รัฐบาลไทยได้กำหนดเป้าหมายสำคัญใน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยมีแผนจะ ยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ให้ถึง 50 คะแนนภายในปี 2564 แต่ในปี 2567 ที่ผ่านมา คะแนนของไทยกลับอยู่ที่ 34 คะแนน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี
จากสถิตินี้เห็นได้ชัดว่าไทยไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ยังมีแนวโน้มคะแนนลดลงเรื่อย ๆ
ทำไมไทยถึงไปไม่ถึงเป้าหมาย 50 คะแนน?
แม้ว่าภาครัฐจะประกาศมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันหลายอย่าง แต่ปัญหาหลักที่ทำให้คะแนน CPI ของไทยไม่ดีขึ้น ได้แก่
การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มแข็ง – คดีคอร์รัปชันจำนวนมากจบลงโดยไม่มีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง หรือมีบทลงโทษที่ไม่รุนแรงพอจะยับยั้งการกระทำผิด
การทุจริตเชิงโครงสร้าง – รวมถึงการฮั้วประมูลในโครงการภาครัฐ การใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์ และการขาดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง
อิทธิพลของกลุ่มการเมืองและธุรกิจ – นโยบายหลายอย่างถูกชี้นำโดยกลุ่มอำนาจและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งทำให้การปฏิรูปเพื่อเพิ่มความโปร่งใสเป็นไปได้ยาก
การควบคุมเสรีภาพในการตรวจสอบ – นักเคลื่อนไหวและนักข่าวที่พยายามเปิดโปงคดีทุจริตถูกคุกคาม และเสรีภาพสื่อในไทยยังคงมีข้อจำกัด
ผลกระทบของปัญหาคอร์รัปชันที่สะสม
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง – นักลงทุนต่างชาติลังเลที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเนื่องจากความเสี่ยงด้านคอร์รัปชันและการใช้เส้นสาย
งบประมาณที่รั่วไหลกระทบประชาชนโดยตรง – งบที่ควรใช้พัฒนาสาธารณสุข การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ถูกนำไปใช้โดยไม่คุ้มค่า
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายขึ้น – คอร์รัปชันในโครงการพัฒนาและการบุกรุกป่าทำให้ระบบนิเวศถูกทำลายอย่างหนัก
ถึงเวลาปรับแผนใหม่ ก่อนคะแนน CPI จะลดลงอีก
เป้าหมาย 50 คะแนนของไทยอาจไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่หากยังใช้แนวทางเดิม ไทยอาจต้องเผชิญกับแนวโน้มคะแนนที่ลดลงอีก ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า จึงต้องมีการปฏิรูปกระบวนการบังคับใช้กฎหมายให้โปร่งใสและเป็นธรรม ภาครัฐต้องเปิดเผยข้อมูลโครงการและงบประมาณให้ประชาชนตรวจสอบได้ และต้องปกป้องนักข่าวและนักเคลื่อนไหวที่เปิดโปงคดีคอร์รัปชัน
ดัชนี CPI ที่ลดลงเป็นสัญญาณเตือนว่า ยุทธศาสตร์ชาติในการต่อต้านคอร์รัปชันต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพราะหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป เป้าหมาย 50 คะแนนอาจเป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆ
📍 #CPI2024 #คอร์รัปชันไทย #ต่อต้านทุจริต #ยุทธศาสตร์ชาติ #โปร่งใส #ประเทศไทย