• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»News»บทเรียน “พิรงรอง” เมื่อกฎหมายตามไม่ทันธุรกิจ และคนในกลายเป็นหนอน
News

บทเรียน “พิรงรอง” เมื่อกฎหมายตามไม่ทันธุรกิจ และคนในกลายเป็นหนอน

07/02/20252 Mins Read
Facebook Twitter

คดีศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ ที่บริษัท ทรู ดิจิทัล ฟ้องร้อง ในความผิดตามมาตรา 157 และศาลพิพากษาจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ยังมีมุมที่ต้องพูดถึงต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อดูเนื้อในคำพิพากษา และท่าทีของ กสทช. นายคมสัน โพธิ์คง นักกฎหมายมหาชน ซึ่งร่วมถอดรหัสเรื่องนี้ในรายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง ที่มีคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร เป็นผู้ดำเนินรายการ บอกไว้เลยว่า “คนใน รักองค์กรธุรกิจมากกว่าองค์กรตัวเอง”

คมสัน : เรื่องนี้มีปัญหาที่การตีความว่า OTT หรือการให้บริการเนื้อหาเช่น ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช.หรือไม่ เมื่อมีปัญหาแบบนี้ กฎหมายตามไม่ทัน ก็ต้องพูดถึงการปรับแก้กฎหมายให้ครอบคลุมถึงกิจการประเภทนี้ด้วย เพราะการกระทำที่อาจารย์พิรงรองกระทำถือเป็นมีเจตนาที่ดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ กรณีนี้คือผู้บริโภค เมื่อความหมายในแง่ของกิจการประเภทนี้ไม่รวมถึง กสทช.ต้องไปหามาตรการในเรื่องนี้

เพราะกฎหมายการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ มีหลายเรื่องที่คุ้มครองผู้บริโภค แต่กฎหมายฉบับนี้มีมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งน่าจะตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีไม่ทัน ดังนั้นการไปตีความเรื่องการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ให้กว้างออกไป ศาลอาจจะมองว่าเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ กลายเป็นเรื่องมองว่าอาจมีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ที่สำคัญมีข้อเท็จจริงว่ามีการนำรายงานการประชุมออกมา กล่าวถึงเช่นเรื่องล้มยักษ์ เลยทำให้ศาลมองได้ว่า กลายเป็นเรื่องเจตนากลั่นแกล้งได้ อันนี้ต้องระมัดระวังสำคัญคนที่ต้องใช้อำนาจด้วย

The Publisher : เรื่องนี้สะท้อนด้วยว่าคนใน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ความใน ในการประชุมไปหมดเลย

คมสัน : มันเป็นทุกองค์กร ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ มีคนในที่ซื้อได้ขายได้ เพียงแต่ว่าผู้ใช้อำนาจหน้าที่ต้องระมัดระวังในการใช้อำนาจหน้าที่

The Publisher : เรื่องนี้มี 2 มุมคือคนทั่วไปเห็นว่าอาจารย์พิรงรองมีเจตนาดีช่วยคุ้มครองผู้บริโภค แต่คำพิพากษาศาลก็สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานบางอย่างต้องระมัดระวังมากกว่านี้หรือเปล่า แต่คำว่าล้มยักษ์ ตลบหลัง มันมีความหมายถึงขั้นชี้ให้เห็นได้ว่าเป็นเรื่องกลั่นแกล้งหรือไม่

คมสัน : มันถูกตีเจตนาอย่างนั้นได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเจตนา แต่การพูดออกมา มันทำให้เห็นว่า เขาอาจมีอคติกับองค์กรที่กล่าวถึง เมื่อมีอคติ พอถึงเวลาวินิจฉัยก็ถูกมองว่ามีเจตนากลั่นแกล้งหรือเปล่า เรื่องเหล่านี้ไม่มีหลักเกณฑ์กิจการประเภทนี้ การใช้อำนาจต้องดูว่ากฎหมายตามทันหรือไม่ และในเหตุผลคำพิพากษาก็เหมือนกับว่าเมื่อกฎหมายไปไม่ถึง แม้จะมีเจตนาดี แต่อาจเป็นการใช้อำนาจเกินเลย พ.ร.ป.
การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ได้

ดังนั้นการจะใช้อำนาจอะไร การแสดงออกมากับสิ่งที่อยู่ในใจ ต้องระมัดระวัง เพราะว่าในองค์กรประเภทนี้ผลประโยชน์สูง เป็นไปได้ว่าคนภายในรักองค์กรธุรกิจมากกว่ารักองค์กรตัวเอง มันเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะคนไทยเรื่องความซื่อสัตย์ในการทำหน้าที่แบบนี้เป็นปัญหา

