วถึงเลย ก็อาจจะมองแบบนั้นได้ หากประเมินงบที่ต้องใช้โดยใช้บัตรทองเป็นฐานคือ 2 พันบาทต่อหนึ่งคน ปัจจุบันมีผู้อพยพราว 1 แสนคน ก็จะต้องใช้งบประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี อันนี้คือคิดขั้นต่ำ แต่ในเรื่องศูนย์อพยพมันชื่อศูนย์พักพิงชั่วคราว แต่ผมมาอยู่ 20 กว่าปี มันไม่ชั่วคราวจริง การส่งกลับเมียนมาหรือส่งไปประเทศที่สามมีน้อยมาก ถ้าเขาออกไปไม่ได้ จะให้เขาอยู่ในไทยอย่างไร เช่น ให้เขาทำงานได้จะได้มีประกันสุขภาพ ใช้แรงงานให้เป็นประโยชน์ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องให้เขาออกจากประเทศไทยไปให้หมด ส่วนตัวผมคิดว่าเราต้องยอมรับความจริงว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งเขาออกไปนอกประเทศ จึงน่าจะจัดการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องเพราะเราก็ขาดแคลนแรงงานอยู่ เนื่องจากประชากรวัยทำงานลดลง ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้เขามีสิทธิเท่าคนไทย แต่ให้เป็นแรงงานที่ทำประโยชน์ให้เราได้ แทนที่เราจะต้องไปดูแลเขาทั้งหมด น่าจะเป็นทางออกที่ดี“ ผอ.รพ.ท่าสองยาง กล่าว

คุณหมอธวัชชัย กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 7 ก.พ.68 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะประชุมร่วมกันที่รพ.แม่สอด รวมถึง NGO ในพื้นที่ที่ตอนนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว หลัง “ทรัมป์” ประกาศตัดความช่วยเหลือ โดยแนวทางหนึ่งที่อาจต้องดำเนินการคือ การตั้งกองทุนขอบริจาคเพื่อระดมทุนเข้ามาจากคนที่อยากช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

อย่างไรก็ตามยังคิดว่าสถานการณ์อาจคลี่คลายไปได้จากการเจรจาต่อรอง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทางการไทยจะมีศักยภาพต่อรองกับ “ทรัมป์” ได้หรือไม่ เพราะเขาเป็นประเทศใหญ่ อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ได้กระทบกับประเทศไทยเท่านั้น แต่กระทบไปหลายประเทศ “ถ้าผมเป็นตัวแทนรัฐบาลก็คงต่อรองว่า ภายในกี่ปีจะสามารถปิดศูนย์เหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากเขาอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าเรามีอำนาจไปต่อรองกับเขาได้มากน้อยแค่ไหน ผมก็ยังมองว่าเมื่อเขาอยู่ในประเทศไทยก็ต้องให้ความช่วยเหลือ ช่วยไม่ไหวต้องร้องขอไปยังประเทศที่ช่วยได้ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้ เราเรียนมาให้ดูแลผู้ป่วย ไม่ใช่เรียนมาให้ทอดทิ้ง ต้องช่วยกันหาทาง ทำไม่ไหวก็ต้องให้คนที่มีศักยภาพมาทำ ถ้าเขาดูแลกันเองก็น่าจะดี ถ้าจ้างเอาท์ซอรส์ หมอ พยาบาลเมียนมามาดูแลระบบเหล่านี้อย่างน้อยสามเดือนก็อาจจะช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ของเราได้ หากไม่มีปัญหาเรื่องระเบียบการจ้าง การดำเนินการก็ยังติดเรื่องงบประมาณ เพราะถ้าจะให้รพ.สำรองจ่ายไปก่อน สถานะทางการเงินของ รพ.ก็ไม่ค่อยดีครับ”

เมื่อถามว่ารัฐมีการจัดงบประมาณให้หรือยัง หรือให้รพ.ไปตายเอาดาบหน้า คุณหมอธวัชชัย กล่าวว่า รัฐบาลให้เก็บข้อมูลว่าดูแลคนไข้กลุ่มนี้ไปเท่าไหร่ และยังไม่ทราบแผนว่าจะมีการสนับสนุนกลับมาอย่างไร เบื้องต้น รพ.ท่าสองยาง อาจต้องทำเรื่องขอยืมเงินจากรพ.แม่สอดซึ่งเป็นแม่ข่ายและสถานะการเงินยังดีอยู่ จากนั้นรัฐบาลควรมีแนวทางช่วยเหลือรพ.ที่ต้องรับภาระโดยเร่งด่วน

#interview #interviews #ThePublisher รพ.ท่าสองยาง สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม หมอธวัชชัย หมอเบียร์
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo