น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ถึงคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่สั่งจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ศ.เกียรติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช. ปมออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกบนแพลตฟอร์มทรูไอดี ว่า ที่ผ่านมามีความพยายามใช้กฎหมายเพื่อหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เป็นหนึ่งในวิธีการที่มักใช้เพื่อฟ้องปิดปาก หรือที่เรียกว่า SLAPP โดยเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสมควรที่เจ้าหน้าที่รัฐในฐานะผู้คุมกฎจะถูกฟ้องลักษณะนี้ ควรมีกฎหมายคุ้มครองเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ ไม่เช่นนั้นในอนาคตเราคงไม่สามารถเห็นองค์กรอิสระทำงานอย่างเข้มแข็งอีกต่อไป หากต้องมากังวลว่าจะถูกผู้ที่ตัวเองกำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็นเอกชน หรือ ประชาชน จากการถูกฟ้องกลับ
“กฎมัสต์แครี่ที่เป็นต้นตอทำให้เกิดการฟ้องร้อง จำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย เท่าทันต่อเหตุการณ์ เพราะเอกชนก็ถือว่าตัวเองไม่ได้ถือใบอนุญาต แต่เหตุของคดีเป็นแค่การส่งหนังสือเตือน ซึ่งเขาทำไป 127 รายจึงเห็นว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ ที่อ้างว่าบริษัทเกิดความเสียหาย ขาดรายได้ตามมา เพราะบ.ก็สามารถชี้แจงได้ แต่เข้าใจว่ามีการเล่นเรื่องอคติและไม่เป็นกลาง โดยกล่าวอ้างถ้อยคำในบันทึกการประชุม ซึ่งพิสูจน์ได้ยาก จึงกังวลและสงสัยว่าศาลฯ สามารถพิจารณาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดถึงขั้นไม่รอลงอาญา คงต้องดูคำพิพากษาฉบับเต็มว่าเอาถ้อยคำแบบไหนมาตัดสินความเป็นอดคติและไม่เป็นกลาง”
น.ส.ศิริกัญญา เชื่อว่า ศ.เกียรติคุณ ดร. พิรงรอง อาจตกเป็นเป้าจากการทำหน้าที่โดยเป็นเสียงข้างน้อยคัดค้านการควบรวมระหว่างทรูกับดีแทค ซี่งก่อนหน้านี้บ.ดังกล่าวก็ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยการใช้ถ้อยคำว่า เป็นหนึ่งในกรรมการเสียงข้างน้อยที่ให้ยับยั้งการควบรวม รวมกับเหตุอื่น ๆ ที่เคยไปแถลงข่าวในกรณีควบรวมทรูดีแทค จึงตั้งข้อสงสัยว่ามีความเป็นอคติ ไม่เป็นกลาง จึงหาทางกลั่นแกล้งหรือไม่ แต่คดีนี้ศาลฯ ก็ยกฟ้อง แต่กรณีนี้ศาลฯ กลับตัดสินว่ามีความผิด จึงดูย้อนแย้ง แต่ก็พูดไม่ได้มากจนกว่าจะเห็นคำพิพากษาฉบับเต็ม
“มีปัญหาข้อกฎหมายที่อาจทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ต้องปรับแก้และต้องสร้างกลไกคุ้มครองการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ให้ถูกฟ้องแบบนี้ เข้าใจว่า ป.ป.ช.กำลังร่างกฎหมายต่อต้านการฟ้องปิดปากช่วยคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐ อยู่ในชั้นกฤษฎีกา ภาคประชาชนก็เคยถูกฟ้องปิดปาก พรรคประชาชนก็กำลังร่างกฎหมายนี้เพื่อไม่ให้มีการฟ้องหมิ่นประมาทกรณีที่ทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ เช่นกรณีนี้คือการคุ้มครองผู้บริโภค ผลจากคำพิพากษานี้จะทำให้การคุ้มครองผู้บริโภคและคนทำงานยากขึ้น เพราะการพิจารณาวาระต่าง ๆ ของ กสทช.ที่เกี่ยวกับบ.ทรู อ.พิรงรองก็ไม่ได้อยู่ร่วมพิจารณา เป็นผลขั้นต้นที่เกิดขึ้น และต่อไปนี้ใครอยู่ในบอร์ดองค์กรอิสระ ต่อจากนี้ก็คงหนาว ๆ ร้อน ๆ ในการกำกับดูแลเรื่องการแข่งขันของเอกชน เพราะมีความเสี่ยงที่อาจถูกฟ้องร้อง โทษถึงจำคุกไม่รอลงอาญาด้วย ทำให้หลายคนคงไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ สส.ก็กังวลด้วยเช่นเดียวกัน” รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวทิ้งท้าย