“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกคำสั่งด่วน ห้ามบุคคลที่มีเอี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในพื้นที่ชายแดน พร้อมสั่งขับออกจากพื้นที่ และ ห้ามข้ามไปเมียนมาโดยเด็ดขาด หลังพบเครือข่ายโยงใยกว่า 300-400 กลุ่ม
มาตรการเข้ม กดดันอิทธิพลแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายภูมิธรรมเผยว่า “มาตรการเข้มของไทยได้ผลดี” หลังจากมีการตัดไฟ ตัดน้ำมัน และตัดอินเทอร์เน็ตในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งส่งผลให้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียนมา ปั่นป่วนหนัก โดยเฉพาะที่เมืองพญาตองซู ล่าสุดมีการผลักดันกลุ่ม “จีนเทา” ออกจากพื้นที่ให้ได้ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
จับตา! “ปอยเปต” แหล่งซ่องสุมแก๊งมิจฉาชีพ
รองนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อตรวจสอบขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลังพบข้อมูลว่า แก๊งมิจฉาชีพเริ่มลดขนาดลง จากปัญหาการใช้ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตที่ถูกรัฐบาลไทยกดดัน
นายภูมิธรรมย้ำว่า ขณะนี้ทางการไทยมีรายชื่อเครือข่ายทั้งหมด 300-400 กลุ่ม ทั้งในและนอกประเทศ “ใครคิดจะโวยวาย ขอย้ำว่าทุกอย่างมีหลักฐาน” พร้อมท้า หากใครมีข้อมูลให้ส่งมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
เร่งช่วยเหยื่อ! ส่งกลับประเทศต้นทาง
รัฐบาลไทยเร่งผลักดัน เหยื่อที่ถูกหลอกลวง กลับประเทศต้นทาง โดยร่วมมือกับสถานทูตหลายชาติ ทั้ง ยุโรป แอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเชีย เพื่อให้แต่ละประเทศรับคนของตนกลับไปดูแล
นายภูมิธรรม ยังเตือนคนไทยว่า “อย่าเข้าไปพัวพันกับขบวนการเหล่านี้” เพราะถือเป็นความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด มีโทษหนัก และรัฐบาลไทยจะไม่ปล่อยให้ใครลอยนวล โดยปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้ยังคงดำเนินต่อเนื่อง โดยรัฐบาลไทยประกาศชัดว่า “ไม่มีเส้นตาย” และจะทำจนกว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