กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม จัดเสวนา “สังคมเศรษฐกิจไทยในนโยบายและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเวที พร้อมด้วย รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และ นายเขตน่าน พิณโสภณ ศิษย์ปัจจุบันคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. รุ่น 2566 โดยมี รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และสื่อมวลชนอาวุโสดำเนินรายการ
เวทีเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมตั้งคำถาม ซึ่งส่วนใหญ่ แสดงความไม่เห็นด้วยกับกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่า ประเทศไทยไม่มีความพร้อม รัฐบาลไม่มีความสามารถในการควบคุม และผลประโยชน์ที่ได้ไม่คุ้มกับปัญหาสังคมที่จะตามมา

กาสิโน-พนันออนไลน์ ถูกกฎหมาย ไม่ได้ช่วยให้ประเทศดีขึ้น
อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย้ำจุดยืนต้านกฎหมายพนันออนไลน์และกาสิโน พร้อมย้อนความว่า ตอนเป็นนายกฯ ได้ขอให้ สสส. เพิ่มการรณรงค์ต่อต้านการพนัน เพราะตระหนักว่าการพนันเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม เขาชี้ว่า รัฐบาลไม่ได้เปิดพื้นที่ถกเถียงเรื่องนี้อย่างจริงจัง แม้แต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ไม่มีการพูดให้ชัดเจนว่ากฎหมายนี้ครอบคลุมอะไรบ้าง
“ไม่มีใครกล้าพูดว่าการพนันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าผิดกฎหมายอยู่นั่นคือสัญญาณที่ถูกต้องให้สังคม ผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อย ถ้าผิดกฎหมายเขาจะไม่เข้าบ่อน แต่ถ้าถูกกฎหมายแล้ว เขาจะลอง และเมื่อของผิดกฎหมายถูกทำให้ถูกกฎหมาย การพนันจะขยายตัวขึ้นมหาศาล เราควรตั้งคำถามว่าประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันเพียงพอหรือยัง? องค์กรบังคับใช้กฎหมายมีความเที่ยงตรงจริงจังหรือไม่? ปราศจากปัญหาทุจริตหรือยัง? ผมเชื่อว่าไม่มีใครคิดว่าเราพร้อมกับสิ่งนี้ ไม่มีเหตุผลทางสังคมใดที่สมควรนำการพนันขึ้นมาอยู่บนดิน แม้แต่จีนยังไม่ยอมให้การพนันอยู่ในประเทศ และพยายามกดดันมาเก๊าให้ลดบทบาทอุตสาหกรรมนี้ลง แม้แต่เรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ รัฐบาลอ้างตัวเลข แต่ไม่เคยวิเคราะห์ว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่”
อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ชี้ว่า รัฐบาลพยายามโฆษณาข้อดีของกาสิโนโดยอ้างรายได้จากนักท่องเที่ยว การจ้างงาน และภาษี แต่ ไม่เคยแจกแจงให้ชัดว่าคุ้มค่าหรือไม่ แน่นอนว่าหากเปิดกาสิโนและพนันออนไลน์ รัฐจะได้
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต รายได้ภาษีเพิ่มขึ้น อ้างว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
และอ้างว่าเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ข้อเท็จจริงคือ “ค่าธรรมเนียมและภาษีที่รัฐได้ หากเปิดแห่งเดียวก็เกิดการผูกขาด ถ้าเปิดหลายแห่ง รายได้ก็จะลดลงเพราะการแข่งขันสูง ถามว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นจริงหรือ? ปัจจุบันธุรกิจบริการก็ขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว กาสิโนจะจ้างคนไทยจริงหรือไม่ หรือสุดท้ายก็ต้องใช้แรงงานต่างด้าว “เรื่องการท่องเที่ยว ผมเห็นว่าไทยมีจุดแข็งมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ถ้ามีใครบอกว่าไม่อยากมาไทยเพราะไม่มีกาสิโน ก็ไม่ต้องมา เพราะผมไม่แน่ใจว่านักท่องเที่ยวแบบนั้นเป็นกลุ่มที่เราต้องการหรือไม่”
“กาสิโนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นจริงหรือ หรือเป็นแค่เงินหมุนเวียนในวงจรพนัน?”
นายอภิสิทธิ์ เล่าว่า เขาไม่เคยเห็นคนที่เข้ากาสิโนแล้วจะไปเที่ยงสถานที่อื่น ๆ แบบครบวงจรตามที่รัฐบาลอ้าง เพราะคนที่เข้าไปเล่นกาสิโน ส่วนใหญ่จะใช้เงินจนหมดตัวจึงค่อยออกมา สุดท้าย เงินไหลเข้าสู่ระบบการพนัน ไม่ได้เข้าสู่เศรษฐกิจจริง อีกทั้งเมื่อคนเล่นการพนันมากขึ้น ปัญหาสังคม อาชญากรรม และหนี้ครัวเรือนก็จะเพิ่มขึ้น “ช่วงที่รัฐแจกเงิน เราพบว่าธุรกิจการพนันมียอดพุ่งขึ้น นี่คือข้อเท็จจริงที่ต้องคิดให้ดี แม้แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ถูกเชื่อมโยงกับกาสิโน รวมถึงปัญหาการฟอกเงิน การพนันไม่ใช่ธุรกิจที่สร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้เศรษฐกิจ ถ้ากาสิโนดีจริง ประเทศพัฒนาแล้วอย่างจีน คงไม่พยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดการพนันออกไปจากประเทศ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะแทบจะไม่ได้เลย”