The Publisher : เมื่อกฎหมายเป็นแบบนี้ จะมีอะไรมาคุ้มครองผู้บริโภค


คมสัน : ผมว่า เมื่อถึงจุดๆ นี้ต้องแก้ไขกฎหมายการประกอบวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ จะปล่อยให้กิจการประเภทนี้ (OTT) อิสระไม่ได้ เพราะมันเป็นกิจการประเภทสื่อที่เป็นกิจการโทรทัศน์ กิจการกระจายเสียง เมื่อกฎหมายคุมไม่ถึง ก็แก้กฎหมายให้ควบคุมได้ และ กสทช.ต้องหามาตรการ ไม่ใช่ปล่อยให้กิจการประเภทนี้ขึ้นมา โดยไม่คุ้มครองผู้บริโภค

ถือกฎหมายไม่ทันก็ต้องแก้กฎหมายนี่คือหลักการ กฎหมายมหาชนแม้จะมีเจตนาดี แต่ใช้อำนาจเกินไป อาจถูกมองได้ว่า ใช้อำนาจเกินขอบเขตและทำให้ผู้กระทำต้องรับผิดทางอาญาได้

The Publisher : กสทช.ที่ควรมีหน้าที่ตรงนี้ แต่กลับไม่ออกกฎหมายควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่คนหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่าทีวีแล้ว

คมสัน :ใช่ เดี๋ยวนี้ไม่ได้ดูทีวี แต่สะดวกดูแพลตฟอร์มนี้มากกว่า แต่ตัว กสทช.อาจคาดไม่ถึงว่าจะมีกรณีแบบนี้ ดังนั้นตัวสำนักงานควรจะส่งเรื่องให้พิจารณาว่าเกิดปัญหาทางกฎหมาย ควรจะแก้ไขกฎหมาย เมื่อแก้ไขกฎหมาย กสทช.ต้องยื่นเรื่องนี้ไปสู่รัฐบาล และรัฐสภา เปิดรับฟังความเห็น และออกมาตรการมา แต่ไม่ใช่ออกมาตรการเองโดยกรรมการคนใดคนหนึ่ง ไม่เช่นนั้นการใช้อำนาจเกินขอบเขตกฎหมายจะเกิดปัญหาจะตกอยู่ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจได้ เมื่อเกิดปัญหา กสทช.ต้องคุยกันแล้วว่าต้องแก้ปัญหาหรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้น แต่ไม่ดำเนินการแก้ไข ถึงแม้เรื่องความรับผิดของอาจารย์พิรงรอง จะเกิดขึ้นก็ตามแต่เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

อีกอย่างกิจการประเภทนี้ (OTT) ถ้าไม่ถูกควบคุมเลย จะมีผลต่อเรื่องความมั่นคงของชาติด้วยนะ ถ้าเป็นเรื่องที่โน้มน้าวจิตใจผู้คน ไปสู่การปกครองอีกแบบหนึ่ง นำไปสู่การบ่อนทำลายประเทศตัวเอง ผมคิดว่ากิจการประเภทนี้ต้องถูกควบคุม กสทช.ต้องรีบทำ ถ้าปล่อยไปจะเป็นปัญหาระยะยาว ยิ่งตอนนี้คนรู้ว่า กสทช. ไม่มีอำนาจ ยิ่งมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดเสียหายต่อ กสทช. ประชาชน และรัฐได้

The Publisher : แต่ตอนนี้ยังไม่เห็น กสทช.ขยับเลย เห็นแต่ให้สัมภาษณ์ของประธาน กสทช.บอกจะไปคัดสำเนาคำพิพากษาและจะส่ง ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาว่าอาจารย์พิรงรองผิดจริยธรรมหรือไม่

คมสัน :อันนี้คงมีปัญหาภายใน กสทช.กันแล้วละ เป็นความขัดแย้งกัน คนในองค์กรเดียวกันเขาจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ เขาจะดูให้ดีก่อน ในแง่คำพิพากษาอย่างไร การส่งให้ตรวจสอบจริธรรมโดยไม่มีผู้ร้องเขาไม่ทำกัน อันนี้สะท้อนว่ามีปัญหาภายในกัน

