ขณะที่กระแสผลักดันกาสิโนถูกกฎหมายเดินหน้าเต็มสูบ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้เปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วม ผ่านการลงชื่อ 50,000 รายชื่อเพื่อขอทำประชามติ ซึ่งดำเนินการไปสองสัปดาห์ ได้รายชื่อมาแล้วราว 20,000 รายชื่อ ทำให้ต้องเร่งเครื่องให้ทันต่อการผลักดันของรัฐบาล
นายธนากรให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร ระบุว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและรัฐบาล ขอให้เปิดโอกาสให้ประชาชนมีเวลาเพียงพอในการรวบรวมรายชื่อ
“เราขอเวลา 60 วันเพื่อรวบรวมรายชื่อ เพราะนี่คือสิทธิของประชาชนตามกฎหมาย สิ่งสำคัญคือรัฐบาลจะใจกว้างพอหรือไม่ หากรีบร้อนผลักดันกฎหมายโดยไม่รอเสียงประชาชน ก็ต้องเตรียมรับแรงกดดันจากสังคม”
งง “คลัง” เปิดฟังความเห็นรอบ 3 ร่างเดิม!
นอกจากความล่าช้าในการรวบรวมรายชื่อ เลขาฯ หยุดพนัน ยังแสดงความประหลาดใจที่กระทรวงการคลังเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เป็นรอบที่สาม ทั้งที่การรับฟังรอบสองเพิ่งปิดไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
ที่น่าสงสัยคือ ร่างกฎหมายที่เปิดรับฟังใหม่นี้ยังคงเป็นฉบับเดิม ไม่ใช่ร่างที่สำนักงานกฤษฎีกาปรับปรุง ซึ่งสร้างข้อกังขาว่าทำไมถึงไม่นำร่างฉบับที่แก้ไขแล้วมารับฟังความคิดเห็น
“กฎหมายสองฉบับคือ สถานบันเทิงครบวงจรกับร่างแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน เปิดช่องพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มีความเกี่ยวข้องกับการพนันโดยตรง และมีผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก รัฐบาลไม่ควรใช้ ทางเร็ว ทางลัด เร่งรัดกระบวนการ แต่ต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบ ไม่ใช่คิดง่าย ๆ” นายธนากรกล่าว
“เดิมพันอนาคตสังคม: รัฐบาลจะฟังเสียงประชาชน หรือเร่งเปิดกาสิโน?”
ประเด็นนี้กลายเป็นคำถามสำคัญต่อรัฐบาล ว่าจะให้โอกาสประชาชนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการแสดงความคิดเห็น หรือจะผลักดันให้กาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายโดยไม่มีการทำประชามติ
การเดินหน้าออกกฎหมายเกี่ยวกับการพนันทั้งสองฉบับ กำลังถูกจับตาจากหลายฝ่าย ว่าจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริง หรือเพื่อประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มกันแน่?