14 กุมภาพันธ์ นอกจากจะเป็นวันวาเลนไทน์ ยังเป็น วันสุดท้ายของการเปิดรับฟังความคิดเห็น ต่อสองร่างกฎหมายใหญ่ที่อาจเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจไทยไปตลอดกาล – ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่เปิดทางให้มี เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การพนัน ที่เตรียมเปิดไฟเขียวให้ การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
ในขณะที่เสียงสนับสนุนและคัดค้านยังคงดังอยู่ทั่วประเทศ “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาย้ำว่า เศรษฐกิจไทยต้องการแรงขับเคลื่อนใหม่ พร้อมหนุนให้รัฐบาล ปลดล็อกข้อจำกัดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลักดันสถานบันเทิงครบวงจร โดยเชื่อว่า จุดหมายของนักท่องเที่ยวไม่ใช่แค่กาสิโน แต่คือการพักผ่อน การกิน ดื่ม ช็อป และท่องเที่ยวในมิติที่กว้างขึ้น
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การถกเถียงเรื่อง กาสิโนและการพนันออนไลน์ ทวีความเข้มข้นขึ้น โดยฝ่ายสนับสนุนชี้ว่า ประเทศไทยกำลังเสียโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ฝ่ายคัดค้านกังวลว่าการเปิดเสรีการพนันอาจนำไปสู่ปัญหาสังคมและอาชญากรรม
พิชัยมองว่า การตั้ง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ควรถูกมองเป็น แพลตฟอร์มท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ มากกว่าการเป็นศูนย์กลางของการพนัน และอ้างอิงโมเดลจากต่างประเทศที่แสดงให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่ ส่วนใหญ่มุ่งเน้นกิจกรรมพักผ่อน มากกว่าการเข้าไปเล่นพนัน
ขณะเดียวกัน กระแสเรื่อง การปลดล็อกเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษา มาตรการยกเลิกข้อห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00 – 17.00 น. และการห้ามขายในวันสำคัญทางพุทธศาสนา โดยชี้ว่า หากการปรับเปลี่ยนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และมีผลดีมากกว่าผลเสีย ก็ควรเดินหน้า
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เสนอให้รัฐบาล นำร่องเพียงแห่งเดียวก่อน แทนที่จะเปิดถึง 4 แห่ง ซึ่งพิชัยระบุว่า “ก็รับไว้พิจารณา”
ท่ามกลางการถกเถียงอย่างเข้มข้น หนึ่งในคำถามใหญ่ที่หลายคนตั้งไว้คือ รัฐบาลจะต้องทำประชามติหรือไม่? พิชัยตอบว่า มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าประเด็นนี้ต้องถึงขั้นทำประชามติหรือไม่
14 กุมภาพันธ์จึงไม่ใช่แค่วันแห่งความรัก แต่ยังเป็นวันแห่งการตัดสินใจ ว่า เสียงของประชาชนจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือเป็นเพียงพิธีกรรมหนึ่งในกระบวนการทางกฎหมาย
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือ รัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไร? และความคิดเห็นของประชาชนจะมีผลต่อการตัดสินใจมากน้อยแค่ไหน?