• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»News»รวมพลคนห่วงชาติ สัญญาณกระตุกรัฐบาลคุณหนู
News

รวมพลคนห่วงชาติ สัญญาณกระตุกรัฐบาลคุณหนู

12/12/20242 Mins Read
Facebook Twitter

จากกรณีที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้เคยจัดการชุมนุม อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรรุ่นที่ 1-2 อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. และอดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นัดรวมตัวร่วมรับประทานอาหารค่ำ เป็นภาพที่ไม่มีใครคาดคิดว่าสักวันหนึ่งจะได้เห็น แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว จนเกิดการตั้งคำถามจากกลุ่มคนเสื้อหลากสีทั้งสองฝั่ง ว่าหรือนี่อาจจะเป็นการผนักกำลังเพื่อส่งสัญญาณเตือนบางอย่างที่อาจจะส่งผลถึง “รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์”

โดย ‘The Publisher’ มีโอกาสได้คุยกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ปธ.ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ที่มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นนี้อย่างหมดเปลือก

The Publisher: บรรยากาศเป็นอย่างไร พบกันที่ไหน อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการนัดหมายกัน?

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: จู่ ๆ ได้รับโทรศัพท์เชิญมาทานข้าวพูดคุยปัญหาชาติบ้านเมือง เราก็งง ๆ ว่าตกลงใครเป็นคนนัด จริง ๆ ก็ยอมรับว่าทนายนกเขาเป็นคนนัด หลังจากที่ไปถึงแล้วตกใจเลยผมคิดไม่ถึงว่าผมจะไปเจอแนวร่วมเดินทางแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันเยอะขนาดนี้ คือมีตั้งแต่รุ่นอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อาจารย์แก้วสรร อาจารย์กิตติศักดิ์ อาจารย์อีกหลายท่านแล้วก็มาเจอแนวร่วมนปช. นำโดยคุณจตุพร ตัวแทนของคุณสนธิก็คืออาจารย์ปานเทพ แล้วมาเจอกับพี่น้องคปท. พูดง่าย ๆ คือหลายภาคส่วนมากนับดูแล้วน่าจะร่วม 30 คน ทุก ๆ คนที่มาร่วมกันบอกว่าคิดไม่ถึงว่าจะมาร่วมพร้อมหน้าพร้อมตากันเยอะขนาดนี้แล้วทุกคนก็มาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทุกคนมาด้วยความรู้สึกอึดอัดขอให้มีการนัดหมายแล้วทุกคนก็พร้อมจะมาอันนี้คือความรู้สึกที่ผมถ่ายทอดออกมาถามว่าประเด็นที่มีการถกกัน คือผมพูดได้เต็มปากเนื่องจากว่าหลายท่านบอกว่าไม่ต้องเป็นความลับ ทุกคนอึดอัดรัฐบาลอุ๋งอิ๋งทุกคนมองว่ารัฐบาลอุ๋งอิ๋งไปไม่ไหวประเทศชาติเสียหายหนักมากทุกคนเชื่อว่าอย่างนั้นแล้วตอนนี้ ภาษาชาวบ้านก็คือ ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้ว อีกท่านหนึ่งที่เป็นนักธุรกิจก็บอกว่าตั้งแต่ทำธุรกิจมา 30 กว่าปี โควิดที่ว่าแย่แล้วยุคอุ๋งอิ๋งแย่กว่าหลังจากที่ถกกันหลายหลายคนให้โอกาสหลายฝ่ายได้พูดบทสรุปก็คือขณะนี้เรากำลังถูกครอบงำจากระบอบทักษิณใหม่ ประเด็นที่มีการพูดคุยหลัก ๆ ก็คือประเด็นเรื่องเอ็มโอยู 44 และประเด็นเรื่องนักโทษเทวดาชั้น 14 แล้วก็ด้วยบทสรุปคือทุกคนมองว่าเอ็มโอยู 44 มันอยู่ในอารมณ์ของประชาชน แต่ละฝ่ายทำอะไรประชาชนก็สนใจที่จะมาร่วมไม้ร่วมมือ

