เป็นผลพวงหลังบริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้อง ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา
โดยคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ย้ำทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ยึดมั่นในหลักการและปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของสาธารณะ โดยระบุได้ตระหนักดีว่าไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาล แต่ในฐานะสถาบันการศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ก็ไม่อาจนิ่งเฉย เนื่องจากประเทศไทยได้ต่อสู้ขับเคลื่อนเรื่องปฏิรูปสื่อมาอย่างยาวนาน กระทั่งมีองค์กรอิสระกำกับดูแลสื่ออย่าง กสทช. ซึ่งสังคมคาดหวังให้มีความเป็นอิสระจากอำนาจรัฐและอำนาจทุน เพื่อกำกับดูแลสื่อให้เป็นไปตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ มีความรับผิดชอบต่อสังคม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้บริโภคสื่อ
พร้อมเห็นว่าสภาพการณ์ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ไม่สามารถรองรับได้ทัน จนเกิดปัญหาต่อระบบอุตสาหกรรมสื่อและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิผู้บริโภคสื่อ โดยอาศัยความได้เปรียบที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของ กสทช. ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อและประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ
และวันนี้คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ก็จัดกิจกรรมด่วนทั้งกากตอกย้ำแถลงการณ์ และจัดเสวนา นำโดยคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ นายธงทอง จันทรางศุ และอดีต กสทช.นักกฎหมาย และคนในวงการสื่อฯ
ขณะที่คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนสนับสนุน ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรองเช่นกัน โดยเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ควรเป็นไปตามหลักนิติธรรม และมีความเป็นอิสระ เพื่อปกป้องสิทธิการสื่อสารขั้นพื้นฐาน เสริมสร้างระบบการสื่อสารที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ นอกจากนี้เชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นหลักประกันสำคัญในการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต และสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชนต่อไป
.