เพจดัง ‘Drama-addict’ โพสต์ข้อความ หลังมีลูกเพจท่านหนึ่งส่งเรื่องมาเตือนภัย เรื่องการแพ้ยารุนแรง แม้ไม่ได้ระบุยี่ห้อยา แต่อาการแพ้ยาขั้นรุนแรงแบบนี้ สามารถเกิดกับยาได้แทบทุกตัว อยู่ที่ว่าจะโชคร้ายไปมีอาการตอนใช้ยาตัวไหนเข้า หากสงสัยว่ามีอาการแพ้ยา ต้องรีบหาหมอให้ไว อย่าละเลยเด็ดขาด เพราะถ้าแพ้ยารุนแรงอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
โดยเจ้าของเรื่องได้เล่าว่า เธอมีอาการแพ้ยารุนแรง ถึงขึ้นเกิดอาการ Stevens Johnson Syndrome เนื่องจากปกติแล้วทายากลุ่มแก้ปวดไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง แต่พอมาทานยาตัวนี้ กลับมีอาการแพ้รุนแรง ใช้เวลารักษาตัวอยู่ในห้อง ICU นานกว่า 36 วัน โดยไม่ได้ออกมาพักฟื้นข้างนอก เพราะหมอกลัวว่าแผลจะติดเชื้อ
อาการหลังจากเริ่มแพ้ยา
ปากบวม หน้าเป็นตุ่มแดง่วงปากลอกเหมือนแผลร้อนใน มีไข้สูง ตอนแรกคนไข้คิดว่าเป็นอีสุกอีใส จึงไม่ได้ไปโรงพยาบาลในทันที ทิ้งช่วงเวลากระทั่ง 1-2 ทุ่ม ถึงได้ไปโรงพยาบาลแล้วเริ่มรักษาตัว
ปัจจุบันเจ้าของเรื่องออกจากโรงพยาบาลได้ 3 เดือนแล้ว แต่ยังคงมีอาการทางด้านตา เนื่องจากตาบวมเปลือกตาติดกัน ทำให้เปลือกตามีปัญหา ตอนนี้ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมทุก 2 ชั่วโมง มีอาการตาแห้งน้ำตาไหล
ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เจ้าตัวเคยเล่าไว้ตอนปลายปี ตอนเพิ่งป่วยหนักจากเรื่องนี้ ระบุว่า “Steven Johnson Syndrome / Toxic Epidermal Necrolysis (เพิ่งดูจากใบรับรองแพทย์มา)
แพ้ยา ไม่ใช่เรื่องตลก…
บางคนโชคดีไม่แพ้ แต่เราไม่ใช่.. วันที่ 26 กันยายน 2567 ได้เข้าโรงพยาบาลเลือกรักษาที่ศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง เพราะว่าพึ่งรู้ว่าตัวเองแพ้ยาขั้นรุนแรง ไข้ปาไปถึง40องศา เข้าห้อง ICU พี่พยาบาลพากันเช็ดตัว ไข้ไม่ลด ต้องพากันทำซ้ำอีกรอบแบบน้ำชุ่มตัว
อิฉันตอนมีสติก็สั่นไปเลยสิคะ ห้องแอร์อีก จะเล่าเท่าที่จำได้อะนะ อีกวันรอดูอาการก็เริ่มแย่ คุณหมอสั่งยาจาก กทม. สั่งเช้าตอนบ่าย ๆ มาถึงก็ฉีดเลย2เข็ม ตุ่มผื่นเลยหยุดลาม
อีกช่วง1อาทิตย์ให้หลังนี่แหละช่วงวิกฤต ผิวหนังเริ่มพุพอง ตาเริ่มบวมจนเริ่มติดกัน คุณหมอตามาช่วยดูแล ตาต้องครอบคอนแทคเลนส์ไว้ตลอดตาเริ่มมัวมองไม่ชัด ต้องหยอดน้ำตาเทียมตลอด มาที่หน้าคือบวมไม่ไหว เนื้อเยื่อในปากเริ่มลอกหลุดออกมา
ใครที่ได้ไปเยี่ยมเห็นช่วงนั้นคือ…สุดๆละ คุณหมอทางด้านสกินเข้ามาดูแลต่อเรื่องผิว ว่าจะทำยังไงต่อไป จากนี้เริ่มจำไม่ค่อยได้ละเพราะยา หมอต้องจ่ายยาหนักเพราะจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ ค่อยๆทำมาเป็นขั้นตอนรักษามาเรื่อย ๆ เข้าห้องผ่าตัดนี่2รอบได้ คุณหมอดูแลเต็มที่ ตัดมาที่หมอตา คุณหมอสั่งเนื้อเยื่อหุ้มให้จากเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นน้ำท่วมต้องรอ ได้ผ่าอีกทีวันที่16 ตุลา ได้ตัดไหมวันที่31 วันที่1 พฤศจิกา ก็กลับบ้านเลย
ผมนี่ไม่รอด ผมร่วงมาก สุดแล้วต้องโกนรอขึ้นพร้อมกันทีเดียว ตอนนี้กลับบ้านแล้ว ผิวคิ้วขนตาผม รอฟื้นฟูไปอีกเป็นปี แต่แผลนี้คุณหมอบอกว่าไม่เป็นรอยแผลเป็น ไม่ต้องเป็นห่วง รอฟื้นฟูยาว ๆ คิดแง่บวกคือ อิฉันได้ผิวใหม่ ปลอบใจตัวเองไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็กลับมาเหมือนเดิม…🤣🤣 อิฉันว่าฉันเก่งละนะทำใจยอมรับมันได้…. แต่ว่า…พ่อกับแม่เก่งที่สุดที่ผ่านมาได้เช่นกัน แบบที่สุด ทนเห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
ได้ยินเสียงร้องไห้ แต่เราได้แต่นอนฟัง ตอนนี้ผ่านมาละ จะกลับมาตั้งใจกว่านี้ เป็นลูกที่ดีกว่านี้…เคยคิดลบกับตัวเองแล้วครั้งนึง แต่ครั้งนี้ไม่แล้ว….
ใครที่กำลังท้อหรืออะไร คุณไม่ได้ตัวคนเดียวนะ คุณยังมีครอบครัว คนที่รักคุณ เพื่อน ญาติพี่น้อง เขาอยู่ข้างคุณเสมอนะ..✌️❤️