ที่จับต้องได้มากที่สุดก็คือคุณสนธิคุณปานเทพเป็นแกนนำในการนัดหมายมวลชนอีกประเด็นหนึ่งที่รู้สึกว่าไม่โอเคกันมากคือประเด็นนักโทษเทวดาชั้น 14 แล้วมีคนมีให้ข้อมูลวงในว่า ปปช. กำลังถูกทยอยซื้อวันนี้ปปช. มีหกคนถูกซื้อไปแล้วหนึ่ง แล้วก็คนที่สองล่าสุดได้รับรายงานเมื่อคืนนี้คนที่สองก็น่าจะนัดกันแล้วถูกซื้อเมื่อวานนี้ซึ่งถ้าหากเขาซื้อได้อีกหนึ่งคน คดีนักโทษเทวดาชั้น 14 ซึ่งหมายถึงไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลตำรวจหรือว่าราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ดีไม่ดีมีปัญหาแน่ ๆ ถ้าเค้าซื้อคนที่สามได้มันก็สามสาม

ที่ประชุมก็คือมันก็คุยกันว่าเบื้องต้นต้องแสดงพลังร่วมกันสักหน่อยนึงผมประกาศเลยว่าวันที่ 18 มีการนัดหมายว่าจะไปที่ปอปอชอ นี่คือภาพรวมทั้งหมดเพราะว่าสุดท้ายแล้วที่เราเสียเวลา ยืดเยื้อให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นแล้วคนมันเยอะมันเสียเวลามันคุยกันตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม

The Publisher: ประเด็นขับเคลื่อน วันที่ 18 คืออะไร?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: กรณีนักโทษชั้น 14 เข้าใจว่าคณะกรรมการไต่สวนได้มีบทสรุปแล้ว ตอนนี้จะเสนอสู่ที่ประชุมใหญ่ของปปช. และตามกระแสข่าวคือเค้าพยาพยามวิ่งเต้นปปช. ให้ได้สามคน ทางพวกเราก็ต้องแสดงบางสิ่งบางอย่าง

The Publisher: ข่าวที่เราได้มาว่าน่าจะมีเรื่องการวิ่งเต้นกับ ปปช. เชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง? เพราะก่อนหน้านี้ปปช.เขาพยายามออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง?

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: คือ คนที่ได้เข้ามาชี้แจงให้ที่ประชุมได้รับทราบนั่นก็คือเชื่อว่าจริง ขนาดตอนนี้ซื้อไปแล้วได้สองคน ถ้าเขาได้สามคนทุกอย่างจะจบเลยนะ มันก็จะสามสามซึ่งก็จะเป็นปัญหาละ

The Publisher: ตามข่าวเหมือนว่าในชั้นอนุฯ ชี้แล้วว่ามีความผิดแต่มีการวิ่งเต้น คุณวัชระออกมาพูด ไอ้โม่งว.แหวน ไปเปลี่ยนว่าให้ยุตติมันเป็นข้อมูลเดียวกันกับวงสนทนาเมื่อวานหรือไม่?

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: เมื่อคืนก็มีการพูดถึงคน ว.แหวน เหมือนกัน คน ว.แหวน เข้าใจว่า เบ็ดเสร็จแล้วจบแล้ว เปลี่ยนตัวขับเคลื่อนแล้ว แล้วก็มีการพูดถึงบุคคลที่สองเชื่อว่ามีการซื้อได้เรียบร้อยแล้วเพราะงั้นจึงเป็นที่ห่วงใยของที่ประชุมแล้ว เขาก็เลยมีการเสนอว่าน่าจะต้องไปแสดงออกตอนสืบพยาน ก่อนที่มันจะสายเกินไป

The Publisher: ในวันที่ 18 มีข้อเรียกร้องอะไรนอกจากการแสดงออกที่ปปช. หรือไม่?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: เนื่องจากว่า ปปช. ยังไม่มีมติ อย่างน้อยการแสดงออกจะเป็นเรื่องของให้กำลังใจเพื่อกดดัน แต่ผมเชียร์ให้เห็นว่าวันนี้เชื่อว่าระบอบทักษิณใหม่ที่กำลังเข้ามาครอบงำประเทศไทย แล้วก็มีท่านหนึ่งผมไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน ระบอบทักษิณใหม่น่ากลัวกว่าระบอบทักษิณเก่าตรงที่ว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เรื่องการทุจริตคอรัปชั่นเหมือนเดิม แต่ระบอบทักษิณใหม่พยายามพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เห็นด้วยกับระบอบทักษิณใหม่ อันนี้คือจุดอันตรายระบอบทักษิณเก่านี่พูดง่ายท ๆ ว่าจาบจ้วงอยู่แล้ว แต่ระบบทักษิณใหม่จะมีมุมแบบนี้ที่มันแตกต่างกันออกไป