The Publisher : ก่อนหน้านี้มียื่นคำร้องขอให้อาจารย์พิรงรองหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีข้อมูลจากองค์กรของผู้บริโภคเผย กสทช.เจรจาให้อาจารย์ลาออก จะถอนทุกคดี มองปรากฎการณ์นี้อย่างไร

คมสัน : ปรากฎการณ์เช่นนี้ก็อย่างว่า กรรมการมาจากดาวคนละดวง ต่างสาขา มาอยู่ร่วมกัน อาจมีความคิดไม่ตรงกัน ผมคิดว่าตัว กสทช.ก็ละเว้นฯ เช่นกันที่จะคุ้มครองผู้บริโภค หลักการตามรัฐธรรมนูญมีอยู่ ถ้ากฎหมายไม่สอดคล้อง หรือกฎหมายไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ รัฐธรรมนูญวางหลักการแก้ไขได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาดำเนินการแบบนี้

The Publisher : หมายถึงมองว่า สิ่งที่ กสทช.ควรทำคือจะปรับปรุงกฎหมายอย่างไร เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ใช่คิดจัดการอาจารย์พิรงรอง

คมสัน : ใช่ ผมมีความเห็นอย่างนั้น เพราะมันแสดงเจตนาชัดไปว่าฉันมีความขัดแย้งภายใน อีกอย่างหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ดำเนินการทำให้กระบวนการดูแลประชาชน ดำเนินการได้ ถ้ากรณีนั้นเกิดขึ้นจากกฎหมายมีข้อบกพร่อง คิดว่า กสทช.ต้องใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง กสทช.มีอำนาจหน้าที่แบบนี้ ในหมวดอำนาจหน้าที่ของรัฐ เป็นหน้าที่ต้องดำเนินการ

The Publisher : ตอนนี้ กสทช.ทำหน้าที่ของตัวเองได้เพียงพอหรือไม่

คมสัน : ถ้ามันดี จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นี่คือปัญหาว่าได้ทำหน้าที่ยัง กสทช.ไม่ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค คุ้มครองประชาชนในเรื่องเหล่านี้

The Publisher : ถ้าไม่กำกับดูแลแพลตฟอร์มเหล่านี้ กลายเป็นมีอำนาจมากกว่าผู้บริโภค และ กสทช.ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจกำกับ

คมสัน : ใช่ นี่คือปัญหา ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ และรัฐธรรมนูญวางหลักการเรื่องการประกอบวิชาชีพสื่อ มีกระบวนการในการควบคุม เพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคงรัฐ คุ้มครองผู้บริโภค และสิทธิเรื่องข้อมูลข่าวสาร เมื่อมีปัญหากฎหมายมันไปไม่ถึง ก็ต้องดำเนินการให้กฎหมายไปถึงประเด็นที่เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะกฎหมายตามเทคโนโลยีไม่ทันหรอก เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายต้องติดตามสถานการณ์ของสังคม และความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและสังคมต่างๆ ว่า กฎหมายที่ตนมีหน้าที่ดูแลบังคับนั้นมีช่องว่างทางกฎหมายเกิดขึ้นหรือไม่ ก่อให้เกิดปัญหากระทบสิทธิประชาชน ผู้บริโภค นอกเหนือจากผู้ประกอบการแค่ไหน ต้องไปหามาตรการป้องกันปัญหา แก้ไขเยียวยา แก้ไขกฎหมายเป็นเรื่ององค์กรผลักดันแก้ไขกฎหมายเหล่านี้ให้ได้ ส่วนรัฐสภาจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถือว่าได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วน

The Publisher : เรายังคาดหวังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรต่างๆ ดำเนินการเรื่องนี้ เพราะมักเกิดคำถามว่า องค์กรที่มีหน้าที่ไปเอื้อประโยชน์อะไรหรือเปล่า

คมสัน : ก็เป็นแบบนี้เยอะ มีองค์กรอิสระ มีองค์กรต่าง ๆ แต่ก็ไม่ทำหน้าที่เท่าที่ควร ไม่ได้มีแค่ กสทช.ที่เป็นปัญหาแบบนี้ กสทช.เป็นเรื่องซับซ้อนเพราะเกี่ยวกับเทคโนโลยีค่อนข้างเยอะ องค์กรอื่นอย่าง กกต.ผมนึกว่าเขายุบไปแล้ว หรือ ป.ป.ช.ก็ยืดยาดล่าช้า

#interview #interviews #ThePublisher saveพิรงรอง ดร.พิรงรอง รามสูต พิรงรอง พิรงรองรามสูต สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo