รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความเปรียบเทียบพฤติกรรมของพรรคการเมือง ที่ระบุว่าคล้ายหนู
โดยบอกพฤติกรรมของหนูในธรรมชาติ คือไม่เผชิญหน้าตรง ๆ แต่จะซ่อนตัวในที่ปลอดภัย รอเวลาที่เหมาะสม มุดท่อและแอบขโมยอาหาร จากแหล่งที่ปลอดภัย ไม่ได้ออกล่าเอง แต่รอจังหวะที่ไม่มีใครเฝ้า
หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง หรือเกิดภัยคุกคาม จะรีบหนีไปซ่อนตัวและรอดูสถานการณ์ ก่อนตัดสินใจเคลื่อนไหว หนู ปรับตัวเก่ง อยู่รอดได้ในทุกสภาวะ และมีทักษะสูงในการใช้สภาพแวดล้อมให้เป็นประโยชน์
พฤติกรรมของพรรคการเมืองแบบหนู คือไม่เคยเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” แต่เลือก มุดท่อ รอเวลา และฉวยโอกาส เมื่อมีความเคลื่อนไหวใหญ่ทางการเมือง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคแบบนี้ก็เลือก อยู่เฉย ลอยตัว เลี่ยงความรับผิดชอบ รอจังหวะที่ปลอดภัยที่สุด แต่พร้อมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในเวลาที่เหมาะสม มุดท่อเพื่อความอยู่รอด เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นเป้า ฉวยโอกาสขโมยอาหาร/อำนาจ พรรคเข้าร่วมรัฐบาลทุกยุค ไม่ว่าผู้มีอำนาจจะเป็นใคร ก็พร้อมร่วมมือเพื่อคงอยู่ในระบบ
ตอนท้ายสรุปว่า พรรคแบบหนูในสนามอำนาจ “ไม่เคยออกมาสู้ตรง ๆ แต่คอย มุดท่อ ซ่อนตัว และฉวยโอกาสจากสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดและคงอำนาจไว้เสมอ
ทั้งหมดไม่รู้ว่า รศ.ดร.พิชายหมายถึงหรือเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองใด หรือเอ่ยถึงใคร