The Publisher: หมายถึงว่าเราเห็นว่าเหมือนเขาแอบอิง?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ผมหมายถึง “แอบอ้าง”

The Publisher: จะมีพลังเพียงพอที่จะทำให้คนในสังคมได้เห็นปัญหาเหมือนที่เราเห็นไหม?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ถ้าพูดกันตามตรงเราต้องยอมรับว่านี้พลังทางสังคมค่อนข้างจะชัดเจนในเรื่องของเอ็มโอยู 44 เมื่อวานในที่ประชุมก็เลยไม่ได้พูดเรื่องเอ็มโอยู 44 มาก เพราะถือว่าค่อนข้างจะโอเคแล้วประเด็นต่าง ๆ มันชัดแล้วมันเดินต่อได้ แต่จุดอันตรายก็คือนักโทษเทวดาชั้น 14 ซึ่งถูกเรื่องอื่นมากลบแล้วมันหายไปเพราะงั้นเราต้องพยาพยามเอาเรื่องนี้ขึ้นมาในกระแสสังคมอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นสองเรื่องที่คิดว่าจะต้องมีการขับเคลื่อนอย่างจริงจังแต่ผมต้องออกตัวนิดนึง

เมื่อวานคุยกันหลายเรื่องมากถึงทิศทางที่จะต้องดำเนินการเนื่องจากมันเป็นการเจอครั้งแรกในกลุ่มใหญ่ก็เลยมีการเสนอว่าน่าจะต้องเจอกันอีก จะต้องหาตัวแทนที่เป็นกลุ่มเล็กขึ้นมาเพื่อคุยในเชิงยุทธศาสตร์ แล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งที่คุยกันว่าควรจะต้องตั้งชื่อกลุ่มไหม คุยกันไปคุยกันมาได้บทสรุปเบื้องต้นเอาหลวม ๆ ก่อนดีกว่า เอาเป็นว่ามาด้วยความรู้สึกด้วยหัวใจก็คือไม่ต้องตั้งชื่อกลุ่มใครพร้อมก็มา

The Publisher: จะมีความเป็นเอกภาพแค่ไหนในการรวมกลุ่มกัน?

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: เมื่อวานก็คุยกันเรื่องนี้เราก็ต้องยอมรับว่าต่างคนต่างมา บางคนเกือบตีกันเกือบทะเลาะกันแต่หัวใจมันตรงกัน ตรงที่ไม่โอเคกับเราบอกทักษิณใหม่ไม่ไหวแล้วโว้ยกับรัฐบาลอุ๋งอิ๋ง ถ้าอารมณ์นี้เป็นอารมณ์ร่วม อารมณ์นี้จะเป็นอารมณ์ที่ขับเคลื่อนในการทำงานจุดที่ขัดแย้งกันในอดีตทุกคนก็เข้าใจได้อันนั้นมันคือเรื่องอดีต

The Publisher: คิดอย่างไรหากมองในมุมของรัฐบาลกับประโยคที่ว่า “หน้าเก่าเจ้าเดิมคนเกลียดทักษิณ”?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: จริง ๆ เรื่องนี้ก็มีการคุยกันอยู่เหมือนกัน แต่มันคือคอนเทนท์ที่คุณเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่ว่าคุณทำดีแล้วเราไปจงเกลียดจงชัง ไม่ใช่ แต่ที่คุณทำแต่ละเรื่อง เรื่องนักโทษชั้น 14 เรื่องเอ็มโอยู 44 มันเป็นสิ่งที่พวกคุณทำเองทั้งสิ้น เขาก็ยื่นหนังสือเตือนแล้ว คุณก็พยายามไปแทรกแซงปปช. ทุกอย่างมันอยู่ที่คอนเทนท์ มันอยู่ที่สาระที่พวกคุณจะทำ

The Publisher: คิดอย่างไรกับคำว่า “เขาก้าวข้ามทักษิณไปนานแล้วทำไมคนกลุ่มนี้ถึงไม่ยอมก้าวข้ามกันไปอีก”?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: พวกคุณยังไม่ก้าวข้ามความชั่วร้ายที่พวกคุณเคยทำเลย คุณก็พูดไปเรื่อยพูดแบบลมออกปากไปเรื่อย แต่ความชั่วร้ายที่พวกคุณกระทำพวกคุณก็วนการสร้างภาพอยู่เหมือนเดิมแต่หนักกว่าเดิมที่แอบอ้างสถาบันนี่จริง ๆ ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่าโหนเจ้าตัวจริง ลองสังเกตดูเค้าพยาพยามจะแอบอ้างสถาบันอ้างอยู่เรื่อยๆ

The Publisher: ถ้าฟังคุณทักษิณปราศรัย เมื่อวาน ก็จะมีคำลักษณะนี้อยู่ เช่น มารับใช้ประชาชนมารับใช้พระยุคลบาท?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: นั่นคือสิ่งที่พวกเราได้คุยกันเมื่อคืนนี้ นั่นคือการแอบอ้าง ภาษาพวกนี้มันเป็นภาษาที่บ่งบอกได้เลยว่าประชาชนจะเข้าใจผิด นี่คือจุดอันตรายที่ทำให้ยิ่งแอบอ้างยิ่งทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันเบื้องสูงด้วย

The Publisher: ถ้าเราดูหลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วเราจับอารมณ์ความรู้สึกที่จะขับเคลื่อนร่วมต่อไป ยังมีพลังมากน้อยแค่ไหน?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ทุกคนมั่นใจว่ามีพลังแล้ว ทุกคนมั่นใจว่าอารมณ์ของประชาชนพร้อม เราวัดจากการที่คุณปานเทพ คุณสนธิ ได้ขยับแบบพื้น ๆ ถ้าดูแล้วไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ คนเค้าพร้อมทุกคนเบื่อหน่ายแล้วก็รีเฟคหมายถึงอารมณ์ตัวเอง ว่าทำไมเรามาเพราะทุกคนมันอึดอัดแล้วทนไม่ไหวแล้ว ที่ประชุมทุกคนพูดแล้วยึดอารมณ์เดียวกันเลยไม่คิดเลยว่าจะเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้ ถ้าเป็นอารมณ์ปกติไม่มากันหรอก

The Publisher: กลุ่มพันธมิตรเดิมเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้หรือไม่?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ยืนยันว่าไม่ใช่ ตอนแรกผมเข้าใจอย่างนั้น แต่ไม่ใช่เพราะว่าตัวแทนพันธมิตร อย่างเช่น คุณปานเทพ ก็เป็นแขกกลับกลายเป็นว่าเป็นนักวิชาการเป็นคนขยับ พวกอาจารย์ต่าง ๆ เป็นคนขยับเราก็ต้องยอมรับว่าพวกอาจารย์ข้อมูลข่าวสารเค้าลึกซึ้งกว่าพวกเราการศึกษาข้อมูลเขาลึกซึ้งกว่าความรู้สึกที่ทนไม่ไหวแล้วโว้ย เค้าอาจจะไม่ไหวแล้วก็เลยมากินข้าวกันหน่อยสิเพราะงั้นผมบอกได้เลยว่าอาจารย์สายวิชาการเป็นคนขยับพวกเรากับกลายเป็นแขกที่ถูกเชิญไปแม้แต่พันธมิตรก็เป็นแขกที่ถูกเชิญมาแต่ว่าจะเปิดกว้างในการฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายย้ำอีกนิดนึงนะเนื่องจาก ที่ประชุมบอกว่าไม่ต้องไปปิดบังเป็นความลับเผยแพร่ได้มันก็เลยมีภาพพรุ่งนี้ออกไป

The Publisher: หลังจากที่ไปปปช.มีแผนหลังจากนั้นอย่างไร?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ผมว่าอาจจะต้องมีการประชุมกันต่อเพราะว่ามันมีการเจอกันครั้งแรกมีบทสรุปมีงานออกมาก็ถือว่าสุดยอดแล้วสำหรับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมือพระกาฬทุกคนโดยปกติเค้าไม่ค่อยฟังกันหรอกแต่เมื่อคืนมีบทสรุปได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว

The Publisher: เขาปรามาสกันไว้ว่าจุดไม่ติดหรอกคุณหมอมองอย่างไร?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ภาษาชาวบ้านใช้คำว่าปากกล้าขาสั่น เอาแค่วันที่คุณสนธิคุณปานเทพไป มันได้ใจความรู้สึกคนไทยทั้งประเทศ เพราะว่าไม่ต้องไปโทษใครรัฐบาลคุณทำของคุณเองติดไม่ติดก็เป็นเรื่องของรัฐบาลจะทำให้ติดก็รัฐบาลทำ ถ้ารัฐบาลทำดีคนก็ไม่อยากมาหรอกเรื่องนี้ไม่ต้องไปโทษใครเลย ม็อบมันเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลทั้งสิ้นติดไม่ติดก็อยู่ที่รัฐบาล

The Publisher: จะอธิบายอย่างไรเวลาที่เขาบอกว่ายังเสียหายไม่พออีกหรอ สุดท้ายจะปูทางไปรัฐประหารหรือเปล่า?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ต้องถามคนมีอำนาจเพราะคนมีอำนาจเป็นผู้กำหนดเกมเลิกม็อบจะจุดติดไม่ติดอยู่ที่รัฐบาลคุณเคยมีอำนาจมาแล้วคุณเคยสร้างความเสียหายมาแล้วมันยังเสียหายไม่พออีกหรอคุณอยากให้ประวัติศาสตร์มันเกิดซ้ำรอยหรอ ถ้าคุณไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันเกิดซ้ำรอยคุณก็ทำสิ่งที่ดีดีให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตประชาชน เขาโอเคหมดเลย แต่อันนี้คุณทำคุณไม่เคยฟังประชาชนเลยแถมคุณยังให้เขมรมาปล้นทรัพย์สมบัติที่เป็นทรัพยากรของประเทศชาติด้วย ใช้อำนาจไม่ชอบด้วยปล่อยนักโทษคดีทุจริตจำนำข้าว รัฐบาลประเทศชาติเสียหายมาแล้ว แต่คุณไม่เรียนรู้มันเลยเหรอ คุณยังต้องการให้มันเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรอ แล้วผมบอกไว้เลยว่ารับรองประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย แต่ประวัติศาสตร์จะสร้างประวัติการใหม่ จะเกิดประวัติศาสตร์ใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะพวกเราเรียนรู้มาหมดแล้วรัฐบาลก็มองเกมออก เพราะตอนนี้เรากำลังกำลังสู้กับนิวจีนของทักษิณ เราก็ต้องใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ในการต่อสู้เพื่อให้เกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่

The Publisher: เพราะว่าถ้าเราดูบริบททางกฎหมายมันก็เปลี่ยนไปหลายอย่างเพราะสมัยก่อนมันไม่มีพรบ.ชุมนุมสาธารณะ แต่เดี๋ยวนี้จะมีการชุมนุมพักค้างเหมือนในอดีต เทคโนโลยีก็เปลี่ยนไปด้วย?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ใช่ๆๆ เราต้องยอมรับนะว่าเอ็มโอยู 44 ที่เห็นรัฐบาล แทบจะไม่มีพื้นที่ในการให้ฝ่ายที่คัดค้านได้มาถูกรัฐบาลไม่เคยมีเลยการนำเสนอค่อนข้างจะปิดกั้นโซเชียลมีเดียเป็นตัวกดดันรัฐบาลวันนี้ งั้นเราก็ต้องเรียนเรียนรู้จากเทคโนโลยีที่มันเปลี่ยนไป

The Publisher: ตอนนี้พลังแห่งโลกโซเชียลมันแรงกว่าสื่อกระแสหลัก?


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ผมขอเสริมนิดนึงผมเห็นฝั่งที่จะเชียร์เอ็มโอยู ชอบอ้างว่าเอ็มโอยู 44 มัน 23 ปี แล้วทำไมคุณพึ่งมาตื่น จริง ๆ แล้ว ข้อมูลข่าวสารเมื่อ 23 ปีที่แล้วค่อนข้างเข้าถึงยากมากแล้วสำคัญคือในยุคลุงตู่ก็ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือที่จะอะไรกับเขมรเลย ทำให้เรื่องเหล่านี้ไม่ได้รับความสนใจ แต่มายุคนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้กระเหี้ยนกระหือรือที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับเขมรมากผิดปกติ และเร่งรีบที่จะดำเนินการโดยที่ไม่สนใจและข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่ายประกอบกับเรามีโซเชียลมีเดียอย่างเช่น TikTok ที่มันจะคอยเผยแพร่ข้อมูลต่างๆเยอะมากมันจึงทำให้ทุกคนตื่นแล้วผมเชื่อว่ามันเลยทำให้ทุกคนตื่นประชาชนก็เข้าใจ

#interview #ThePublisher News รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ รัฐบาลแพทองธาร สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม เพื่อไทย
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo